ข่าว:

รับสมัครเฉพาะชาวเรือและผู้ที่สนใจที่เป็นคนไทยเท่านั้น สมัครแล้วรออนุมัติประมาณ 2-3 วัน หากต้องการด่วนโปรดแจ้ง webmaster@marinerthai.net

Main Menu

ธุรกิจประมงน่านน้ำกัมพูชาแข่งขันหนัก หลังเรือประมงไทยร่วม 100 ลำเข้าทำการ

เริ่มโดย mrtnews, พ.ค 26, 14, 21:43:16 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

ตราด - ประมงน่านน้ำกัมพูชาแข่งขันหนัก หลังเรือประมงไทยร่วม 100 ลำ เข้าทำการ นายกสมาคมเผยรายได้เข้าประเทศกว่า 2,000 ล้านบาท


น.ส.พิมพ์พิชา บุญเฮง อายุ 37 ปี เจ้าของเรือ จ.อนุรักษ์นาวี 59 อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เปิดเผยว่า ทุกปีระหว่างเดือนพฤศจิกายน ถึงพฤษภาคม มีเรือประมงของไทยกว่า 100 ลำ ทำประมงในน่านกัมพูชา มูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี ทำให้มีการแข่งขันกันมาก ซึ่งตนเเข้าไปทำประมงในน่านน้ำกัมพูชามานานหลายปีแล้ว หลังเข้ามาบริหารงานแทนบิดา

การเข้าไปทำประมงในน่านน้ำกัมพูชา ต้องติดต่อกับเจ้าหน้าที่ประมงของ จ.เกาะกง เพื่อจ่ายค่าน้ำ หรือสัมปทานให้แก่ทางเกาะกง และทางเจ้าหน้าที่จะออกตั๋วให้เพื่อใช้ในการแสดงแก่เจ้าหน้าที่ประมงชายฝั่ง และตำรวจน้ำเกาะกง กรณีที่มีการตรวจสอบการทำประมง ส่วนเรือ จ.อนุรักษ์นาวี 59 มีหลายลำที่เข้าไปทำประมง เสียค่าน้ำลำละ 1.5 แสนบาทต่อ 30 วัน

"ปัจจุบันมีเรือประมงไทยเข้าไปกว่า 100 ลำ จับปลาแต่ละครั้งได้ 1-1.5 ล้านบาท ต้นทุนจะมีค่าแรงงานกัมพูชา และค่าน้ำมัน ซึ่งพอมีกำไรบ้าง และไม่มีปัญหาเท่าไหร่ หากเข้าไปอย่างถูกต้อง จ่ายค่าน้ำตรงไปตรงมา ทางกัมพูชาจะดูแลอย่างดี และคุ้มครองไม่ให้เกิดปัญหา แต่ที่มีปัญหา คือ แรงงานหายาก และการแข่งขัน ทั้งเรือไทย และเรือจากประเทศกัมพูชา รวมทั้งเรื่องรสัตว์น้ำที่มีจำนวนลดลง ทำให้ต้องใช้เวลาในการจับเพิ่มขึ้น ซึ่งปลาส่วนใหญ่จะเป็นปลาทู และปลาเศรษฐกิจอื่น เช่น ปลาอินทรีย์ และปลากะตัก"

น.ส.พิมพ์พิชา กล่าวว่า ปัญหาที่อยากให้รัฐบาลช่วยแก้ไข คือ ราคาน้ำมันที่สูง เมื่อก่อนยังมีน้ำมันเขียวให้ แต่ขณะนี้ไม่มีแล้ว อีกทั้งราคาสัตว์น่้ำที่ไม่มีการขึ้นราคามานาน ไม่สอดคล้องกับต้นทุนที่สูงขึ้น หากทำได้จะแก้ปัญหาของชาวประมงได้ระดับหนึ่ง


นายกิตติ โกสินสกุล นายกสมาคมประมงจังหวัดตราด กล่าวว่า รายได้ของธุรกิจประมงน่านน้ำกัมพูชามีมูลค่าหลายพันล้านบาทต่อปี เฉพาะ จ.ตราด มีมากกว่า 1,500 ล้านบาท ซึ่งแต่ละวันมีวงเงินหมุนเวียนกว่า 200 ล้านบาท แต่การทำประมงในกัมพูชามีระยะเวลาจำกัด เพราะมีช่วงมรสุม เรือประมงต่างถิ่น เช่น ภาคใต้จะกลับไปทำประมงที่ภาคใต้"

"ค่าใช้จ่ายที่คิดเป็นค่าสัมปทานในแต่ละปี คือ 1 ปี ทำประมงได้ 4-5 เดือน หรือมากสุด 6 เดือน ต่ำสุดประมาณ 100 ล้านบาทต่อเดือน ทั้งปีน่าจะอยู่ราว 5-600 ล้านบาท แต่รายได้ของเรือประมงไทย 2,000-3,000 ล้านบาท ถือว่าคุ้มค่าต่อการลงทุน ซึ่งปัจจุบันเรือเวียดนามก็เข้ามาในน่านน้ำกัมพูชาบ้างแล้ว"

ที่มา -