ข่าว:

ห้ามโพส ปั่นลิงก์ SEO ในส่วนของ ลายเซ็นสมาชิกเพื่อจะแสดงที่ด้านล่าง ของแต่ละข้อความที่ตอบกระทู้ เช่น คาสิโน บาคาร่า แทงบอล ฯลฯ เด็ดขาด หากพบจะแบนสมาชิกนั้นออกจากบอร์ดทันที

Main Menu

ไฟไหม้เรือขนส่งสินค้าเกาะพีพี ดับเพลิงช่วยเหลือไม่ได้วอด 2 ลำ

เริ่มโดย mrtnews, พ.ค 07, 14, 20:23:30 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

เมื่อเวลา 04.00 น.วันที่ 6 พ.ค.57 พ.ต.ต.จรัญ แนบเพชร สว.เวร สถ.เมืองกระบี่ ได้รับแจ้งว่าที่ท่าเทียบเรือน้องเณรยูนิตี้ หมู่ 7 บ้านคลองหิน ต.ไสไทย อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ ว่า ได้เกิดเหตุเพลิงรุกไหม้เรือยนต์บรรทุกสินค้าขนส่งเกาะพีพีที่จอดเทียบท่า จึงได้ประสานงานไปยังศูนย์ดับเพลิงสำนักงานเทศบาลเมืองกระบี่ องค์การบริหารส่วนตำบลไสไทย และสถานีตำรวจน้ำที่ 1จังหวัดกระบี่ เพื่อไปช่วยกันดับเพลิงที่กำลังลุกไหม้เรือดังกล่าว


ที่เกิดเหตุปรากฏว่าเรือยนต์บรรทุกสินค้า ได้ลอยลำออกไปในลำคลองปากแม่น้ำกระบี่ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ ต่างได้ช่วยกันพยายามลากสายหัวดับเพลิงลงเรือ เพื่อไปฉีดน้ำแต่เนื่องจากสายน้ำหนักทำให้แรงดันของน้ำกระชากเรือเข้าหาฝั่ง จึงไม่สามารถที่จะฉีดน้ำดับเปลวไฟที่กำลังรุกไหม้อย่างรวดเร็วลงได้ คงได้แต่เฝ้ามองดูเรือที่กำลังถูกเปลวไฟไหม้จมลงในลำคลอง

จากการสอบถามนายสุรีย์ วัฒนสงค์ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 256 หมู่ 7 ต.ไสไทย อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ เจ้าของเรือทราบว่า เรือน้องเณรยูนิตี้พึ่งเดินทางกลับจากการไปส่งของที่เกาะพีพี มาถึงท่าเทียบเรือเมื่อเวลา 22.45 น. จนกระทั้งเวลา 04.00 น. ตนได้รับแจ้งจากท่าเทียบเรือที่อยู่ใกล้เคียงกันว่า เรือของตนได้ถูกไฟไหม้จึงออกมาดูต้นเพลิงเกิดมาจากไฟฟ้ารัดวงจร ที่ท่าเทียบเรือบริเวณเครนยกของ ซึ่งมีแกรนลอยใสน้ำมันดีเซล ขนาด 5 ลิตร

เมื่อไฟไหม้ถังแกรนลอนทำให้น้ำมันไหลลงในตัวลำเรือ จึงเกิดไฟรุกไหม่อนอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเรือทำด้วยไม้และมีคราบน้ำมันอยู่ด้วย โดยไฟกำลังลุกไหม้เรือน้องเณรยูนิตี้ 3 จึงได้แจ้งตำรวจแล้วได้ประสานรถดับเพลิงขององค์การบริหารส่วนตำบลไสไทย แต่ไม่มีคนรับสายจึงประสานรถดับเพลิงเทศบาลเมืองกระบี่ ในขณะนั้นประสานหน่วยงานต่างๆไฟได้ลุกไหม้ติดเรือน้องเณรยูนิตี้ 2 เพิ่มอีก 1 ลำ ทำให้เชือกที่ผูกเรือติดกับท่าเทียบเรือขาด เรือทั้ง 2 ลำ จึงลอยออกไปตามกระแสน้ำแล้วไปเกยติดชายหาดกับฝั่งตรงกันข้ามของท่าเทียบเรือ

นายสุรีย์ กล่าวต่อไปว่า เรือยนต์บรรทุกสินค้าส่งสิ่งของไปยังเกาะพีพี น้องเณรยูนีตี้ 2 เป็นเรือขนาดความยาว 21 เมตร กว้าง 6 เมตร และเรือน้องเณรยูนิตี้ 3 เป็นเรือขนาดความยาว 18 เมตร ขนาดความกว้าง 6 เมตร ซึ่งเรือทั้ง 2 ลำซื้อมาได้ไม่ถึง 1 ปีมูลค่า 7,500,000 บาท แล้วมาถูกไฟไหม้หมดทั้งลำทำให้ตนต้องหมดเนื้อหมดตัว และเรือดังกล่าวบริษัทประกันภัย ไม่รับทำประกันภัยให้ เนื่องจากมีข้อกำหนดหลายอย่าง ที่เจ้าของเรือไม่สามารถที่จะรับทำประกันภัยได้

ที่มา -




ไฟไหม้เรือบรรทุกสินค้าเสียหายยับ 2 ลำ

ศูนย์วิทยุ 191 สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองกระบี่รับแจ้งว่า ที่ท่าเทียบเรือน้องเณรยูนิตี้ หมู่ที่ 7 บ้านคลองหิน ต.ไสไทย อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ เกิดเหตุเพลิงไหม้เรือยนต์บรรทุกสินค้าขนส่งเกาะพีพีที่จอดเทียบท่า จึงประสานงานไปยังศูนย์ดับเพลิงสำนักงานเทศบาลเมืองกระบี่ องค์การบริหารส่วนตำบลไสไทย และสถานีตำรวจน้ำที่ 1 จังหวัดกระบี่ เพื่อไปช่วยกันดับเพลิงที่กำลังโหมไหม้เรือดังกล่าว ทั้งได้แจ้งให้พ.ต.ต.จรัญ แนบเพชร พนักงานสอบสวนร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองกระบี่ รับทราบ

เมื่อเจ้าหน้าที่ถึงจุดเกิดเหตุปรากฏว่า เรือยนต์บรรทุกสินค้าลอยลำออกไปในลำคลองปากแม่น้ำกระบี่ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ ต่างช่วยกันพยายามลากสายหัวดับเพลิงลงเรือ เพื่อไปฉีดน้ำแต่เนื่องจากสายน้ำหนักทำให้แรงดันของน้ำกระชากเรือเข้าหาฝั่ง จึงไม่สามารถที่จะฉีดน้ำดับเปลวไฟที่กำลังลุกไหม้อย่างรวดเร็วลงได้ คงได้แต่เฝ้ามองดูเรือที่กำลังถูกเปลวไฟไหม้จมลงในลำคลอง

จากการสอบถามนายสุรีย์ วัฒนสงค์ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 256 หมู่ที่ 7 ต.ไสไทย อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ เจ้าของเรือ ทราบว่า เรือลำนี้เพิ่งเดินทางกลับจากการไปส่งของที่เกาะพีพี มาถึงท่าเทียบเรือเมื่อเวลา 22.45 น.จนกระทั่งเวลา 04.00 น.ได้รับแจ้งจากท่าเทียบเรือที่อยู่ใกล้เคียงกันว่า เรือของตัวเองถูกไฟไหม้จึงออกไปดู ต้นเพลิงเกิดมาจากไฟฟ้าลัดวงจร ที่ท่าเทียบเรือบริเวณเครนยกของซึ่งมีแกลลอนใส่น้ำมันดีเซล ขนาด 5 ลิตร เมื่อไฟไหม้ถังแกลลอนทำให้น้ำมันไหลลงในตัวลำเรือ จึงเกิดไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากเรือทำด้วยไม้และมีคราบน้ำมันอยู่ด้วย โดยไฟกำลังไหม้เรือน้องเณรยูนิตี้ 3 จึงได้แจ้งศูนย์วิทยุ 191สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองกระบี่ แล้วได้ประสานรถดับเพลิงขององค์การบริหารส่วนตำบลไสไทย แต่ติดต่อไม่ได้จึงประสานรถดับเพลิงเทศบาลเมืองกระบี่ ในขณะนั้นประสานหน่วยงานต่างๆไฟได้ลุกไหม้ติดเรือน้องเณรยูนิตี้ 2 เพิ่มอีก 1 ลำ ทำให้เชือกที่ผูกเรือติดกับท่าเทียบเรือขาด เรือทั้ง 2 ลำจึงลอยออกไปตามกระแสน้ำแล้วไปเกยติดชายหาดฝั่งตรงกันข้ามของท่าเทียบเรือ

นายสุรีย์ กล่าวต่อไปว่า เรือยนต์บรรทุกสินค้าส่งสิ่งของไปยังเกาะพีพี น้องเณรยูนีตี้ 2 เป็นเรือขนาดความยาว 21 เมตร กว้าง 6 เมตร และเรือน้องเณรยูนิตี้ 3 เป็นเรือขนาดความยาว 18 เมตร ขนาดความกว้าง 6 เมตร ซึ่งเรือทั้ง 2 ลำซื้อมาได้ไม่ถึง 1 ปี มูลค่า 7,500,000 บาท แล้วมาถูกไฟไหม้หมดทั้งลำทำให้ตนต้องหมดเนื้อหมดตัว และเรือดังกล่าวบริษัทประกันภัย ไม่รับทำประกันภัยให้เนื่องจากมีข้อกำหนดหลายอย่าง ที่เจ้าของเรือไม่สามารถที่จะรับทำประกันภัยได้

ที่มา -




เพลิงเผาวอด 2 ลำ เรือบรรทุกสินค้าส่งเกาะพีพี คาดเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร

กระบี่ - ระทึก! เพลิงไหม้เรือขนส่งสินค้าไปเกาะพีพี วอด 2 ลำ ขณะจอดลอยลำห่างจากแพปลา ฝั่งตัวเมืองกระบี่ประมาณ 50 เมตร รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 4 ล้านบาท คาดเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร


เมือเวลา 06.00 น.วันนี้ (6 พ.ค. 57) พ.ต.ต.จรัญ แนบเพชร สารวัตรเวรสอบสวน สภ.เมืองกระบี่ รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้เรือบรรทุกสินค้า จำนวน 2 ลำ เหตุเกิดที่บริเวณหน้าแพปลาโกห่วง ม.7 ต.ไสไทย อ.เมือง จ.กระบี่ หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยรถดับเพลิงเทศบาลเมืองกระบี่ และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกระบี่พิทักษ์ประชา เข้าทำการสกัดเพลิง ที่เกิดเหตุเพลิงกำลังโหมไหม้เรือ จำนวน 2 ลำ โดยเพลิงได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็ว และมีเสียงดังคล้ายระเบิดดังขึ้นตลอดเวลา จุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากฝั่งประมาณ 500 เมตร ทำให้รถดับเพลิงไม่สามารถฉีดน้ำเข้าสกัดเพลิงได้ เจ้าหน้าที่พยายามเรียกเจ้าของเรือ แต่ไม่มีเสียงตอบรับ คาดว่าไม่มีคนอยู่บนเรือ จากนั้นเพลิงได้โหมลุกไหม้อย่างรวดเร็วจนเรือเสียหายวอดทั้ง 2 ลำ

สอบสวนทราบว่า เรือทั้ง 2 ลำ เป็นของบริษัทยูนิตี้ขนส่ง จำกัด ชื่อเรือยูนิตี้ 2 และยูนิตี้ 3 เป็นเรือเครนขนส่งสินค้าจากกระบี่ไปยังเกาะพีพี ก่อนเกิดเหตุ คนขับเรือได้นำเรือไปทั้ง 2 ลำจอดบริเวณหน้าแพโกห่วง โดยเรือทั้ง 2 จอดห่างกันประมาณ 100 เมตร ต่อมา เมื่อช่วงเวลา 05.00 น. ชาวบ้านที่อาศัยบริเวณใกล้เคียงเห็นไฟลุกไหม้ท่วมเรือลำแรก คือเรือยูนิตี้ 2 หลังจากนั้นสมอเรือขาด และลอยไปประชิดเรือยูนิตี้ 3 จึงทำให้เกิดไฟไหม้ขึ้นอีกลำ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่า เรือและอุปกรณ์บนเรือทั้ง 2 ลำ ได้รับความเสียหายทั้งหมด รวมมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 4 ล้านบาท แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บเพราะไม่มีใครเฝ้าอยู่บนเรือ

สำหรับสาเหตุในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่คาดว่าสาเหตุมาจากระบบไฟฟ้าบนเรือยูนิตี้ 2 เกิดลัดวงจร จากด้านบนลำเรือก่อนลุกลามยังตัวเรือ จากนั้นเมื่อสมอเรือขาดก็ลอยตามน้ำไปประชิดเรืออีกลำทำให้เพลิงไหม้วอดทั้ง 2 ลำ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะได้ประสานเจ้าของเรือ ซึ่งอยู่ต่างจังหวัดมาสอบสวน และประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุเพลิงไหม้ที่แท้จริงต่อไป

ที่มา -




ระทึก! ไฟไหม้เรือสินค้า2ลำ เผาวอด 7 ล้าน

ไฟไหม้เรือขนส่งสินค้าระหว่างเกาะ วอด 2 ลำ มูลค่าความเสียหายกว่า 7 ล้านบาท คาดสาเหตุจากไฟฟ้าลัดวงจร

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 6 พ.ค.57 มีรายงานว่า นายสุรศักดิ์ มงคลไชยสิทธิ์ เจ้าพนักงานขนส่ง สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขากระบี่ พร้อมด้วย นายนิติพัฒน์ มงคลประดิษฐ์ ผอ.ศูนย์เจ้าฟ้า พร้อมเรือตรวจการณ์เจ้าท่า 189 และเรือตรวจการณ์นทีกู้ภัย เข้าทำการดับเพลิงที่กำลังไหม้เรือขนส่งสินค้า 2 ลำ บริเวณกลางแม่น้ำกระบี่ บ้านคลองหิน ต.ไสไทย อ.เมืองกระบี่ หลังจากรับแจ้งว่ามีเรือไฟไหม้ ซึ่งจากการตรวจสอบพบเรือยูนิตี้ 2 และ เรือยูนิตี้ 3 ซึ่งเพลิงได้ลุกไหม้อย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ได้ฉีดน้ำเพื่อดับเพลิง แต่เป็นไปด้วยความยากลำบาก

จากการสอบสวนนางสาวสมพร บุญรักษ์ เจ้าของเรือทั้ง 2 ลำ ให้การว่า ขณะเกิดเหตุลูกเรือได้มาแจ้งว่าเรือที่จอดอยู่ที่ท่าเรือได้เกิดเพลิงไม้จากเรือยูนิตี้ 2 แล้วลุกลามไปยังเรือยูนิตี้ 3 ซึ่งจอดติดกัน และไม่สามารถดับเพลิงได้ จึงได้ให้ลูกน้องตัดเชือกปล่อยเรือให้ลอยลำกลางลำน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้ลุกลามไปยังเรือลำอื่น อย่างไรก็ตาม ขณะเกิดเหตุไม่มีสินค้าอยู่ในเรือ ส่วนสาเหตุคาดว่า เกิดจากไฟฟ้าที่ต่อมาจากสำนักงานเกิดลัดวงจร ทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้ จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยดับเพลิงจนไฟดับ ส่วนค่าความเสียหายคาดว่าไม่ต่ำกว่า 7 ล้านบาท

ด้านนายสุรศักดิ์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นนี้ ได้แจ้งให้เจ้าของเรือทำการวางทุ่นแสดงเครื่องหมายจุดที่เรือจม และติดตั้งไฟสัญญาณ เพื่อป้องกันไม่ให้เรือลำอื่นมาชน เนื่องจากจุดเกิดเหตุอยู่กลางลำน้ำ และหลังจากนั้นจะให้เก็บกู้ซากเรือต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เรือยูนิตี้ 2 มีขนาดกว้าง 5.80 ม.ยาว 19.86 ม. และเรือยูนิตี้ 3 กว้าง 4.20 ม.ยาว 18.08 เมตร

ที่มา -