ข่าว:

ห้ามโพสโฆษณา สินค้าที่ดูแล้วขัดต่อ ศีลธรรม ประเพณี หรือกฏหมายของไทย เด็ดขาด หากพบจะแบนสมาชิกนั้นออกจากบอร์ดทันที

Main Menu

เรือบรรทุกเครื่องบินลำใหญ่และประสิทธิภาพมากที่สุดของอังกฤษ นำออกจากอู่แห้งแล้ว

เริ่มโดย mrtnews, ก.ค 19, 14, 20:08:13 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

เรือรบขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาของอังกฤษชื่อ HMS Queen Elizabeth  ได้ถูกนำออกไปลอยในน้ำเป็นครั้งแรกในสัปดาห์นี้ (17 ก.ค. 57) โดยลอยลำออกมาจากอู่แห้งของอู่ต่อเรือ  BAE Systems shipyard ใกล้เมืองเอดินบะระ (Edinburgh) สหราชอาณาจักร


มีพื้นที่ว่างเพียงด้านละสองเมตรจากผนังด้านข้างของอู่แห้ง (dry dock) ขณะนำเรือบรรทุกเครื่องบิน (aircraft carrier) ขนาด 65,000 ตัน จำเป็นต้องนำเรือออกจากอู่อย่างรอบคอบโดยกองเรือทักลากจูงจากอู่เรือ BAE Systems shipyard สาขาใน Rosyth ตั้งอยู่ใกล้เมืองเอดินบะระ ลากจูงเรือบรรทุกเครื่องบิน HMS Queen Elizabeth  ออกไปเทียบท่ายังท่าเทียบเรือ (jetty) ที่อยู่ใกล้เคียงกัน เพื่อเก็บงานที่เหลือและติดตั้งอุกรณ์ต่างๆ บนดาดฟ้าซึ่งจะเสร็จสมบูรณ์ในอีกสองปีข้างหน้าตามแผน หลังจากที่มีการเตรียมดำเนินการล่วงหน้าสองวันในการปล่อยน้ำท่วมอู่แห้ง จนเพียงพอให้เรือลอยออกมาได้ และใช้เวลาเพียงสามชั่วโมงในการนำเรืออกจากอู่แห้ง และผ่านมา 13 วันหลังจากที่ สมเด็จพระราชินีได้ทรงเป็นประธานในพิธีตั้งชื่ออย่างเป็นทางการ (Her Majesty the Queen officially named the vessel ) งานพิธีจัดขึ้นเมื่อ 4 กรกฎาคม 2557


ตอนนี้ทีมงานสร้างเรือยังคงติดตั้งอุปกรณ์และระบบสำคัญต่างๆ ของเรือรบหลวง HMS Queen Elizabeth ตลอดจนการเตรียมการสำหรับการออกทดลองเรือทางทะเล ( sea trials) ในปี 2559 ในขณะอู่แห้งที่ซึ่งเรือถูกลากจูงออกจะถูกเก็บกวาดเพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับการประกอบเรือน้องสาว (sister ship) ชั้นเดียวกันที่ชื่อ HMS Prince of Wales ซึ่งจะเริ่มดำเนินการในเดือนกันยายน 2557 นี้

เรือบรรทุกเครื่องบิน HMS Queen Elizabeth เป็นเรือบรรทุกเครื่องบินลำแรกในชั้นเรือ Queen Elizabeth Class  กำหนดให้เป็นเรือที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดเท่าที่เคยมีการต่อเรือรบสำหรับกองทัพเรืออังกฤษ


เรือบรรทุกเครื่องบินทั้งสองลำถูกต่อขึ้นโดยกลุ่ม Aircraft Carrier Alliance ด้วยความร่วมมือกันระหว่างกระทรวงกลาโหม, บริษัท BAE Systems, บริษัท Babcock และบริษัท Thales

ที่มา - | แปลและเรียบเรียงข่าวโดย





..-