ข่าว:

รับสมัครเฉพาะชาวเรือและผู้ที่สนใจที่เป็นคนไทยเท่านั้น สมัครแล้วรออนุมัติประมาณ 2-3 วัน หากต้องการด่วนโปรดแจ้ง webmaster@marinerthai.net

Main Menu

สภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือเสนอ คสช. เดินหน้าปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ

เริ่มโดย mrtnews, พ.ค 31, 14, 19:32:29 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 2 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

สำนักข่าวไทย 30 พ.ค. 57 - สภาผู้ส่งออกทางเรือแห่งประเทศไทย ระบุตัวเลขส่งออกเดือนเมษายนขยายตัวติดลบ ร้อยละ 0.87 ส่วนยอดส่งออกทั้งปีมองว่าอาจขยายตัวเพียงร้อยละ 3 เท่านั้น พร้อมเสนอ คสช.เร่งเดินหน้าปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ และวางแนวทางเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทย 


นายนพพร เทพสิทธา ประธานสภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทยเปิดเผยตัวเลขการส่งออกเดือนเมษายน มีมูลค่า 17,294 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 0.87  ขณะที่มูลค่าการส่งออกตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเมษายน 57  ยังติดลบที่ร้อยละ 0.97  โดยมีมูลค่า 73,406 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  ซึ่งสถานการณ์ส่งออกชะลอตัวต่อเนื่องตั้งแต่เดือนที่แล้ว โดยตลาดส่งออกหลักทั้งตลาดจีน ญี่ปุ่น และอาเซียน มีอัตรการเติบโตลดลงที่ - 9.5  และ -4.5 และ -1.9 ตามลำดับ ซึ่งตลาดจีนได้รับผลกระทบโดยตรงจากการปรับนโยบายเศรษฐกิจที่หันมาเน้นการบริโภคในประเทศและลดการส่งออก  ขณะที่ตลาดญี่ปุ่นได้รับผลกระทบจากการเพิ่มขึ้นของการขึ้นภาษีบริโภค ทำให้ผู้ซื้อชะลอการสั่งสินค้า ส่วนตลาดหลักอื่น ๆ เช่น สหภาพยุโรป และสหรัฐอเมริกาปรับตัวดีขึ้นที่ร้อยละละ 5.4 และ 0.6 เนื่องจากเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว

ทั้งนี้ ภายใต้การบริหาร ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ทางสภาผู้ส่งออกทางเรือเสนอ 5 แนวทางปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ โดยยินดีเข้าหารือกับทาง คสช.ในรายละเอียดเพื่อผลักดันให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรม ได้แก่ 1) ต้องเร่งปรับปรุงโครงสร้างหน่วยงานด้านเศรษฐกิจอย่างบูรณาการ 2) ปรับปรุงกฎหมาย และการแก้ปัญหากฎระเบียบที่เป็นอุปสรรค 3) ให้ความสำคัญกับการจัดทำแผนวิจัยและพัฒนา และการสนับสนุนงบประมาณ  4) จัดตั้งศูนย์พัฒนาด้านการออกแบบแห่งชาติ (National Design Center) เพื่อรองรับความต้องการของผู้ประกอบการในการออกแบบพัฒนาผลิตภัณฑ์ และ 5) การวางรากฐานการพัฒนาบุคลากรทั้งในส่วนของอุตสากรรมและระบบการศึกษาของไทยขึ้นมาใหม่ และการสร้างความเชื่อมั่นเศรษฐกิจไทยขณะนี้ จะให้ภาครัฐหรือ ทูตพาณิชย์คงไม่ได้ผล แต่ภาคเอกชนไทยจะต้องเป็นผู้สร้างความเข้าใจต่อคู่ค้าของตนเองให้มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ทางสภาผู้ส่งออกฯ คาดการณ์ว่าการขยายตัวของการส่งออกไทยปีนี้จะเติบโตได้เพียงร้อยละ 3 โดยเป็นเป้าท้าทาย ซึ่งต่ำกว่าที่กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 3.5 สิ่งสำคัญที่ผู้ส่งออกไทยต้องเร่งดำเนินการคือสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศคู่ค้าว่าการส่งออกไม่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ยังควรเร่งผลักดันการส่งออกในอุตสาหกรรมสำคัญ เช่นอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งจะมีผลต่อเนื่องค่อนข้างสูง ขณะเดียวกันก็ควรขยายการส่งออกในตลาดหลักเช่น สหรัฐ อเมริกาและยุโรป ซึ่งเศรษฐกิจมีสัญญาณดีขึ้น เนื่องจากการขยายการส่งออกไปสู่ตลาดใหม่ยังทำได้ยากในช่วงนี้

ที่มา -