ข่าว:

ห้ามโพส ปั่นลิงก์ SEO ในส่วนของ ลายเซ็นสมาชิกเพื่อจะแสดงที่ด้านล่าง ของแต่ละข้อความที่ตอบกระทู้ เช่น คาสิโน บาคาร่า แทงบอล ฯลฯ เด็ดขาด หากพบจะแบนสมาชิกนั้นออกจากบอร์ดทันที

Main Menu

TOP เผยนักลงทุนจองซื้อหุ้นกู้สูงถึง 4.29 เท่าของวงเงิน 1.5 หมื่น ลบ.

เริ่มโดย mrtnews, มี.ค 13, 14, 19:51:42 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

นายวีรศักดิ์ โฆสิตไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. ไทยออยล์ (TOP) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2557 บริษัทฯ ได้ร่วมกับธนาคารกรุงเทพ (BBL) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) และธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ และมีธนาคารกรุงเทพ เป็นนายทะเบียนหุ้นกู้ ได้เปิดให้ผู้ลงทุนสถาบันและ/หรือผู้ลงทุนรายใหญ่แสดงความจำนงซื้อหุ้นกู้บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1/2557หุ้นกู้ดังกล่าวมีมูลค่ารวม 15,000 ล้านบาท ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน และไม่มีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ แบ่งเป็น 4 ชุด ดังนี้


หุ้นกู้ชุดที่ 1 มูลค่า 2,000 ล้านบาท อายุ 3 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2560 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.41% ต่อปี

หุ้นกู้ชุดที่ 2 มูลค่า 3,000 ล้านบาท อายุ 5 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2562 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.13% ต่อปี

หุ้นกู้ชุดที่ 3 มูลค่า 3,000 ล้านบาท อายุ 7 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2564 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.61% ต่อปี

หุ้นกู้ชุดที่ 4 มูลค่า 7,000 ล้านบาท อายุ 10 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2567 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.84% ต่อปี

นายวีรศักดิ์ กล่าวว่า ในการเสนอขายหุ้นกู้ไทยออยล์จำนวนรวม 10,000 ล้านบาท และมีหุ้นกู้สำรองสำหรับเสนอขายเพิ่มเติมอีกไม่เกิน 5,000 ล้านบาท ปรากฏว่าหุ้นกู้ฯ ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างมาก โดยมียอดแสดงความจำนงในหุ้นกู้ทั้ง 4 ชุดรวมสูงกว่าจำนวนที่บริษัทฯ จะเสนอขายกว่า 4.29 เท่า ทำให้บริษัทฯ ตัดสินใจออกหุ้นกู้ในครั้งนี้รวมทั้งสิ้น 15,000 ล้านบาท โดยได้มีการเสนอขายในระหว่างวันที่ 7, 10-11 มีนาคม ที่ผ่านมา

การออกและเสนอขายหุ้นกู้สกุลเงินบาทดังกล่าวถือเป็นหนึ่งในนโยบายด้านการบริหารทางการเงินของบริษัทฯ ที่มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดหาเงินกู้ โดยเงินที่ได้จากการออกและเสนอขายหุ้นกู้จะนำมาใช้เพื่อเป็นเงินลงทุน และ/หรือเงินทุนหมุนเวียน

การออกและเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ เป็นไปตามมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ที่อนุมัติให้บริษัทฯ ออกและเสนอขายหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศ วงเงินรวมกันไม่เกิน 15,000ล้านบาท โดยก่อนหน้านี้ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2555 และ 2556 ได้อนุมัติวงเงินให้บริษัทฯ ออกและเสนอขายหุ้นกู้ให้แก่นักลงทุนทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ในวงเงินคงเหลือจำนวนรวม 1,150 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

หุ้นกู้ไทยออยล์ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัทฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัดที่ระดับ AA-(tha) อันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงการที่บริษัทฯ ดำเนินกิจการโรงกลั่นน้ำมันที่มีกำลังการผลิตสูงโดยเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งดำเนินธุรกิจเชิงบูรณาการด้านการกลั่นนำมันและปิโตรเคมีที่ต่อเนื่องอย่างครบวงจร มีกระบวนการกลั่นน้ำมันแบบคอมเพล๊กซ์ที่สามารถผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมสำเร็จรูปชนิดที่มีมูลค่าสูงได้ในสัดส่วนที่สูง ในขณะที่มีต้นทุนการผลิตต่ำ ทำให้สามารถรักษาความได้เปรียบในการแข่งขันเมื่อเทียบกับบริษัทอื่นๆในภูมิภาคฯนอกจากนั้นการที่บริษัทฯขยายสายการผลิตไปยังธุรกิจปิโตรเคมี นำมันหล่อลื่นพื้นฐาน ธุรกิจสารทำละลาย ธุรกิจไฟฟ้า ธุรกิจขนส่งทางเรือและทางท่อ ธุรกิจพลังงานทดแทน เป็นการเพิ่มระดับการผลิตแบบครบวงจร ซึ่งจะช่วยลดความผันผวนของส่วนต่างรายได้กับต้นทุน

ความน่าเชื่อถือของบริษัทฯ เป็นผลมาจากผลประกอบการที่ดีอย่างต่อเนื่องและมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง อันเนื่องมาจากกระแสเงินสดและความสามารถในการชำระหนี้ยังอยู่ในระดับที่สูง รวมถึงความเชื่อมโยงกับ บมจ.ปตท. ในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ โดยบริษัทฯ มีความสำคัญด้านกลยุทธ์ต่อ บมจ.ปตท.เนื่องจากเป็นโรงกลั่นที่สำคัญในกลุ่มโรงกลั่นนำมันที่เป็นบริษัทในเครือของปตท. รวมถึงเป็นผู้ขายนำมันสำเร็จรูปหลักให้กับธุรกิจค้าปลีกนำมันของ ปตท.อีกด้วย

ที่มา -




ไทยออยล์ออกหุ้นกู้ 1.5 หมื่นล้าน

ไทยออยล์ออกหุ้นกู้ 1.5 หมื่นล้านบาท ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน และไม่มีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ อายุหุ้นกู้ 3, 5, 7 และ 10 ปี ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน


นายวีรศักดิ์ โฆสิตไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 28 ก.พ. 57 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ร่วมกับธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ และมีธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เป็นนายทะเบียนหุ้นกู้ ได้เปิดให้ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือผู้ลงทุนรายใหญ่แสดงความจำนงซื้อหุ้นกู้บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1/2557 หุ้นกู้ดังกล่าวมีมูลค่ารวม 15,000 ล้านบาท ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน และไม่มีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ แบ่งเป็น 4 ชุด ดังนี้

หุ้นกู้ชุดที่ 1 มูลค่า 2,000 ล้านบาท อายุ 3 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2560 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.41% ต่อปี

หุ้นกู้ชุดที่ 2 มูลค่า 3,000 ล้านบาท อายุ 5 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2562 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.13% ต่อปี

หุ้นกู้ชุดที่ 3 มูลค่า 3,000 ล้านบาท อายุ 7 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2564 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.61% ต่อปี

หุ้นกู้ชุดที่ 4 มูลค่า 7,000 ล้านบาท อายุ 10 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2567 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.84% ต่อปี


"ในการเสนอขายหุ้นกู้ไทยออยล์จำนวนรวม 10,000 ล้านบาท และมีหุ้นกู้สำรองสำหรับเสนอขายเพิ่มเติมอีกไม่เกิน 5,000 ล้านบาท ปรากฏว่าหุ้นกู้ฯ ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างมาก โดยมียอดแสดงความจำนงในหุ้นกู้ทั้ง 4 ชุดรวมสูงกว่าจำนวนที่บริษัทฯ จะเสนอขายกว่า 4.29 เท่า ทำให้บริษัทฯ ตัดสินใจออกหุ้นกู้ในครั้งนี้รวมทั้งสิ้น 15,000 ล้านบาท โดยได้มีการเสนอขายในระหว่างวันที่ 7, 10-11 มีนาคมที่ผ่านมา การออกและเสนอขายหุ้นกู้สกุลเงินบาทดังกล่าวถือเป็นหนึ่งในนโยบายด้านการบริหารทางการเงินของบริษัทฯ ที่มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดหาเงินกู้ โดยเงินที่ได้จากการออกและเสนอขายหุ้นกู้จะนำมาใช้เพื่อเป็นเงินลงทุน และ/หรือเงินทุนหมุนเวียน"

การออกและเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้เป็นไปตามมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ที่อนุมัติให้บริษัทฯ ออกและเสนอขายหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศ วงเงินรวมกันไม่เกิน 15,000 ล้านบาท โดยก่อนหน้านี้ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2555 และปี 2556 ได้อนุมัติวงเงินให้บริษัทฯ ออกและเสนอขายหุ้นกู้ให้แก่นักลงทุนทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ในวงเงินคงเหลือจำนวนรวม 1,150 ล้านเหรียญสหรัฐ

หุ้นกู้ไทยออยล์ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่ระดับ AA-(tha) อันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงการที่บริษัทฯ ดำเนินกิจการโรงกลั่นน้ำมันที่มีกำลังการผลิตสูง โดยเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกซึ่งดำเนินธุรกิจเชิงบูรณาการด้านการกลั่นน้ำมันและปิโตรเคมีที่ต่อเนื่องอย่างครบวงจร มีกระบวนการกลั่นน้ำมันแบบคอมเพล็กซ์ที่สามารถผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมสำเร็จรูปชนิดที่มีมูลค่าสูงได้ในสัดส่วนที่สูง ในขณะที่มีต้นทุนการผลิตต่ำ ทำให้สามารถรักษาความได้เปรียบในการแข่งขันเมื่อเทียบกับบริษัทอื่นๆ ในภูมิภาค นอกจากนั้น การที่บริษัทฯ ขยายสายการผลิตไปยังธุรกิจปิโตรเคมี น้ำมันหล่อลื่นพื้นฐาน ธุรกิจสารทำละลาย ธุรกิจไฟฟ้า ธุรกิจขนส่งทางเรือและทางท่อ ธุรกิจพลังงานทดแทน เป็นการเพิ่มระดับการผลิตแบบครบวงจร ซึ่งจะช่วยลดความผันผวนของส่วนต่างรายได้กับต้นทุน

ล่าสุด ในเดือนมกราคม 2557 ที่ผ่านมาไทยออยล์ได้รับการประกาศจาก RobecoSAM ซึ่งเป็นผู้ทำการประเมินให้แก่ DJSI ให้เป็นผู้นำด้านความยั่งยืนในกลุ่มธุรกิจน้ำมันและก๊าซระดับ Gold Class ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดของรางวัล Sustainability Award 2014 โดยมีคะแนนอยู่ในกลุ่มสูงสุด 1% แรกของโลกในอุตสาหกรรมนี้

ที่มา -