ข่าว:

คุณ ต้องลงทะเบียนสมัครสมาชิกก่อน ตอบกระทู้หรือตั้งคำถามใหม่ นะครับ

Main Menu

สยามแก๊ส มั่นใจรายได้กว่า 7 หมื่นล้านบาท หลังราคา LPG ตลาดโลกขึ้นต่อเนื่อง

เริ่มโดย mrtnews, มี.ค 12, 14, 21:44:33 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

สยามแก๊ส  เปิดแผนปี 57 เพิ่มเป้ารายได้จากต่างประเทศเพิ่ม 20% ส่วนในประเทศเดินหน้าขยายปั๊มก๊าซ LPG เป็น 40 ปั๊ม มั่นใจหนุนภาพรวมรายได้ทั้งปีเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 76,000 ล้านบาท  ขณะที่บอร์ดเอาใจผู้ถือหุ้นอนุมัติจ่ายปันผล 0.50 บาทต่อหุ้น รับเงินปันผล 15 พ.ค. 57 นี้


นางจินตณา กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด  (มหาชน) หรือ SGP  กล่าวถึงแนวโน้มผลประกอบการปี 2557 คาดว่าจะมีแนวโน้มเติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมา จากทั้งธุรกิจต่างประเทศ และในประเทศที่สนับสนุน พร้อมวางเป้าหมายรายได้ทั้งปีขยับเพิ่มขึ้นได้อีกหมื่นล้านจากปี 2556 ไปอยู่ที่ระดับ 76,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 15% จากปี 2556 ที่อยู่ระดับ 66,277 ล้านบาท  พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ได้วางงบลงทุนปีนี้ไว้ที่ 700-800 ล้านบาท โดยใช้ในการลงทุนขยายคลังก๊าซในประเทศประมาณ 400 ล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นการลงทุนในส่วนของถังแก๊ส และปั๊มแก๊ส รวมถึงซื้อเรือเพิ่มเติมเพื่อการขนส่ง

สำหรับทิศทางธุรกิจในต่งประเทศ นางจินตณา คาดว่าจะเติบโตขึ้นในทิศทางเดียวกับราคาก๊าซ LPG ในตลาดโลก ซึ่งคาดว่าจะมีแนวโน้มที่ดี จากความต้องการใช้ก๊าซเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ยอดขายในต่างประเทศมีลูกค้าทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งในปีนี้บริษัทฯ จะรับรู้รายได้เต็ม 100% จากการซื้อธุรกิจใหม่ในต่างประเทศ คือ เวียดนามเหนือ-ใต้ และมาเลเซีย ซึ่งได้มาระหว่างปี 56 ประกอบกับความต้องการใช้ก๊าซในประเทศจีนตอนใต้มีเพิ่มมากขึ้นจากการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมปิโตรเคมี โดยบริษัทฯ ได้มีการทำสัญญาขายก๊าซ LPG ให้แก่ลูกค้าในประเทศจีน รวมถึงในประเทศกัมพูชา พร้อมทั้งได้ทำสัญญาให้เช่าคลังก๊าซ LPG  ที่เมืองจูไห่ อีก 5.5 หมื่นตัน จากกำลังความจุ 2 แสนตัน เพื่อให้การบริหารจัดการคลังได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ส่วนแผนการซื้อธุรกิจในต่างประเทศเพิ่มเติมนั้น ขึ้นอยู่กับโอกาสและความคุ้มค่าในการลงทุนในโอกาสต่อไป

นางจินตณา ยอมรับว่า สถานการณ์ทางการเมืองช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้การบริโภคลดลงไปบ้าง แต่คาดว่าต่อจากนี้จะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นได้ เนื่องจากก๊าซ LPG เป็นสินค้าจำเป็น ทั้งนี้ บริษัทฯ วางเป้าหมายจะขยายสาขาปั๊มก๊าซ LPG ของบริษัทฯ เพิ่มเติมเป็น 40 ปั๊ม ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่มากขึ้น จากเมื่อสิ้นปี 2556 บริษัทฯ มีปั๊มก๊าซทั้งสิ้น 34 ปั๊ม ส่วนปั๊มก๊าซที่เป็นตัวแทนค้าต่างๆ ของบริษัทฯ มีกว่า 500 กว่าปั๊ม ทั้งนี้ ในปี 57 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายเพิ่มยอดจำหน่ายในประเทศอีก 5-6% จากปีก่อนหรือประมาณ 1.3 ล้านตัน ส่วนต่างประเทศเติบโตราว 20% จากปีก่อน หรือประมาณ 1.7 ล้านตัน รวมปริมาณการจำหน่ายทั้งหมดเป็น 3 ล้านตัน สนับสนุนภาพรวมผลงานทั้งปี บริษัทฯ เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ได้

ด้านผลประกอบการประจำปี 2556 บริษัทฯ มีรายได้รวม (งบการเงินรวม) 66,277.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18,525.75 จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 47,751.88 ล้านบาท หรือคิดเป็นการปรับเพิ่มถึงร้อยละ 38.79 ขณะที่กำไรของบริษัทฯ อยู่ที่ 1,602.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 823.55 ล้านบาท หรือพุ่งขึ้นถึงร้อยละ 94.55 ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ อนุมัติการจ่ายปันผลในอัตราหุ้นละ 0.50 บาท กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) 10 มีนาคม 2557 และกำหนดวันจ่ายปันผลวันที่ 15 พฤษภาคม 2557

"กำไรสุทธิที่ปรับเพิ่มขึ้นในปี 56 ร้อยละ 94.55% สาเหตุหลักมาจากกำไรที่เติบโตขึ้นตามรายได้ที่เพิ่มขึ้น จากธุรกิจการจำหน่ายก๊าซ LPG ในต่างประเทศ อีกทั้งบริษัทเองพยายามซื้อก๊าซที่ได้ต้นทุนต่ำที่สุด ด้วยการหาช่องทางโดยไม่ผ่านเทรดเดอร์ นอกจากนี้ บริษัทมีกำไรจากการซื้อธุรกิจใหม่ โดยในไตรมาส 1/2556 บริษัทรับรู้กำไรจากการซื้อธุรกิจ City Gas Co., Ltd.  และ City Gas North Co., Ltd. ซึ่งจดทะเบียนในประเทศเวียดนาม และในไตรมาส 2/2556 กลุ่มบริษัทรับรู้กำไรจากการซื้อธุรกิจแก๊สและสินทรัพย์บางส่วนของ Shell Timur Sdn.Bhd. ใน East Malaysia จึงส่งให้ผลงานเกินเป้ารายได้ปี 56 ที่วางไว้ 6 หมื่นล้านบาท" นางจินตณา กล่าว

ที่มา -




SGP คาดรายได้ปีนี้ 7.6 หมื่นลบ. โต 15% จากปีก่อนที่ 6.6 หมื่นลบ.

นางจินตณา กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการ บมจ. สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ (SGP) กล่าวถึงแนวโน้มผลประกอบการปี 57 คาดว่าจะมีแนวโน้มเติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมา จากทั้งธุรกิจต่างประเทศและในประเทศที่สนับสนุน พร้อมวางเป้าหมายรายได้ทั้งปีขยับเพิ่มขึ้นได้อีกหมื่นล้านจากปี 56 ไปอยู่ที่ระดับ 76,000 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 15% จากปี 2556 ที่อยู่ระดับ 66,277 ล้านบาท

บริษัทฯได้วางงบลงทุนปีนี้ไว้ที่ 700 – 800 ล้านบาท โดยหลักจะเป็นการลงทุนขยายคลังก๊าซในประเทศประมาณ 400 ล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นการลงทุนในส่วนของถังแก๊สและปั้มแก๊ส รวมถึงซื้อเรือเพิ่มเติมเพื่อการขนส่ง

สำหรับธุรกิจในประเทศในช่วงที่มีสถานการณ์ทางการเมืองช่วงที่ผ่านมาถึงปัจจุบัน ส่งผลให้การบริโภคลดลงไปบ้าง แต่คาดว่าต่อจากนี้จะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นได้ เนื่องจากก๊าซ LPG เป็นสินค้าจำเป็น ทั้งนี้บริษัทฯ วางเป้าหมายจะขยายสาขาปั๊มก๊าซ LPG ของบริษัทฯ เพิ่มเติมเป็น 40 ปั๊มให้ครอบคลุมทุกพื้นที่มากขึ้น จากเมื่อสิ้นปี 2556 บริษัทฯ มีปั๊มก๊าซทั้งสิ้น 34 ปั๊ม ส่วนปั๊มก๊าซที่เป็นตัวแทนค้าต่างของบริษัทฯ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นได้อีกจากสภาวะราคาน้ำมันที่ยังคงอยู่ในระดับที่สูง ปริมาณความต้องการใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิงทางเลือกก็ยังคงมีเพิ่มขึ้นเช่นกัน จากเมื่อสิ้นปี 2556 บริษัทฯ มีปั๊มในส่วนของตัวแทนค้าต่าง 500 กว่าปั๊ม

ทั้งนี้ในปี 57 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายเพิ่มยอดจำหน่ายในประเทศอีก 5-6% จากปีก่อนหรือประมาณ 1.3 ล้านตัน ส่วนต่างประเทศเติบโตราว 20% จากปีก่อนหรือประมาณ 1.7 ล้านตัน รวมปริมาณการจำหน่ายทั้งหมดเป็น 3 ล้านตัน สนับสนุนภาพรวมผลงานทั้งปี บริษัทฯ เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ได้

ส่วนทิศทางธุรกิจในต่างประเทศของบริษัทฯ ที่คาดว่าจะเติบโตขึ้นในทิศทางเดียวกับราคาก๊าซ LPG ในตลาดโลก ซึ่งคาดว่าจะมีแนวโน้มที่ดี จากความต้องการใช้ก๊าซเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ยอดขายในต่างประเทศมีลูกค้าทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งในปีนี้บริษัทฯจะรับรู้รายได้เต็ม 100% จากการซื้อธุรกิจใหม่ในต่างประเทศ คือเวียดนามเหนือ – ใต้ และมาเลเซีย ซึ่งได้มาระหว่างปี 56 ประกอบกับความต้องการใช้ก๊าซในประเทศจีนตอนใต้มีเพิ่มมากขึ้นจากการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมปิโตรเคมี โดยบริษัทฯได้มีการทำสัญญาขายก๊าซ LPG ให้กับลูกค้าในประเทศจีน รวมถึงในประเทศกัมพูชา พร้อมทั้งได้ทำสัญญาให้เช่าคลังก๊าซ LPG  ที่เมืองจูไห่อีก 5.5 หมื่นตัน จากกำลังความจุ 2 แสนตัน เพื่อให้การบริหารจัดการคลังได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ส่วนแผนการซื้อธุรกิจในต่างประเทศเพิ่มเติมนั้น ขึ้นอยู่กับโอกาสและความคุ้มค่าในการลงทุนในโอกาสต่อไป

"ทิศทางราคาก๊าซในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ลดลงไปบ้างเมื่อเทียบกับช่วงปลายปี 56 ที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเป็นการเคลื่อนไหวของราคาที่เป็นปกติตามฤดูกาลและความต้องการใช้ก๊าซในช่วงต้นปีอยู่แล้ว บริษัทเองไม่กังวลกับการลดลงของราคามากนัก เนื่องจากบริษัทมีสต๊อกสินค้าอยู่ในระดับที่ต่ำเพียงพอต่อความต้องการขายในเดือนต่อเดือนเท่านั้น" นางจินตณา กล่าว

ที่มา -