กปน. ยื่นหนังสือเรียกร้องค่าเสียหายเหตุน้ำมันรั่วกลางทะเลระยองจาก PTTCG แล้ว

[mrtnews]

"ชัชชาติ" สั่ง กปน. กำหนดหลักเกณฑ์ประเมินค่าเสียหาย-ค่าใช้จ่าย กรณีเหตุน้ำมันรั่วกลางทะเลให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน กำชับเร่งวางแนวทางป้องกันแก้ไขระยะยาว ในขณะที่ เลขาฯ กปน.เผย หนังสือเรียกร้องค่าใช้จ่ายจากเหตุน้ำมันรั่วกลางทะเลระยอง จาก PTTCG แล้ว...

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน (กปน.) กล่าวว่า ได้มอบหมายแนวทางการกำหนดหลักเกณฑ์การประเมินค่าใช้จ่าย ค่าเสียหาย และค่าฟื้นฟู เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน หลังเกิดเหตุท่อส่งน้ำมันดิบ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTCG รั่วไหลกลางทะเลระยอง เมื่อวันที่ 27 ก.ค. 56 ที่ผ่านมา โดยให้เป็นมาตรฐานหากเกิดเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันขึ้น โดยให้เพิ่มเติมหลักเกณฑ์ที่ครอบคลุมถึงผลเสียหายที่จะเกิดขึ้นในระยะยาวด้วย เช่น กรณีความเสียหายต่อสุขภาพ ที่ส่งผลจากการเจ็บป่วยสะสมในระยะเวลา 3–4 ปี

สำหรับกรณีที่มีผู้เสียหายเพิ่มเติมขึ้นเป็นจำนวนมาก คณะอนุกรรมการฟื้นฟูและประเมินค่าความเสียหายต่อสภาพแวดล้อมอันเนื่องมาจากน้ำมัน ต้องประเมินและตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยให้อ้างอิงจากหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ และกำหนดขอบเขตพื้นที่ที่เกิดความเสียหายให้ชัดเจน โดยให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติความรับผิดชอบทางแพ่งเพื่อความเสียหายจากมลพิษน้ำมัน พ.ศ. .... ที่เสนอต่อรัฐสภา อยู่ในขณะนี้ด้วย พร้อมเร่งหาข้อสรุปของปัญหา อุปสรรคต่างๆ โดยใช้ประสบการณ์และบทเรียนที่ได้รับจากการปฏิบัติงานขจัดคราบน้ำมันในกรณีต่างๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เพื่อใช้เป็นแนวทางในการปรับปรุงแก้ไขแผนป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันแห่งชาติ และเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับหน่วยปฏิบัติขจัดคราบน้ำมัน

อย่างไรก็ตาม รมว.คมนาคม เห็นด้วยกับการปรับเปลี่ยนการฝึกซ้อมแผนป้องกันฯ จากทุกๆ 3 ปี เป็นปีละครั้ง พร้อมสั่งการให้กรมเจ้าท่าประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมควบคุมมลพิษ  มหาวิทยาลัยบูรพา สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) (GISTDA) เพื่อจัดทำแผนที่ต้นฉบับ (Master Map) ที่กำหนดพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุน้ำมันรั่วไหล และวิธีการพิสูจน์ทราบถึงที่มาของคราบน้ำมันในพื้นที่ต่างๆ ที่พัดขึ้นสู่ฝั่งโดยไม่ทราบสาเหตุ เช่น คราบน้ำมันที่พัดขึ้นบริเวณชายหาดบางแสนที่เกิดขึ้นเป็นประจำ เพื่อร่วมกันป้องกันและติดตามผู้กระทำผิดมาดำเนินการลงโทษต่อไป

ด้านนายศรศักดิ์ แสนสมบัติ อธิบดีกรมเจ้าท่า ในฐานะกรรมการและเลขานุการ คณะกรรมการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน (กปน.) กล่าวถึงความคืบหน้าของหลักเกณฑ์ในการประเมินค่าใช้จ่าย ค่าเสียหาย และการฟื้นฟูฯ ว่า ขณะนี้ กปน.ได้รวบรวมหลักเกณฑ์ทั่วไป หลักเกณฑ์ในการประเมินค่าใช้จ่ายในการขจัดคราบน้ำมัน หลักเกณฑ์ในการประเมินค่าเสียหายต่อบุคคลและทรัพย์สิน และค่าเสียหายและค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม เรียกร้องค่าใช้จ่ายในการขจัดคราบน้ำมันของหน่วยงานต่างๆ อาทิ กองทัพเรือ กองทัพบก จังหวัดระยอง กรมประมง กรมควบคุมมลพิษและหน่วยงานอื่นๆ ในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แจ้งเรียกค่าใช้จ่าย พร้อมรายละเอียด ต่อบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC แล้ว พร้อมสรุปผลการทำงานของคณะทำงานรับเรื่องราวร้องทุกข์ ค่าเสียโอกาสในพื้นที่ ซึ่งนับตั้งแต่เกิดเหตุจนถึง 4 พ.ย. 56 มีผู้ยื่นคำร้อง 15,599 ราย รับการเยียวยาแล้ว 8,586 ราย คิดเป็นเงิน 416 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังได้มีการรวบรวมบทเรียนที่ได้รับจากการปฏิบัติงานขจัดคราบน้ำมันในกรณีต่างๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดทำแผนฟื้นฟูสภาพแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ ที่ได้รับผลกระทบจากมลพิษของน้ำมัน ตลอดจนแนวทางในการแก้ไขแผนป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำ เนื่องจากน้ำมันแห่งชาติ และแนวทางการดำเนินการ เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับหน่วยงานปฏิบัติในการขจัดคราบน้ำมัน.

ที่มา -