ข่าว:

ห้ามโพสโฆษณา หาเงินทางเน็ต งาน Part-time MLM ทุกรูปแบบ ธุรกิจที่มี downline ปั่นลิก์ SEOเด็ดขาด หากพบจะแบนสมาชิกนั้นออกจากบอร์ดทันที

Main Menu

ฝึกภาคต่างประเทศ 'ร.ร.นายเรือ' ปลูกฝังรากแก้วแห่งราชนาวีไทย

เริ่มโดย mrtnews, พ.ค 14, 13, 16:40:52 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

กองทัพเรือ (ทร.) โดย พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ได้อนุมัติให้โรงเรียนนายเรือตั้งหมู่เรือฝึกโรงเรียนนายเรือ ดำเนินการฝึกภาคปฏิบัติให้แก่นักเรียนนายเรือ ชั้นปีที่ 1-4 จำนวน 261 นาย และนายทหารนักเรียนหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตกองทัพเรือ จำนวน 52 คน ประจำปีการศึกษา 2555


โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักเรียนนายเรือ และนายทหารนักเรียนหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตกองทัพเรือมีความรู้ในวิชาชีพทหารเรือ มีความชำนาญในสาขาวิชาต่างๆ เพื่อฝึกความสามารถการปฏิบัติงานในเรือหลวง เช่น การทำหน้าที่นายทหารประจำเรือในตำแหน่งต่างๆ เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ และฝึกให้มีคุณสมบัติครบถ้วนตามมาตรฐานกองทัพเรือ

สำหรับการฝึกปีนี้ พล.ร.ท.อนุทัย รัตตะรังสี ผู้บัญชาการโรงเรียนนายเรือ มอบหมายให้ พล.ร.ต.สุชีพ หวังไมตรี หัวหน้าฝ่ายศึกษาโรงเรียนนายเรือ เป็นผู้บังคับหมู่เรือฝึกโรงเรียนนายเรือ โดยมีเรือฝึก 3 ลำ ประกอบด้วย เรือหลวงเจ้าพระยา ทำหน้าที่เป็นเรือธง รวมทั้ง เรือหลวงบางปะกง และเรือหลวงปัตตานี

กำหนดห้วงเวลาการฝึกตั้งแต่วันที่ 17 มกราคม-23 มีนาคม 2556 รวม 65 วัน มีกำลังพลในหมู่เรือฝึกรวมทั้งสิ้น 759 นาย และออกเดินทางฝึกไปยังเกาะฮ่องกง ฟิลิปปินส์ บรูไน อินโดนีเซีย มาเลเซีย และสิงคโปร์

ทั้งนี้ กองทัพเรือให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีกับประเทศในกลุ่ม "อาเซียน" เป็นหลัก เพื่อให้นักเรียนนายเรือได้กระชับความสัมพันธ์ และมีการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย เพราะกว่าจะเป็นชาวเรือที่เก่งกาจ เป็นนายทหารเรือที่ดี เป็นผู้บังคับบัญชาที่กล้าคิดกล้าตัดสินใจ และกล้ารับผิดชอบนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย

เพราะในวันเริ่มต้นนั้น แต่ละคนก้าวเข้ามาสู่รั้วสามสมอในสภาพที่ไม่ต่างกัน...เป็นเพียงเด็กหนุ่มผมเกรียนที่เปี่ยมด้วยความมุ่งมั่น แต่ยังขาดซึ่งความแข็งแกร่งเช่นเหล็กในเรือ

แต่เมื่อก้าวเข้ามาในโรงเรียนนายเรือแล้ว จะต้องเรียนรู้ทั้งตำรา ทฤษฎี วิชาการ ให้หนักแน่น และทุกๆ วัน นอกจากการเรียนในห้องเรียนแล้ว ทุกคนต้องฝึกฝนกำลังกาย และการกีฬา เพื่อสร้างความแข็งแกร่งของร่างกาย และต้องอยู่ในกรอบ กฎ กติกาอย่างทหาร เพื่อฝึกวินัย ฝึกจิตใจให้อดทน ยิ่งฝึกหนัก ยิ่งเหนื่อยล้าเพียงใด..ใจยิ่งต้องสู้ !!

พล.ร.ท.อนุทัย รัตตะรังสี ผู้บัญชาการโรงเรียนนายเรือ กล่าวว่า การฝึกครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งภารกิจของโรงเรียนนายเรือที่จัดให้มีการฝึกภาคต่างประเทศของนักเรียนนายเรือชั้นปีที่ 1-4 และนายทหารนักเรียนหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตศึกษาสาขาวิชาการทหาร เพื่อให้มีความรู้ในวิชาชีพทหารเรือ สามารถปฏิบัติงานในเรือหลวงได้อย่างมีประสิทธิภาพตามมาตรฐานของกองทัพเรือ

"การฝึกจะเน้นไปที่ปฏิบัติการทางเรือสาขาต่างๆ การทำหน้าที่นายทหารประจำเรือตำแหน่งต่างๆ และความรู้ด้านวิชาชีพทหารเรือตามพรรคเหล่า การฝึกอบรมทางใช้การในทะเล โดยกองทัพเรือหวังให้นักเรียนนายเรือฝึกไปตามหลักสูตรการศึกษาเพื่อเพิ่มพูนความรู้ และประสบการณ์ โดยจะให้ความสำคัญกับประเทศในอาเซียนเป็นหลัก"


พล.ร.ท.อนุทัย เผยถึงเส้นทางการฝึกภาคต่างประเทศต่อว่า จะเริ่มตั้งแต่โรงเรียนนายเรือ - ฐานทัพเรือสัตหีบ - เกาะช้าง - เกาะสมุย - ฐานทัพเรือสัตหีบ - ฮ่องกง - มะนิลา (ฟิลิปปินส์) - บรูไน - สุราบายา (อินโดนีเซีย) - พอร์ตกลัง (มาเลเซีย) - สิงคโปร์ - สงขลา - ฐานทัพเรือสัตหีบ รวมระยะเวลาการฝึกทั้งสิ้น 65 วัน

รวมถึงการใช้พื้นที่ฝึกบริเวณอ่าวไทย ทะเลจีนใต้ ทะเลชวา ช่องแคบสิงคโปร์ และช่องแคบมะละกา ทั้งนี้ เรือในกองทัพเรือจะมีธงราชนาวีไทยอยู่บนยอดเสาของเรือทุกลำ จึงเปรียบเสมือนเป็นตัวแทนของประเทศไทยที่จะแสดงศักยภาพของกองทัพเรือ และประเทศชาติให้นานาประเทศได้เห็น เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีกับมิตรประเทศ

ผู้บัญชาการโรงเรียนนายเรือ กล่าวย้ำว่า "เหล็กในคน แข็งกว่าเหล็กในเรือ" ยังคงเป็นหัวใจสำคัญในการผลิตทหารเรือ ซึ่งโรงเรียนนายเรือจะเป็นสถาบันผลิตนายทหารสัญญาบัตรให้มีความเป็นผู้นำ และเชี่ยวชาญในวิชาชีพทหารเรือที่จะกลายเป็น "รากแก้ว" แห่งราชนาวีไทยในอนาคต

ทั้งนี้ รากแก้วแห่งราชนาวีไทยจะต้องมีคุณลักษณะโดดเด่น เป็นผู้นำทางทหารที่ดี มีความสมบูรณ์ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ รวมถึงมีทักษะในการสื่อสาร และวิชาชีพทหารเรือ สามารถปฏิบัติหน้าที่ในฐานะนายทหารสัญญาบัตรชั้นต้นของกองทัพเรือได้อย่างมั่นใจ

(หมายเหตุ : ฝึกภาคต่างประเทศ 'ร.ร.นายเรือ' ปลูกฝังรากแก้วแห่งราชนาวีไทย : ตะลุยกองทัพ โดยทีมข่าวความมั่นคง)

ที่มา -