ข่าว:

ห้ามโพสโฆษณา สินค้าที่ดูแล้วขัดต่อ ศีลธรรม ประเพณี หรือกฏหมายของไทย เด็ดขาด หากพบจะแบนสมาชิกนั้นออกจากบอร์ดทันที

Main Menu

ทัพเรือทำพิธีรับมอบเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งชุด ต.111 ณ ท่าเรือแหลมเทียน

เริ่มโดย mrtnews, มี.ค 29, 14, 18:55:04 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 3 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

บริษัทเอกชนส่งมอบเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งให้กองทัพเรือ เพื่อปฏิบัติภารกิจในการรักษาอธิปไตยและผลประโยชน์ของชาติ รวมถึงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล...


วันนี้ (28 มี.ค. 57) พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีรับมอบเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง หมายเลข ต.111 ต.112 และ ต.113 รวม 3 ลำ จากนายสัญชัย จงวิศาล ประธานกรรมการบริษัท มาร์ซัน จำกัด ในฐานะบริษัทผู้จัดสร้าง พร้อมประกอบพิธีทางศาสนา เพื่อความเป็นสิริมงคลกับตัวเรือและกำลังพลประจำเรือชุดใหม่ที่จะเข้าประจำการ ก่อนส่งมอบเรือทั้ง 3 ลำ ให้อยู่ในความดูแลของ พล.ร.ต.สายันต์ ประสงค์สำเร็จ ผู้บัญชาการกองเรือยามฝั่ง กองเรือยุทธการ ณ ท่าเทียบเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

พล.ร.อ.ณรงค์ กล่าวว่า ตามที่กองทัพเรือได้อนุมัติให้จัดสร้างเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งทั้ง 3 ลำ มีวัตถุประสงค์เพื่อสนองภารกิจหลักด้านการรักษาอธิปไตยของชาติ ตลอดแนวน่านน้ำในการตรวจการณ์ สกัดกั้น ลาดตระเวน ป้องกันการแทรกซึมของเหล่าข้าศึกทางทะเลและชายฝั่ง รวมถึงการป้องกันรักษาคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติตามแนวชายฝั่งในอ่าวไทยและทะเลอันดามัน ตลอดจนการคุ้มครองเรือประมง เรือพาณิชย์ และถวายความปลอดภัยแด่พระบรมวงศานุวงศ์

นอกจากนี้แล้ว ยังเป็นการชดเชยเรือเก่าที่ปลดระวาง และเพิ่มจำนวนในการสนับสนุนการปฏิบัติการทางเรือสาขาต่างๆ ในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเลและชายฝั่งในการสนองภารกิจ ให้บรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้อีกด้วย

นายสัญชัย จงวิศาล ประธานกรรมการ บริษัท มาร์ซัน จำกัด กล่าวว่า หลังกองทัพเรือให้ความไว้วางใจบริษัทลงนามสัญญาจัดสร้างเรือทั้ง 3 ลำ โดยมีกำหนดการส่งมอบเรือขึ้นในวันนี้ สำหรับการต่อเรือทั้ง 3 ลำนี้ ทางบริษัทได้นำบุคลากรที่มีศักยภาพ และคุณภาพดำเนินการต่อเรือที่ถูกออกแบบ โดยวิศวกรให้เป็นเรือที่ทรงคุณภาพและอานุภาพในทุกๆ ด้าน โดยตัวเรือถูกออกแบบมาให้มีความยาว 36 เมตร กว้าง 7.60 เมตร ความเร็วสูงสุดต่อเนื่องที่ระวางขับน้ำเต็มที่ไม่น้อยกว่า 27 นอต ระยะการปฏิบัติงานไม่น้อยกว่า 1,200 ไมล์ทะเล มีระยะเวลาในการปฏิบัติงานทะเลต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 10 วัน และมีกำลังพลประจำเรือตามอัตรา 14 นาย

สำหรับขีดสมรรถนะของเรือ สามารถตรวจจับ ติดตาม พิสูจน์ทราบเป้าผิวน้ำ ป้องกันตัวเองจากเรือผิวน้ำและอากาศยานข้าศึก ด้วยอาวุธปืนกล ขนาด 20 มม. 1 กระบอก บริเวณหัวเรือ และปืนกล ขนาด .50 นิ้ว 2 กระบอก พร้อมคลังอาวุธจำนวน 2 คลัง หลักที่ถูกติดตั้งบริเวณกราบซ้ายและกราบขวาเรืออีกด้วย.

ที่มา -




ผบ.ทร.รับมอบเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง ชุด ต.111

สัตหีบ 28 มี.ค. 57 -ผบ.ทร. รับมอบเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง ชุด ต.111 จาก บ.มาร์ซัน เสริมเขี้ยวเล็บรักษาอธิปไตย-คุ้มครองทรัพยากรทางทะเลในอ่าวไทย-อันดามัน


พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) เป็นประธานในพิธีรับมอบเรือสนับสนุนการปฏิบัติการทางเรือ หรือเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง หมายเลข ต.111 ต.112 และ ต.113 จากนายสัญชัย จงวิศาล ประธานกรรมการ บริษัท มาร์ซัน จำกัด ก่อนส่งมอบเรือทั้ง 3 ลำ ให้อยู่ในความดูแลของ พล.ร.ต.สายันต์ ประสงค์สำเร็จ ผู้บัญชาการกองเรือยามฝั่ง กองเรือยุทธการ โดยมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ผู้บริหารบริษัท มาร์ซัน จำกัด และกำลังพลประจำเรือ ร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง

ผบ.ทร. กล่าวว่า เรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งทั้ง 3 ลำ มีวัตถุประสงค์เพื่อสนองภารกิจหลักด้านการรักษาอธิปไตยของชาติตลอดแนวน่านน้ำในการตรวจการณ์ สกัดกั้น ลาดตระเวน ป้องกันการแทรกซึมของเหล่าข้าศึกทางทะเลและชายฝั่ง รวมถึงการป้องกันรักษาคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติตามแนวชายฝั่งในอ่าวไทยและทะเลอันดามัน ตลอดจนการคุ้มครองเรือประมง เรือพาณิชย์ และถวายความปลอดภัยแด่พระบรมวงศานุวงศ์ นอกจากนี้ยังเป็นการชดเชยเรือเก่าที่ได้ปลดระวาง และเพิ่มจำนวนในการสนับสนุนการปฏิบัติการทางเรือสาขาต่างๆ ในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเลและชายฝั่งในการสนองภารกิจให้บรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้อีกด้วย

สำหรับเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งทั้ง 3 ลำ มีความยาวตลอดลำ 36 เมตร ความกว้างกลางลำ 7.60 เมตร ความลึกกลางน้ำ (Molded Depth) 3.60 เมตร เรือกินน้ำลึกเต็มที่ไม่เกิน (Molded Draught) 1.70 เมตร ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิงไม่น้อยกว่า 36,000 ลิตร ความจุถังน้ำจืดไม่น้อยกว่า 5,600 ลิตร มีถังน้ำจืดสำรองความจุไม่น้อยกว่า 8,000 ลิตร และมีระวางขับน้ำเต็มที่ประมาณ 150 ตัน ขีดความสามารถทั่วไปของเรือมีความเร็วสูงสุดต่อเนื่องที่ระวางขับน้ำเต็มที่ไม่ต่ำกว่า 27 นอต ระยะ

ปฏิบัติการที่ความเร็วเดินทางมัธยัสถ์ 15 นอต ไม่น้อยกว่า 1,200 ไมล์ทะเล สามารถปฏิบัติการในสภาวะทะเลได้ถึง Sea State 5 (ความสูงคลื่น 2.5-4 เมตร) ติดตั้งปืนกลขนาด 20 มม. 1 กระบอก บริเวณหัวเรือ และปืนกลขนาด .50 นิ้ว 2 กระบอก พร้อมคลังอาวุธจำนวน 2 คลังหลักที่กราบซ้ายและกราบขวาเรือ

นอกจากนี้ยังสนับสนุนการขนส่งทางธุรการชุดปฏิบัติการพิเศษ หรือซีล พร้อมเรือยางท้องไฟเบอร์กลาสความเร็วสูง (RIB) อย่างน้อย 1 ชุด และบริเวณท้ายเรือออกแบบให้สามารถลำเลียงอุปกรณ์ปรับความดันบรรยากาศของกองทัพเรือ สนับสนุนการปฏิบัติการด้านการแพทย์ให้กับกองเรือในทะเลตามขีดความสามารถของเรือ และสามารถบรรทุกและรองรับตู้คอนเทนเนอร์มาตรฐานขนาด 20 ฟุต จำนวน 2 ตู้ พร้อมกับบรรทุกถังน้ำมันแบบยางขนาด 500 แกลลอน จำนวน 1 ถัง

สำหรับเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งทั้ง 3 ลำ มี ร.อ.เจนยุทธ นิมา เป็น ผบ.ต.111, ร.อ.กรวีร์ จำเนียร เป็น ผบ.ต.112 และ ร.อ.เกริกยศ สุวรรณโณ เป็น ผบ.ต.113.

ที่มา -




พิธีรับมอบเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง ชุด เรือ ต.111 ณ ท่าเรือแหลมเทียน

วันนี้ (28 มีนาคม 2557) เวลา 10.09 น. พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีรับมอบเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง ชุด เรือ ต.111 ตามโครงการจัดหาเรือสนับสนุนการปฏิบัติการทางเรือ ณ ท่าเรือหมายเลข 5 (LST Ramp) ท่าเรือแหลมเทียน การท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมี พลเรือเอก พิจารณ์ ธีรเนตร ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ, พลเรือโท พัลลภ ตมิศานนท์ ประธานกรรมการร่วมกองทัพเรือ-บริษัทมาร์ซัน จำกัด และรองเสนาธิการทหารเรือ และนายทหารชั้นผู้ใหญ่ พร้อมด้วยผู้บริหารบริษัทมาร์ซัน จำกัด ให้การต้อนรับ


พิธีรับมอบเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง ชุดเรือ ต.111 ประกอบด้วย ในช่วงเช้าประกอบพิธีสักการะพระอนุสาวรีย์ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ฐานทัพเรือสัตหีบ และพิธีสงฆ์ จากนั้นผู้บัญชาการทหารเรือขึ้นแท่นรับมอบเรือ ฯ มี ประธานเจ้าหน้าที่ผู้บริหารบริษัท มาร์ซัน จำกัด กล่าวรายงานมอบเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง ชุดเรือ ต.111 และผู้บัญชาการทหารเรือมอบเอกสารการส่งมอบเรือ ฯ ให้แก่ พลเรือเอก พิจารณ์ ธีรเนตร ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เพื่อส่งมอบเรือให้ พลเรือตรี สายันต์ ประสงค์สำเร็จ ผู้บัญชาการกองเรือยามฝั่ง กองเรือยุทธการ ต่อไป

กองทัพเรือได้ดำเนินโครงการจัดหาเรือสนับสนุนการปฏิบัติการทางเรือ จำนวน 3 ลำ พร้อมระบบสื่อสาร อาวุธ ระบบอื่น ๆ รวมทั้งการฝึกอบรมที่เกี่ยวข้อง เพื่อใช้ในการลาดตระเวน ป้องกันการแทรกซึมในทะเล คุ้มครองเรือประมงและเรือพาณิชย์ ป้องกันและคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติในอ่าวไทยและทะเล อันดามัน รักษากฎหมายในทะเลตามอำนาจหน้าที่ที่กองทัพเรือได้รับมอบหมาย และการถวายความปลอดภัยแด่พระบรมวงศานุวงศ์ รวมทั้งสนับสนุนการปฏิบัติการทางเรือสาขาต่าง ๆ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเลและชายฝั่ง โดยกองทัพเรือได้ว่าจ้างบริษัท มาร์ซัน จำกัด เป็นผู้ออกแบบและต่อเรือ ซึ่งเรือทั้ง 3 ลำ ตั้งชื่อว่า "เรือ ต.111", "เรือ ต.112" และ "เรือ ต.113"

ลักษณะของเรือสนับสนุนการปฏิบัติการทางเรือมีความยาวตลอดลำ 36 เมตร, ความกว้างกลางลำ 7.60 เมตร, ความลึกกลางน้ำ (Molded Depth) 3.60 เมตร, เรือกินน้ำลึกเต็มที่ไม่เกิน (Molded Draught) 1.70 เมตร, ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง ไม่น้อยกว่า 36,000 ลิตร, ความจุถังน้ำจืด ไม่น้อยกว่า 5,600 ลิตร, มีถังน้ำจืดสำรองความจุ ไม่น้อยกว่า 8,000 ลิตร และมีระวางขับน้ำเต็มที่ ประมาณ 150 ตัน

ขีดความสามารถทั่วไปของเรือดังกล่าวมีความเร็วสูงสุดต่อเนื่องที่ ระวางขับน้ำเต็มที่ไม่ต่ำกว่า 27 นอต, ระยะปฏิบัติการที่ความเร็วเดินทางมัธยัสถ์ 15 นอต ไม่น้อยกว่า 1,200 ไมล์ทะเล, สามารถปฏิบัติการในสภาวะทะเลได้ถึง Sea State 5 (ความสูงคลื่น 2.5 - 4 เมตร), สามารถปฏิบัติภารกิจได้ครอบคลุมพื้นที่ปฏิบัติการในอ่าวไทยและทะเลอันดามัน, ปฏิบัติการทางเรือได้อย่างต่อเนื่องในทะเลได้ไม่น้อยกว่า 10 วัน และสามารถตรวจจับ ติดตาม และพิสูจน์ทราบเป้าผิวน้ำ ได้ด้วยระบบตรวจการณ์ของเรือ นอกจากนี้ สามารถ หยุดยั้ง ขัดขวาง เรือผิวน้ำ และป้องกันตนเองจากข้าศึกได้ตามสมรรถนะของอาวุธประจำเรือ, ตรวจสอบเรือต้องสงสัย ค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัย, ลาดตระเวนป้องกันการแทรกซึมและคุ้มครองเรือประมงและทรัพยากรธรรมชาติ, เข้าถึงพื้นที่ปฏิบัติการได้อย่างรวดเร็ว

เรือสนับสนุนการปฏิบัติการทางเรือ นอกจากจะมีขีดความสามารถทั่วไปแล้ว ยังมีขีดความสามารถในการสนับสนุนการขนส่งทางธุรการชุดปฏิบัติการพิเศษ พร้อมเรือยางท้องไฟเบอร์กลาสความเร็วสูง (RIB) อย่างน้อย 1 ชุด ปฏิบัติการพิเศษ, ลำเลียงอุปกรณ์สนับสนุนหน่วยบัญชาการนาวิกโยธินและหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ตามพื้นที่ชายฝั่งและเกาะต่าง ๆ ลำเลียงอุปกรณ์ปรับความดันบรรยากาศของกองทัพเรือ สนับสนุนการปฏิบัติการด้านการแพทย์ให้กับกองเรือในทะเลตามขีดความสามารถของเรือ และสามารถบรรทุกและรองรับตู้คอนเทนเนอร์มาตรฐาน ขนาด 20 ฟุต จำนวน 2 ตู้ พร้อมกับบรรทุกถังน้ำมันแบบยางขนาด 500 แกลลอน จำนวน 1 ถัง

ที่มา -




ผบ.ทร.ส่งมอบเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง ประจำการกองเรือยุทธการ

ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผบ.ทร.เป็นประธานรับมอบเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง ชุดเรือ ต.111 จำนวน 3 ลำ จากบริษัท มาร์ซัน จำกัด ณ ท่าเทียบเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี


วันนี้ (28 มี.ค. 57) พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีรับมอบเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง ชุดเรือ ต.111 จำนวน 3 ลำ ประกอบด้วย เรือ ต.111 เรือ ต.112 และเรือ ต.113 จากบริษัท มาร์ซัน จำกัด ตามโครงการจัดหาเรือสนับสนุนการปฏิบัติการทางเรือ ณ ท่าเทียบเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ก่อนส่งมอบให้แก่ พล.ร.อ.พิจารณ์ ธีรเนตร ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ในการดำเนินการส่งมอบต่อให้แก่ พล.ร.ต.สายันต์ ประสงค์สำเร็จ ผู้บัญชาการ กองเรือยามฝั่ง กองเรือยุทธการ เป็นผู้ดูแล และสนองภารกิจของกองทัพเรือ

สำหรับเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งทั้ง 3 ลำ กองทัพเรือได้กระทำพิธีวางกระดูกงู ณ อู่ต่อเรือ บริษัท มาร์ซัน จำกัด ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ โดยมี พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ในขณะนั้น เป็นประธานในพิธี เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.2555

ทั้งนี้ ได้เป็นไปตามโครงการจัดหาเรือ พร้อมระบบอาวุธเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการทางเรือ ในการลาดตระเวนตรวจการณ์ป้องกันการแทรกซึมในทะเล คุ้มครองเรือประมง เรือพาณิชย์ และคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติในอ่าวไทย และทะเลอันดามัน

รวมถึงภารกิจการถวายปลอดภัยแด่พระบรมวงศานุวงศ์ และช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล

ทั้งนี้ เรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง ถูกออกแบบให้มีขนาดระวางขับน้ำประมาณ 150 ตัน มีความคล่องตัวสูง กินน้ำลึกสูงสุดไม่เกิน 1.7 เมตร สามารถเข้าถึงพื้นที่ปฏิบัติการได้อย่างรวดเร็ว และปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่องในทะเลได้ไม่น้อยกว่า 7 วัน สามารถป้องกันตัวเองจากเรือผิวน้ำ และอากาศยานข้าศึกในระยะใกล้ด้วยอาวุธประจำเรือ เรือมีความทรงตัว และคงทนต่อทะเล มีความเร็วสูงสุดต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 27 นอต และสามารถปฏิบัติการที่ความเร็วมัธยัสถ์ไม่น้อยกว่า 1,200 ไมล์ทะเล

นอกจากนั้น ยังสามารถรองรับน้ำหนักได้ไม่น้อยกว่า 50 ตัน มีระบบกักเก็บ และบำบัดน้ำเสีย เพื่อมิให้เกิดมลพิษแก่สิ่งแวดล้อมตามกฎ และมาตรฐานระหว่างประเทศอีกด้วย

ที่มา -