ข่าว:

ห้ามโพสโฆษณา สินค้าที่ดูแล้วขัดต่อ ศีลธรรม ประเพณี หรือกฏหมายของไทย เด็ดขาด หากพบจะแบนสมาชิกนั้นออกจากบอร์ดทันที

Main Menu

กองทัพเรือสหรัฐเผยโฉม “อาวุธเลเซอร์” ตัวใหม่

เริ่มโดย mrtnews, พ.ค 15, 13, 11:32:44 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์สรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 9 เม.ย. 56 ว่า กองทัพเรือสหรัฐเผยโฉมอาวุธเลเซอร์ที่มีประสิทธิภาพทำลายเรือรบของศัตรูที่มีขนาดเล็ก และสามารถสกัดการโจมตีจากอากาศยานไร้คนขับ ( โดรน ) ของฝ่ายตรงข้ามด้วย


พลเรือตรี แมทธิว คลันเดอร์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยแห่งกองทัพเรือสหรัฐ ( โอเอ็นอาร์ ) เปิดเผยเพียงว่า ระบบโจมตีด้วยเลเซอร์ที่ว่านี้จะถูกนำไปติดตั้งบนเรือพิฆาต "ยูเอสเอส พอนซ์" ที่สามารถแปลงสภาพเป็นเรือสะเทินน้ำสะเทินบก ในช่วงปี 2557 ซึ่งถือว่าเร็วกว่ากำหนดการที่วางเอาไว้ก่อนหน้านี้ราว 2 ปี

ทั้งนี้ กองทัพเรือได้คำนวณแล้วว่า ค่าใช้จ่ายในการปล่อยลำแสงแต่ละครั้งอยู่ที่ไม่เกิน 1 ดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 29 บาท ) เท่านั้น ซึ่งจะช่วยประหยัดงบประมาณของกองทัพในอนาคตได้อย่างมาก เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการยิงขีปนาวุธแต่ละครั้งนั้นมีต้นทุนสูงถึงหลายแสนเหรียญดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว

ที่มา -





กองทัพเรือสหรัฐติดตั้งอาวุธเลเซอร์

กองทัพเรือสหรัฐ ระบุ จะติดตั้งอาวุธเลเซอร์บนเรือเป็นครั้งแรก สามารถยิงเครื่องบินไร้คนขับได้และโจมตีเรือรบลำอื่นได้


นายปีเตอร์ มอร์ริสัน แห่งสำนักวิจัยกองทัพเรือฝ่ายเทคโนโลยีเลเซอร์ กล่าวว่า เทคโนโลยีเลเซอร์จะพลิกโฉมการทำสงคราม เนื่องจากเลเซอร์ดังกล่าวใช้พลังงานไฟฟ้า ทำให้สามารถยิงลำแสงออกมาตราบเท่าที่ยังมีพลังงานอยู่ ซึ่งการยิงแต่ละครั้งจะมีมูลค่าต่ำกว่า 1 ดอลลาร์

พลเรือตรีแม็ทธิว คลุนเดอร์ หัวหน้าสำนักวิจัยกองทัพเรือ แถลงว่าคนจะตระหนักถึงคุณค่าของเทคโนโลยีนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับค่าใช้จ่ายหลายแสนดอลลาร์ที่ต้องเสียไปกับการยิงขีปนาวุธหนึ่งลูก

ต้นแบบเทคโนโลยีเลเซอร์ ซึ่งจะใช้งบประมาณในการสร้าง 31-32 ล้านดอลลาร์ จะได้รับการติดตั้งบนเรือยูเอสเอส พอนเซ่ ซึ่งเป็นเหมือนฐานทัพลอยน้ำในตะวันออกกลาง ในช่วงปีงบประมาณ 2557 อย่างไรก็ตาม รายงานของสำนักวิจัยสภาคองเกรสได้ชี้ถึงข้อเสียเปรียบในการใช้งานอาวุธเลเซอร์ ในกรณีที่อาจยิงพลาด ไปโดนเครื่องบินหรือดาวเทียม นอกจากนี้ เลเซอร์เองก็อาจทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพหรือทำงานไม่ได้เลยในสภาะวะที่ฝนตกหรือหมอกลงหนา

ที่มา -





มะกันเล็งติด'อาวุธเลเซอร์'บนเรือรบ ทดลองใช้จริงในอ่าวเปอร์เซีย

กองทัพเรือสหรัฐฯเตรียมนำอาวุธเลเซอร์ ซึ่งผ่านการพัฒนามาหลายปี ติดตั้งบนเรือรบ เพื่อทดลองใช้งานจริงที่อ่าวเปอร์เซียในช่วงต้นปี 2014...


สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 9 เม.ย. 56 ว่า กองทัพเรือสหรัฐฯเตรียมนำอาวุธเลเซอร์ ซึ่งมีขีดความสามารถในการยิงทำลายพาหนะขนาดเล็กของศัตรู รวมถึงอากาศยานไร้พลขับชนิดสอดแนม ติดตั้งบนเรือรบเพื่อทดลองใช้งานจริงบริเวณอ่าวเปอร์เซียในช่วงต้นปี 2014 เร็วกว่ากำหนดการเดิมถึง 2 ปี

อาวุธเลเซอร์นี้ถูกเรียกว่า 'LAWS' ย่อมาจาก 'Laser Weapon System' มีลักษณ์คล้ายกล้องโทรทรรศขนาดเล็ก ใช้เวลาพัฒนา 6 ปี กับงบประมาณอีก 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.16 พันล้านบาท) มีความสามารถติดตามการเคลื่อนที่ของเป้าหมาย และยิงลำแสงเลเซอร์ซึ่งมีกำลังแรงเพียงพอที่จะเผาไหม้ทะลุเหล็กจนเป็นรูโหว่

กองทัพเรือสหรัฐฯได้เผยแพร่คลิปวิดีโอการทดสอบประสิทธิภาพของอาวุธเลเซอร์ ในทะเลนอกชายฝั่งรัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมา แสดงให้เห็นภาพการยิงเลเซอร์ใส่โดรนเป้าหมายจนไฟลุกไหม้และตกลงสู่มหาสมุทร โดยพลเรือตรี แมทธิว คลุนเดอร์ หัวหน้าศูนย์วิจัยแห่งกองทัพเรือระบุว่า ผลการทดสอบยิงโดรน 3 ลำ รวมถึงการทดลอง 12 ครั้งก่อนหน้านี้ ปรากฎว่าอาวุธเลเซอร์ ยิงไม่พลาดเป้าเลยแม้แต่ครั้งเดียว

คลุนเดอร์เผยอีกว่า อาวุธเลเซอร์ตัวนี้ ถูกออกแบบมาให้เป็นระบบ ติดตั้งแล้วใช้ได้เลย ซึ่งสามารถผสมผสานกับเทคโนโลยืของเรือนรบที่มีอยู่แล้วได้เป็นอย่างดี ทำให้เป็นอาวุธที่มีราคาถูกมาก โดยการยิงแต่ละครั้งจะเสียค่าใช้จ่ายไม่ถึง 1 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 29 บาท)

นอกจากนี้ ยังมีการเสริมเทคโนโลยีใหม่ใน LAWS เพื่อลดการสูญเสียพลังของเลเซอร์ที่ถูกยิงไปในระยะไกล ระดับความเข้มของแสงเลเซอร์สามารถปรับลดลงจนอยู่ในระดับต่ำ เพื่อใช้ในการส่งสัญญาณเตือนเรือ และโดรนไม่แล่นเข้าใกล้เรือมากเกินไป แทนที่การยิงปืนขู่เหมือนที่ใช้กันในปัจจุบัน

ทั้งนี้ จากการเปิดเผยของกองทัพเรือในการทดสอบอาวุธเลเซอร์ก่อนหน้านี้ ระบุว่า กองทัพมีความั่นใจว่า LAWS พร้อมสำหรับการทดสอบในโลกจริง โดยจะติดตั้งบนเรือรบ 'ยูเอสเอส พอนซ์' ในอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งเป็นเรือที่ปฏิบัติภารกิจเฝ้าระวังการคุกคามทางทะเลของอิหร่าน

อย่างไรก็ดี โดยขณะนี้ LAWS สามารถติดตามการเคลื่อนที่ของเป้าหมายเช่น โดรนที่บินช้า หรือเรือที่มีความเร็วไม่เกิน 50 นอต (25ม./วินาที) เท่านั้น โดยกองทัพเือสหรัฐฯกำลังพัฒนาระบบ เพื่อให้สามารถติดตามเป้าหมายที่เคลื่อนที่เร็วขึ้นไปอีก

ที่มา -