เรือรื้อถอน/ติดตั้งแท่นขุดยักษ์ Pieter Schelte ใกล้เสร็จส่งมอบในช่วงปลายปีนี้

[mrtnews]

เรือยักษ์แบบตัวเรือคู่ (catamaran) หรือเรียกว่าเรือ Supercat ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกชื่อ Pieter Schelte มีแผนจะต่อแล้วเสร็จในเมืองรอตเทอร์ดาม (Rotterdam) ประเทศเนเธอร์แลนด์ในช่วงปลายปี 2557 นี้ ตามรายงานของการท่าเรือรอตเทอร์ดามที่ประกาศเมื่อวันศุกร์ที่ 11 ก.ค. 57

บริษัทเจ้าของและผู้ออกแบบเรือ Pieter Schelte ซึ่งเป็นเรือสำหรับติดตั้งและรื้อถอนแท่นขุดเจาะน้ำมัน (platform installation and decommissioning ship) ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างที่อู่ต่อเรือ DSME (Daewoo Shipbuilding & Marine Engineering Co., Ltd ) ประเทศเกาหลีใต้ได้ ตามสัญญาข้อตกลงที่จะย้ายเรือส่วนนี้เมื่อต่อเสร็จแล้วไปยังเมืองรอตเทอร์ดาม เพื่อนำไปประกอบเรือขั้นสุดท้ายกับอุปกรณ์หลักอื่นๆ

ได้มีแผนการที่จะย้ายเรือที่ต่อไปยังท่าเทียบเรือ Alexiahaven ที่อยู่ในเขตของการท่าเรือรอตเทอร์ดามช่วงปลายปี 2557 ซึ่งเป็นสถานที่เตรียมไว้สำหรับการประกอบติดตั้งคานความยาว 65 เมตร บนดาดฟ้าด้านหัวเรือเพื่อเป็นระบบยกขาแท่นขุดเจาะ (topsides lift system) จะถูกติดตั้งเป็นคู่ ด้านละ 4 คู่ ปัจจุบันคานยกทั้งหมดกำลังถูกสร้างขึ้นในประเทศอิตาลี และเมื่อสร้างเสร็จจะถูกลำเลียงโดยเรือไปยังประเทศเนเธอร์แลนด์

เรือ Pieter Schelte  มีขนาดความยาวตลอดลำ 382 เมตรและมีความกว้างวัดได้ 124 เมตร ตัวเรือมีรูปร่างประกอบด้วยเรือสองลำอยู่ติดเคียงข้างกันและต่อเชื่อมกันด้านข้าง (side-by-side) และด้วยการออกแบบให้ส่วนหัวเรือมีช่องว่างเพื่อใช้ในการเสียบรับแท่นขุดเจาะ ที่ส่วนหัวของเรือ Pieter Schelte จะติดตั้งคานแขนยก (topsides lift system) เพื่อใช้ในการรื้อถอนหรือติดตั้ง และการขนย้ายแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซขนาดใหญ่ในพื้นที่ทะเลเหนือ (North Sea) ได้อย่างสะดวก นอกเหนือจากนั้นเรือ Pieter Schelte ยังติดตั้งอุปกรณ์สำหรับการวางท่อขนาดใหญ่ใต้ทะเลอีกด้วย เรือ Pieter Schelte มีขีดความสามารถในการยกแท่นขุดเจาะ (offshore platforms) ที่มีน้ำหนักถึง 48,000 ตันและโครงสร้างแจ็คเก็ต (jackets up) ได้หนักถึง 25,000 ตัน

เรือ Pieter Schelte เป็นผลิตผลจากแนวความคิดของ นายเอ็ดเวิร์ด ฮีรีมา (Edward Heerema) หัวหน้าผู้บริหารของกลุ่มบริษัทวิศวกรรมออลซี  (Allseas) ซึ่งได้มีการใช้จ่ายทั้งหมดตามรายงานประมาร 3 พันล้านเหรียญ (ประมาณ 96,000 ล้านบาท) ในการลงทุนสำหรับเรือลำนี้

นับตั้งแต่ปี 2513 เป็นต้นมี มีแท่นขุดน้ำมันจำนวนมากกว่า 500 แท่นและท่อใต้ทะเลได้รับการติดตั้งระยะทางรวมมากกว่า  45,000 กิโลเมตรในทะเลเหนือ โดยอายุการใช้งานของโครงสร้างพื้นฐานและท่อใต้ทะเลได้หมดลงแล้ว ส่งผลให้การผลิตลดลง จำเป็นต้องดำเนินการรื้อถอนออกและติดตั้งชุดใหม่ทดแทนแท่นขุดดังกล่าวเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม

ที่มา - | แปลและเรียบเรียงข่าวโดย

[youtube=640,390]http://www.youtube.com/watch?v=gAZyN2FT8-A[/youtube]