ข่าว:

ห้ามโพส ปั่นลิงก์ SEO ในส่วนของ ลายเซ็นสมาชิกเพื่อจะแสดงที่ด้านล่าง ของแต่ละข้อความที่ตอบกระทู้ เช่น คาสิโน บาคาร่า แทงบอล ฯลฯ เด็ดขาด หากพบจะแบนสมาชิกนั้นออกจากบอร์ดทันที

Main Menu

‘ดีป้า’ จับมือ ‘ท่าเรือ’ ใช้ดิจิทัลพลิกแหลมฉบังเป็นท่าเรืออัจฉริยะ

เริ่มโดย mrtnews, พ.ย 08, 18, 16:12:50 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) รับนโยบายเมืองน่าอยู่จากคณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ซึ่ง พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เข้าจับมือการท่าเรือแห่งประเทศไทย พัฒนาแหลมฉบังเป็นท่าเรืออัจฉริยะนำร่องสู่การเป็นสมาร์ทอีอีซี ผอ.ดีป้า เผยคาดสามารถลดใช้พลังงานได้ไม่น้อยกว่า 700 ล้านบาท และสร้างเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้ถึง 1,000 ล้านบาท


ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) เปิดเผยว่า จากที่ดีป้า ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ในพื้นที่โครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือสมาร์ทซิตี อีอีซีนั้น ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ดีป้า ได้เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจและต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ร่วมลงพื้นที่เพื่อศึกษาและเข้าใจพื้นที่และสถานการณ์ที่แท้จริง เพื่อนำไปพัฒนาต่อยอดได้ และนำไปสู่การพัฒนาให้เป็นเมืองอัจฉริยะอย่างแท้จริง

ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่ภาคตะวันออกนั้น พบว่า ในพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ประสบปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณถนนทางเข้าหน้าด่านตรวจสอบสินค้า และถนนภายในท่าเรือแหลมฉบัง ในช่วงเวลาที่เรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่เข้าเทียบท่า ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่มีผลกระทบต่อเนื่องในหลายๆ ด้าน ทั้งในแง่ของปัญหาการจราจรติดขัดต่อเนื่องจากภายในท่าเรือออกไปภายนอก ปัญหาความสูญเสียทางด้านเศรษฐศาสตร์ ปัญหาสิ่งแวดล้อม ซึ่งส่งผลกระทบต่อชุมชนโดยรอบ


"จากปัญหาดังกล่าว ทางดีป้าจึงได้หารือกับการท่าเรือแห่งประเทศไทย เพื่อแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ด้วยการสนับสนุนภาคเอกชน ผ่านกองทุนดีป้า เพื่อร่วมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล เพื่อพัฒนาระบบท่าเรืออัจฉริยะ ที่ประกอบด้วยระบบต่างๆ เช่น ระบบรถบรรทุกอัจฉริยะ และกระบวนการจัดการรถขนส่งตู้สินค้า การเชื่อมโยงระบบปฏิบัติการเทอร์มินัลของท่าเรือต่างๆ ในบริเวณท่าเรือแหลมฉบัง การเชื่อมต่อระบบตารางเรือกับระบบ National Single Window (NSW) ของกรมศุลกากร ซึ่งหากโครงการพัฒนายกระดับท่าเรือแหลมฉบัง สามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จสมบูรณ์ เชื่อว่าจะสามารถแก้ปัญหาการจราจรภายในท่าเรือแหลมฉบังได้ รวมถึงลดการใช้พลังงาน เนื่องจากการรอคิวของรถบรรทุกได้มากกว่า 700 ล้านบาทต่อปี ลดปริมาณรถหัวลากเที่ยวเปล่า อีกทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการนำเข้าส่งออก ของท่าเรือแหลมฉบังได้อีกด้วย รวมถึงยังก่อให้เกิดมูลค่าที่หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท" ดร.ณัฐพล กล่าว

อย่างไรก็ตาม ผอ.ดีป้า เสริมว่า การใช้ดิจิทัลพัฒนาสู่การเป็นท่าเรืออัจฉริยะในครั้งนี้ เป็นโครงการนำร่องเพื่อขยายศักยภาพพื้นอีอีซี ถือเป็นการส่งเสริมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการระบบลอจิสติกส์การส่งออกนำเข้าให้แก่ท่าเรืออื่นๆ ด้วย



ที่มา Data & Images -






..