ไทยออยล์ ปูพรมลงทุนโรงกลั่นน้ำมันเมียนมาร์ - ผลิตภัณฑ์แว๊กซ์อินโดฯ

[mrtnews]

ไทยออยล์ผงาดเวทีโลกได้รับการจัดอันดับเป็นสมาชิก DJSI พร้อมคว้ารางวัลโกลด์คลาส "วีรศักดิ์"เผยเตรียมเสนอโครงการปรับปรุงโรงกลั่นน้ำมันในย่างกุ้งคาดรู้ผลภายในปี 57 พร้อมคาดปีนี้ความต้องการน้ำมันของไทยโตเพียง 0.8%

วันนี้ (12 ก.พ.57) นายวีรศักดิ์ โฆสิตไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงการขยายธุรกิจและความคืบหน้าโครงการต่าง ๆ ในเครือไทยออยล์ว่า ไทยออยล์ได้รับการประกาศให้เป็นสมาชิก DJSI Emerging 2013 ด้านผู้ผลิตน้ำมันและแก๊ส (Oil and Gas Producer) เมื่อวันที่ 12 ก.ย.56 ที่ผ่านมา ซึ่งดัชนี DJSI (Dow Jones Sustainability Indices) เป็นดัชนีวัดความยั่งยืนซึ่งเป็นที่ยอมรับมากที่สุดในโลกในปัจจุบัน และเมื่อวันที่ 21 ม.ค.27 ไทยออลย์ก็ได้รับการประกาศจาก RobecoSAM ซึ่งเป็นผู้ทำการ ประเมินให้แก่ DJSI ให้เป็นผู้นำด้านความยั่งยืนในกลุ่มธุรกิจน้ำมันและ แก๊สระดับ Gold Class ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดของรางวัล Sustainability Award 2014 โดยมีคะแนนอยู่ในกลุ่มสูงสุด 1% แรกของโลกในอุตสาหกรรมนี้ ส่งผลให้เกิดความเชื่อมั่นจากผู้มีส่วนได้เสียตลอดจนการจับตามองจากกลุ่มนักลงทุนในระดับสากล

"เพื่อให้มั่นใจว่า ไทยออลย์ตจะเป็นบริษัทที่ยั่งยืนและสามารถ รักษาความสำเร็จนี้ได้ตลอดไป คณะผู้บริหารได้กำหนดแนวทางการบริหาร จัดการด้วยการจัดทำแผนแม่บทการดำเนินการด้านความยั่งยืนระยะ 5 ปี(2014-2018) เริ่มต้นจากปี 2014 นี้ด้วยการกำหนดเป้าหมายและเทศ ทางการบริหารความยั่งยืนตามแนวทางของ DJSI ในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ผ่านกระบวนการร่วมทำเวิร์คช้อปกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งระดับผู้จัดการฝ่ายและผู้จัดการแผนกทั้งสิ้นกว่า 20 หน่วยงาน เพื่อร่วมกันวางแนวทางการดำเนินงาน แผนกิจกรรม ตลอดจนดัชนีวัดผล(KPI) เพื่อผลักดันให้เกิดการปฏิบัติงานและได้สัมฤทธิ์เพื่อความยั่งยืนอย่างแท้จริง"

นายวีรศักดิ์กล่าวต่อว่า จากการที่รัฐบาลเมียนมาร์ได้เปิดรับนักลงทุนด้านปิโตรเลียมและปิโตรเคมีจากต่างประเทศให้เข้ามาร่วมจอยท์เวน เจอร์ โดยบริษัทไทยออยล์ซึ่งเป็น Flagship ด้านธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันของกลุ่ม ปตท. ได้ยื่นเอกสารร่วมกับกลุ่มฯเสนอปรับปรุงโรงกลั่น Thanlyin ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับเมืองย่างกุ้งต่อรัฐบาลเมียนมาร์เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งคาดว่าจะประกาศผลภายในปีนี้ โดยไทยออยล์มั่นใจจะได้รับการคัดเลือก เนื่องจากไทยออยล์อยู่ในธุรกิจนี้มานาน มีความเชี่ยวชาญ นอกจากนี้ไทยกับเมียนมาร์เป็นประเทศอยู่ติดกัน มีความคล้ายคลึงในด้านวัฒนธรรมและมีสัมพันธภาพที่ดีระหว่างกัน และไทยออยล์ยังมีความเข้มแข็งในการทำธุรกิจและฐานะทางการเงินพร้อมกันนี้ ไทยออยล์ยังสนใจลงทุนเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ แว็กซ์(Wax) ประเทศอินโดนีเซีย โดยอยู่ระหว่างศึกษาในรายละเอียดโครงการนี้ หลังจากเมื่อปี 56 บริษัทได้ร่วมลงนาม HOA (Heads of Agreement) กับเปอร์ตามีน่า และคาดว่าจะมีการตัดสินใจในการลงทุนปลายปี 57นี้ หากตัดสินใจลงทุนก็จะใช้เวลาก่อสร้างโรงงานนาน 2 ปี ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ Wax ในอินโดนีเซียมีตลาดที่กว้าง ที่ใช้ทำผ้าบาติก ยางรถยนต์ ยาขัดรองเท้า และ เทียนไข

นายวีรศักดิ์กล่าวถึงความต้องการน้ำมันในปีนี้ว่า จากเศรษฐกิจไทยชะลอตัว คาดว่าความต้องการน้ำมันของไทยจะเติบโตเพียงร้อยละ 0.8 หรืออยู่ที่ประมาณ 139 ล้านลิตรต่อวัน โดยส่วนใหญ่เป็นดีเซล 57 ล้านลิตรต่อวัน


ที่มา -