ข่าว:

ห้ามโพสโฆษณา หาเงินทางเน็ต งาน Part-time MLM ทุกรูปแบบ ธุรกิจที่มี downline ปั่นลิก์ SEOเด็ดขาด หากพบจะแบนสมาชิกนั้นออกจากบอร์ดทันที

Main Menu

รำลึกถึงเสด็จเตี่ยของทหารเรือไทย19 พฤษภาคม “วันอาภากร”

เริ่มโดย mrtnews, พ.ค 19, 14, 19:32:22 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ "องค์บิดาของทหารเรือไทย" ทรงเป็นต้นราชสกุล "อาภากร" พระราชโอรสองค์ที่ 28 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และเจ้าจอมมารดาโหมด


ทรงเข้าเป็นนักเรียนในโรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ จากนั้นพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เสด็จไปทรงศึกษาต่อ ณ ประเทศอังกฤษพร้อมกับสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ (ต่อมาคือพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว) ในปี พ.ศ. 2436 ต่อมาในปี พ.ศ. 2439 ทรงเข้าศึกษาต่อในโรงเรียนนายเรือแห่งอังกฤษ ต่อจากนั้นทรงศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยทหารเรือ โรงเรียนปืนใหญ่ และโรงเรียนตอร์ปิโด จนได้ทรงรับการเลื่อนยศเป็นเรือเอก รวมเวลาที่ทรงศึกษาอยู่ในสำนักราชนาวีอังกฤษ 6 ปีเศษ แล้วเสด็จกลับสยามเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2443 ได้รับพระราชทานยศเป็นนายเรือโท แล้วทรงได้รับการเฉลิมพระอิสริยยศเป็นพระองค์เจ้าต่างกรมที่ "กรมหมื่นชุมพรเขตร์อุดมศักดิ์" ดำรงตำแหน่ง รองผู้บัญชาการกรมทหารเรือ และทรงดำรงตำแหน่ง เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารเรือ พระองค์ได้ทรงแก้ไขและปรับปรุงระเบียบของโรงเรียนนายเรือ ทรงเป็นพระอาจารย์ของนักเรียนนายเรือ ทรงจัดเพิ่มเติมวิชาสำคัญสำหรับทหารเรือ เพื่อให้เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้ว สามารถเดินเรือทางไกลในทะเลน้ำลึกได้ คือวิชาดาราศาสตร์ ตรีโกณมิติ พีชคณิต การเดินเรือเรขาคณิต และอุทกศาสตร์ ทรงเป็นเรี่ยวแรงสำคัญของทหารเรือจนพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเห็นความสำคัญและโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชวังเดิมให้เป็นที่ตั้งของโรงเรียนนายเรือเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2449 ทำให้กิจการทหารเรือมีรากฐานมั่นคง กองทัพเรือไทยจึงถือว่าวันดังกล่าวของทุกปีเป็นวันกองทัพเรือ ทรงได้รับการเชิดชูในหมู่ทหารเรือว่า "เสด็จเตี่ย" และ "พระบิดาแห่งกองทัพเรือไทย" และ "หมอยา" เนื่องจากทรงศึกษาวิชาแพทย์แผนโบราณ และทรงแต่งตำรายาแผนไทยด้วย ทรงรักษาโรคให้ประชาชนโดยไม่คิดเงิน ดังนั้นประชาชนจึงขนานพระนามพระองค์ว่า หมอพร

ครั้นเมื่อ พ.ศ. 2460 สยามเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 1 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กรมหมื่นชุมพรเขตร์อุดมศักดิ์ เสด็จกลับเข้ารับราชการในตำแหน่ง เจ้ากรมจเรทหารเรือ ทรงดำรงตำแหน่งเสนาธิการทหารเรือ ในปี พ.ศ. 2461 ต่อ พ.ศ. 2462 ทรงได้รับแต่งตั้งให้เป็นข้าหลวงพิเศษออกไปจัดหาซื้อเรือในภาคพื้นยุโรป โดยเรือที่จะจัดซื้อนี้ได้รับพระราชทานนามว่า "เรือหลวงพระร่วง" ทรงเป็นผู้บังคับการเรือ นำเรือหลวงพระร่วงแล่นข้ามทวีปจากประเทศอังกฤษเข้ามายังกรุงเทพมหานครด้วยพระองค์เอง ต่อมาในปี พ.ศ. 2463 มีพระบรมราชโองการให้เลื่อนพระเจ้าพี่ยาเธอ กรมหมื่นชุมพรเขตร์อุดมศักดิ์ ขึ้นเป็นกรมหลวงมีพระนามตามจารึกในพระสุพรรณบัฏว่า พระเจ้าพี่ยาเธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ สิงหนาม ทรงศักดินา 15,000 ไร่


พระองค์ทรงเป็นนักยุทธศาสตร์ผู้เห็นการณ์ไกล ได้กราบทูลขอพระราชทานที่ดินบริเวณอำเภอสัตหีบ ชลบุรี เพื่อสร้างเป็นฐานทัพเรือ เมื่อปี พ.ศ. 2465 เพราะทรงเล่งเห็นว่าเป็นชัยภูมิที่เหมาะสมกับการฝึกซ้อมยิงตอร์ปิโด และมีเกาะน้อยใหญ่รายล้อมสามารถบังคลื่นลมได้เป็นอย่างดี

เสด็จเตี่ยของทหารเรือไทยทรงอุทิศพระองค์เพื่อกิจการทหารเรือมาตลอดพระชนม์ชีพ จนสุดท้ายได้กราบถวายบังคลลาออกจากราชการ เพื่อทรงพักผ่อนรักษาพระองค์หลังจากทรงประชวรมาระยะหนึ่ง จนกระทั่งเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2466 ทรงสิ้นพระชนม์ ณ ตำบลหาดทรายรี จังหวัดชุมพร สิริพระชนม์มายุ 43 พรรษา ดังนั้นกองทัพเรือไทยจึงถือเอาวันที่ 19 พฤษภาคมทุกปีเป็นวันอาภากรเพื่อเทิดพระเกียรติขององค์พระบิดาทหารเรือไทย


ม.ร.ว.จิยากร อาภากร เสสะเวช ธิดาของหม่อมเจ้ารุจยากร อาภากร พระโอรสในพลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ผู้มีศักดิ์เป็นหลานปู่ ผู้รับหน้าที่ประธานมูลนิธิราชสกุลอาภากร ให้สัมภาษณ์พิเศษกับแนวหน้าว่า ดิฉันมั่นใจว่าสมาชิกราชสกุลอาภากรทุกคนต่างยึดแนวพระจริยวัตรของพระองค์ เพื่อเป็นแบบอย่างของความรักชาติรักแผ่นดิน พร้อมตั้งใจจริงที่จะประกอบคุณความดีเพื่อตอบแทนคุณของแผ่นดินไทยอันเป็นที่รักยิ่งของเราสืบไป สมาชิกราชสกุลอาภากรยึดถือพุทธภาษิตประจำพระองค์ที่ว่า "กยิรา เจ กยิราเถนํ" (จะทำสิ่งไร ควรทำจริง)  คือปฎิบัติงานใด ๆ จะต้องศึกษาหาความรู้ ขยัน อดทน และทำด้วยความตั้งใจอย่างจริงจังเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ในฐานะประธานมูลนิธิฯ ดิฉันและสมาชิกทุกคนตั้งใจทำงานเพื่อเทิดพระเกียรติของพระองค์ท่าน โดยเน้นการทำกิจกรรมสาธารณกุศลต่าง ๆ ในวาระครบรอบ 9 ทศวรรษการสิ้นพระชมน์ของพระองค์ มูลนิธิฯ จะจัดพิมพ์หนังสือพระประวัติกรมหลวงชุมพร 2 ฉบับ เพื่อเผยแพร่พระเกียรติคุณและพระปรีชาสามารถในศาสตร์หลายแขนง บัดนี้มูลนิธิฯ กำลังจัดพิมพ์หนังสือพระประวัติที่มีรายละเอียด ภาพ และเอกสารอ้างอิง ที่ยังไม่เคยตีพิมพ์ ณ ที่ใดมาก่อน หนังสือทั้ง 2 ฉบับนี้ มูลนิธิฯ พิมพ์จำนวนจำกัด ดังนั้นผู้สนใจโปรดติดต่อสอบถามรายละเอียดที่มูลนิธิราชสกุลอาภากร ในพลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เลขที่ 1003 ถ.สมเด็จพระเจ้าตากสิน แขวงดาวคะนอง  เขตธนบุรี กรุงเทพฯ 10600 โทรศัพท์ 02-468-2696 , 084-642-5577 โทรสาร 02-877-8642 www.abhakara.org Email: abhakara@yahoo.co.th

ที่มา -