ข่าว:

คุณ ต้องลงทะเบียนสมัครสมาชิกก่อน ตอบกระทู้หรือตั้งคำถามใหม่ นะครับ

Main Menu

สำรวจเรือ Logos Hope ร้านหนังสือลอยน้ำเทียบท่าไทย

เริ่มโดย mrtnews, พ.ค 13, 13, 19:48:22 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

นับเป็นความตื่นเต้นครั้งใหม่สำหรับการเดินทางมาถึงของเรื่อง Logos Hope ที่ขนหนังสือข้ามน้ำข้ามทะเลมาเทียบท่าเมืองไทย และจะล่องไปต่อที่เกาะฮ่องกง แวะพักอีก 2 สัปดาห์ ก่อนเดินทางต่อไปเรือบรรทุกหนังสือหรือร้านหนังสือลอยน้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นการร่วมมือของกลุ่มมิตรผลร่วมกับองค์กรการกุศลเยอรมัน (GBA Ships) ได้นำเรือ Logos Hope มาเทียบท่าท่าเรือคลองเตย ท่าที่ 2 (T2) เป็นครั้งแรก และจอดให้เยี่ยมชมกันตั้งแต่วันนี้ถึง 12 มีนาคม 2556 ให้คนไทยได้ชมความยิ่งใหญ่อลังการของเรือ เลือกซื้อหนังสือราคาถูก และมีกิจกรรมอื่นที่น่าสนใจ


ร้านหนังสือลอยน้ำแห่งนี้จึงเหมาะสำหรับผู้ปกครองนำเด็กไปสัมผัสบรรยากาศและประสบการณ์ใหม่ของหนังสือต่างประเทศเพื่อจูงใจให้เด็กสนใจการอ่าน โดยเฉพาะโซนหนังสือภาพที่มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ นับเป็นการเริ่มต้นการอ่านสำหรับเด็กได้ดีทีเดียว

นอกจากจะมีราคาถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป โดยหนังสือส่วนใหญ่เป็นหนังสือเก่า แต่ไม่ใช่เป็นหนังสือมือสอง

เพียงแต่เป็นหนังสือค้างสต๊อกมาจำหน่าย สัมผัสได้จากกลิ่นกระดาษเก่าเหมือนหนังสือในห้องสมุด เพิ่มความขลังให้บรรยากาศไปอีกแบบ แต่บางคนอาจจะสัมผัสได้ถึงกลิ่น ชื้น ฉุน อับ ของหนังสือในบางโซน

บรรยากาศภายในจัดแบ่งเป็นหลายโซน โดยจุดแรกแผนกต้อนรับ เป็นการให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรือลำใหม่นี้ผ่านสื่อภาพยนตร์และรูปภาพอย่างน่าสนใจ โดยอธิบายเป็นภาษาไทยถึงที่มาที่ไปของการเดินเรือหนังสือ เพื่อให้เด็ก ๆ ทั่วโลกสนใจการอ่าน และได้ตระหนักถึงความสำคัญของการอ่าน รวมถึงเส้นทางของการล่องเรือว่าผ่านไปจุดใดมาบ้าง

ส่วนจุดเด่นบนเรือต้องยกให้อาสาสมัครจากหลายชาติ ที่ยิ้มทักทายต้อนรับผู้ที่มาลงเรือด้วยใบหน้ายิ้มแย้มสดใสอยู่ตลอดเวลา ซึ่งแต่ละคนที่จะมาเป็นอาสาสมัครบนเรือได้จะต้องอยู่ประจำเรือ 1-2 ปี แต่ผู้มาเยือนอาจจะยิ้มเจื่อน ๆ กลับไป เพราะฉีกยิ้มกลับไม่ไหว หลังจากต้องเข้าแถวขึ้นเรือกว่า 1 ชั่วโมง ในวันหยุดที่มีหนอนหนังสือนัดหมายกันเดินทางมาลงเรือ

จากนั้นก็เดินทางเข้าสู่ร้านหนังสือที่อุดมไปด้วยหนังสือหลากประเภทจากหลายประเทศซึ่งเป็นหนังสือนานาชาติที่ได้รับบริจาคมาจากทั่วโลก มากกว่า 5,000 รายการ ที่ครอบคลุมหลากหลายชนิดหนังสือ เช่น วิทยาศาสตร์ กีฬา งานอดิเรก และหมวดการดำเนินชีวิตและครอบครัว

ขอแนะนำสำหรับผู้รักหนังสือภาพไม่ควรพลาด เพราะที่นี่มีหนังสือปกสวย ๆ ภาพงาม ๆ ให้เลือกด้วยกันหลายแบบ ทั้งหนังสือดูนก ตกปลา และภาพสัตว์เลี้ยงในอิริยาบถต่าง ๆ

นอกจากนี้ยังมีหนังสือศาสนาอีกเป็นจำนวนมาก มีหนังสือนิยายอีกเล็กน้อย และมีหนังสือสำหรับเด็ก อาทิ ตำราเรียน พจนานุกรม แผนที่ประเทศต่าง ๆ และอื่น ๆ อีกมากมาย

ต่อมาเป็นห้องนิทรรศการเกี่ยวกับเดินทางของชีวิต เน้นเรื่องศาสนาพร้อมกับสอดแทรกแง่คิดเรื่องผลของกระทำ ฉายให้เห็นผลของการกระทำในทางที่เสื่อมและทางที่ดี

ก่อนจะออกมาสู่โซนผ่อนคลายจากความเมื่อยล้า โซน International Cafe นั่งจิบเครื่องดื่ม ขนม ไอศกรีม พร้อมกับชมการแสดงจากอาสาสมัครมาบรรเลงเพลงทำนองเบา ๆ สงบ ๆ เย็น ๆ

และปิดท้ายกันด้วยโซน Life Exposition ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องของโรคเอดส์ ซึ่งในบางวันจะมีแพทย์มาให้ความรู้เกี่ยวกับโรคเอดส์อีกด้วย

ทั้งหมดนี้คือข้อมูลที่ได้ไปสัมผัสบนเรือหนังสือลอยน้ำนำมาเล่าต่อให้ผู้ชมที่อยากขึ้นไปสัมผัสบรรยากาศ และใช้ประกอบการตัดสินใจเลือกแวะโซนที่ต้องการได้ง่ายขึ้น

สำหรับเด็กที่มีอายุไม่เกิน 12 ปี ไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ต้องมีผู้ปกครองดูแลไปด้วย


เรือหนังสือลำนี้จะเปิดให้บริการเวลา 10.00-21.00 น.ในวันอังคาร-เสาร์ และเวลา 14.00-21.30 น.ในวันอาทิตย์-จันทร์

รายได้จากการเก็บค่าบัตรเข้าชม 20 บาท และรายได้จากการขายหนังสือนั้น จะนำไปเป็นค่าใช้จ่ายภายในเรือ เพื่อใช้สำหรับการเดินทางในที่หมายต่อไป

หวังว่าเรือ Logos Hope คงจะทำให้คนไทยได้รับรู้ถึงความสำคัญของการอ่านหนังสือ เพื่อเพิ่มพูนความรู้ และรวมประสบการณ์การสัมผัสร้านหนังสือบนเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลก ไม่น้อยไปกว่าการ Cover Gangnum style และ Haelem Shake

ที่มา -




ร้านหนังสือลอยน้ำ

วันหยุดสุดสัปดาห์ ผมพาครอบครัวไปท่าเรือคลองเตยครับ ปีนี้ปักหมุดว่าต้องไม่พลาด เพราะปีก่อนมาลงเรือ Logos Hope ไม่ทัน สำหรับลายแทงง่ายมากครับ ขับไปที่ท่าเรือคลองเตย เข้าไปแล้วให้ชิดขวาตามป้ายท่าเทียบเรือชายฝั่ง ขับต่อไปจนเห็นตู้คอนเทนเนอร์เยอะๆ นี่ใช่แล้ว หาที่จอดรถตามสะดวกเลยครับ


ผมว่าผมไปตรงเวลาเป๊ะแล้วนะครับ แต่ต้องไปเข้าคิวยาว แสดงว่ามีคนไปก่อนเวลามากพอสมควร ตอนแรกๆ ลูกชายก็ตื่นเต้นที่เห็นเรือลำใหญ่ สักพักถูกแดดตอนเข้าคิวไป 20 นาที เริ่มเฉา เลยอยากจะแนะนำว่า ถ้าใครคิดจะพาเด็กๆ ไปแล้วไม่อยากรอคิวนาน ขอให้ไปก่อนเวลาหน่อยครับ และควรพกร่ม หมวก ผ้าเย็น พัดลมไฟฟ้าจิ๋วไปด้วยก็ดีครับ

แต่พอได้ลงเรือแล้ว แอร์เย็นฉ่ำ ลูกชายกลับมายิ้มแฉ่ง พนักงานต้อนรับเป็นอาสาสมัครมาจากนานาประเทศให้การต้อนรับดีมาก มีการบรรยายเรื่องราวของเรือ Logos Hope ให้ฟัง แต่ลูกชายผมมุ่งจะไปขับเรือ (ปลอม) และดูเรดาร์อย่างเดียวเลย

พอเริ่มเข้าไปในร้านหนังสือ คนเยอะครับ หนังสือก็เยอะด้วย เวลาจะซื้อจะต้องเทียบเรตนิดหน่อย เพราะเรือลำนี้ท่องไปทั่วโลก ค่าเงินที่นี่คิดเป็น Unit อัตราที่เทียบกับเงินไทยคือ 100 Units = 80 บาท ลูกชายผมพุ่งตรงไปที่หนังสือธงชาติ เพราะเขาชอบเรื่องธงชาติและประเทศต่างๆ นอกจากหนังสือก็ยังมีพวกโปสเตอร์สื่อการสอนด้วยครับ

ถ้าเด็กคนไหนชอบดูการ์ตูนจากต่างประเทศ ก็จะมีหนังสือเกี่ยวกับตัวการ์ตูนที่เด็กๆ ชื่นชอบเช่นเดียวกัน มีทั้งหนังสือภาพและสมุดระบายสีให้เลือกซื้อได้ในราคาที่ไม่แพงนัก โซนนี้ถูกใจลูกชายผมมากๆ

มาถึงตอนจ่ายเงิน คิวยาวเหยียดเลยครับ ดีที่ซอยแบ่งเป็นหลายช่อง แถมแคชเชียร์เป็นชาวต่างชาติ เป็นโอกาสดีที่จะให้ลูกชายได้พูดคุยทักทายกับคนแปลกหน้าบ้าง จุดนี้ถ้าบริจาค 20 บาท จะได้โครงเรือกระดาษไปต่อเป็นโมเดลสามมิติด้วย

พ้นจากแคชเชียร์จะมีนิทรรศการตามทางเดิน ถ้าไม่รีบกลับนัก เราชวนลูกเดินดูไล่ตั้งแต่ภาพแรกแล้วอธิบายเขาไปด้วยจะดีมากเลยครับ เพราะภาพสื่อถึงอบายมุขต่างๆ ที่จะเข้ามาเมื่อเวลาเขาโตเป็นวัยรุ่น มีทั้งเหล้า บุหรี่ ยาเสพติด การพนัน การหลงแสงสีเที่ยวกลางคืน

มีโซนพักผ่อน รับประทานอาหาร และให้เด็กๆ ทำกิจกรรม ผมกำลังจะไปต่อคิวซื้ออาหารและน้ำ เลยได้เจอเพื่อนที่มาก่อนเราเล่าให้ฟังว่าอาหารดีนะ แต่ผมดูจำนวนคนที่ยืนรอเข้าแถวแล้วต้องตัดใจ กลับเลยดีกว่า เพราะน่าจะใช้เวลาตรงนี้อีกนาน


เราเดินผ่านธงชาติมากมาย และพบกับลานกว้าง มีการจัดซุ้มของประเทศต่างๆ ให้เราไปพูดคุยกับอาสาสมัคร ลูกชายผมชอบเรือชูชีพสีส้มแป๋น เลยได้เข้าไปคุยกับฝ่ายซ่อมบำรุงที่มาโชว์อุปกรณ์ต่างๆ ให้ดู อาสาสมัครเหล่านี้ยังวัยรุ่นและอัธยาศัยดีทุกคนครับ

เมื่อเราเดินออกมาจากเรือ มองเห็นผู้คนที่มารอเข้าคิวซื้อบัตรยาวยิ่งกว่าตอนเรามาเสียอีก อ้อ ค่าบัตรลงเรือ ผู้ใหญ่คนละ 20 บาท ส่วนเด็กอายุต่ำกว่า 12 เข้าฟรีครับ ผมเห็นคนเยอะขนาดนี้ จึงอยากจะขอแนะนำว่า ถ้ามาเร็วไม่ได้ ก็มาช่วงเย็นไปเลยครับ เพราะเรือเปิดถึงสามทุ่มครึ่งทุกวัน

เราได้พบกับมาสคอตกัปตันเรือเดินทักทายผู้คนและสร้างรอยยิ้มให้กับเด็กๆ แต่เจ้าลูกชายกำลังบ่นหิวน้ำเลยอารมณ์บูดไปหน่อย โชคดีจริงๆ ที่มีรถของการประปาฯ มาจอดให้บริการ...เราเลยได้ดื่มน้ำเย็นๆ ดับกระหายกันในที่สุด แต่พอหายหิวคราวนี้ลูกชายกลับไม่ยอมขยับ เพราะเข้าใจว่าเราจะต้องกลับไปอยู่ในเรือเพื่อรอเวลาออกทะเลกัน ผมเลยต้องอธิบายให้ฟังว่า เรือลำนี้จะจอดอยู่ที่นี่อีกหลายวัน (ตั้งแต่วันที่ 21 ก.พ. จนถึง 11 มี.ค. 2556) จากนั้นจึงจะเดินทางไปประเทศอื่นๆ ต่อไป

ถ้าใครสนใจจะมาเยี่ยมชมเรือ Logos Hope ที่ท่าเรือคลองเตย สามารถมาได้ทุกวัน โดยเขาจะเปิดให้บริการวันอังคาร-วันเสาร์ เวลา 10.00-21.30 น. ส่วนในวันอาทิตย์และวันจันทร์ เปิดเวลา 14.00-21.30 น. ครับ

ที่มา -





ข่าวที่เกี่ยวข้อง

- เรือโลกอส โฮป ห้องสมุดลอยน้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก จะมาไทยเร็วๆ นี้