ญี่ปุ่น - อินเดีย จับมือตั้งกลุ่มผู้ซื้อก๊าซ LNG เพื่อเพิ่มกลไกต่อรอง

[mrtnews]

ญี่ปุ่นจับมืออินเดียตั้งกลุ่มผู้ซื้อก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) หวังเป็นกลไกต่อรองกับประเทศผู้ส่งออกให้ได้ราคาที่ถูกลงในอนาคต เตรียมชักชวนประเทศผู้นำเข้า แอลเอ็นจี รายอื่นๆ เข้าร่วมกลุ่มในลักษณะพหุภาคี

เดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัล รายงานว่า ประเทศในเอเชียเป็นผู้นำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลวหรือแอลเอ็นจี ซึ่งใช้วิธีขนส่งด้วยเรือเดินสมุทรขนาดใหญ่ ต้นทุนดังกล่าวทำให้ผู้บริโภคในประเทศนำเข้าต้องจ่ายเงินซื้อก๊าซในอัตรา 5-6 เท่าของผู้บริโภคในประเทศแถบอเมริกาเหนือที่ใช้วิธีการขนส่งลำเลียงก๊าซแอลเอ็นจีทางท่อก๊าซ อีกทั้งยังมีแหล่งก๊าซที่ผลิตจากชั้นหินใต้ดิน (shaledeposits) หลายแห่งทำให้ราคาก๊าซธรรมชาติลดลงมาในภูมิภาคอเมริกาเหนือ นอกจากนี้ค่าเงินในเอเชียที่อ่อนตัวลงในบางช่วงยังทำให้ต้นทุนการนำเข้าก๊าซสูงขึ้นและมีผลต่อราคาด้วย

ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ( 9 ก.ย. 56 ) นายโทชิ มิตสุโมเทกิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น (เมติ) และ นายวีรัป ปามอยลี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงปิโตรเลียมและก๊าซธรรมชาติของอินเดีย ได้ร่วมกันลงนามในข้อตกลงดังกล่าว ซึ่งมีเป้าหมายให้เป็นกลุ่มองค์กรในลักษณะพหุภาคี ที่มีญี่ปุ่นและอินเดียเป็นประเทศผู้ร่วมก่อตั้งทั้งสองฝ่ายแถลงข่าวร่วมกันว่า ก๊าซแอลเอ็นจีในภูมิภาคเอเชียมีราคาสูงกว่าราคาในภูมิภาคอื่นๆ อยู่มาก ไม่ว่าจะเป็นยุโรปหรืออเมริกาเหนือ ทั้งญี่ปุ่นและอินเดียจะเชิญชวนให้ประเทศผู้นำเข้าก๊าซแอลเอ็นจีรายอื่นๆ ในเอเชีย อาทิ เกาหลีใต้ และ สิงคโปร์ เข้าร่วมกลุ่มด้วย

ปัจจุบันการซื้อขายก๊าซแอลเอ็นจีในเอเชียส่วนใหญ่เป็นสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ที่ทำกันเป็นระยะยาวมีการขนส่งทางทะเลและอิงกับราคาน้ำมันดิบ ในระยะหลายปีที่ผ่านมาราคาซื้อขายที่อิงกับน้ำมันดิบมีราคาถีบตัวสูงกว่าก๊าซที่ลำเลียงส่งขายทางท่ออยู่มาก ญี่ปุ่นเป็นประเทศผู้นำเข้ารายใหญ่ที่พยายามเจรจากับประเทศผู้ส่งออกขอทำสัญญาซื้อขายที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น เช่น ขอให้เป็นราคาที่อัตรา ณ เวลารับมอบ และให้อิงราคากับราคาก๊าซธรรมชาติในตลาดสหรัฐอเมริกา แทนการอิงราคากับน้ำมันดิบ และต้องทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าระยะยาว

"ราคาก๊าซแอลเอ็นจีควรจะอยู่ในระดับอัตราที่เหมาะสมและเป็นที่ยอมรับได้ทั้งในแง่ของผู้ผลิตและผู้ใช้"แถลงการณ์ร่วมของญี่ปุ่นและอินเดียระบุทั้งนี้ประเทศผู้นำเข้าแต่ละรายในเอเชียยังต่างนำเข้าโดยราคาในสัญญาซื้อขายไม่มีการเปิดเผยหรือแลกเปลี่ยนกันเป็นข้อมูลไม่มีการจัดทำดัชนีราคาที่สามารถอ้างอิงเป็นมาตรฐานซึ่งสะท้อนอุปสงค์-อุปทานอย่างแม่นยำในขณะที่ทางฟากของประเทศผู้ส่งออกได้มีการรวมตัวจัดตั้งองค์กรเป็นรูปธรรมขึ้นมานานแล้วภายใต้ชื่อกลุ่มประเทศผู้ส่งออกก๊าซธรรมชาติ หรือ Gas Exporting Countries Forum มีสมาชิกเป็นประเทศผู้ส่งออกก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ 13 ประเทศรวมทั้งรัสเซีย และกาตาร์ เมื่อเดือนกรกฎาคม 56 ที่ผ่านมามีความเคลื่อนไหวของประเทศผู้ส่งออกก๊าซโดยการนำเสนอของผู้นำรัสเซียให้ประเทศผู้ส่งออกยืนกรานการทำสัญญาซื้อขายแบบล่วงหน้าและอิงราคากับน้ำมันดิบโดยให้เหตุผลว่าเพื่อคงไว้ซึ่งสเถียรภาพของอุตสาหกรรมก๊าซธรรมชาตินอกจากนี้ยังระบุว่าการมีแหล่งก๊าซเพิ่มขึ้นจากการขุดเจาะจากชั้นหินซึ่งมีมากในอเมริกาเหนือไม่ใช่เหตุผลที่จะละทิ้งระบบการทำสัญญาซื้อขายแบบล่วงหน้า

นายฮิโรมิชิโมริยามะผู้อำนวยการกองการยุทธศาสตร์พลังงานระหว่างประเทศของกระทรวงเมติเปิดเผยว่าราคาก๊าซแอลเอ็นจีในเอเชียสูงกว่าราคาในอเมริกาเหนือประมาณ30%ญี่ปุ่นเป็นประเทศผู้นำเข้าก๊าซแอลเอ็นจีรายใหญ่ที่สุดในโลกและมีการนำเข้าเพิ่มขึ้นมากในช่วง2ปีที่ผ่านมาเมื่ออุตสาหกรรมการผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยพลังงานนิวเคลียร์ต้องหยุดชะงักลงนอกจากนี้ญี่ปุ่นยังคงมองหาแหล่งก๊าซที่สามารถนำเข้าในราคาถูกลงซึ่งอาจเป็นแหล่งในอเมริกาเหนือที่มีการเจาะก๊าซใต้ชั้นหินแหล่งใหม่ๆเป็นจำนวนมากและคาดว่าจะเริ่มการส่งออกได้ตั้งแต่ปี2558เป็นต้นไป

ส่วนอินเดียซึ่งนำเข้าก๊าซธรรมชาติในสกุลเงินดอลลาร์ ก็ต้องแบกรับต้นทุนนำเข้าสูงขึ้นมหาศาลเมื่อเงินรูปีอ่อนค่าลงมาก ปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา นายมานโมฮันซิงห์ นายกรัฐมนตรีอินเดียได้ขอให้กระทรวงพลังงานทำแผนยุทธศาสตร์ลดการนำเข้าพลังงานทั้งในรูปน้ำมันและก๊าซธรรมชาติลงให้ได้ โดยตั้งเป้าลดมูลค่าการนำเข้าลง 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ที่มา-