ข่าว:

ห้ามโพสโฆษณา อาหาร ยา และเครื่องสำอางค์ รวมถึงสมุนไพรทุกชนิด ไม่ว่าจะมี อย. หรือไม่  เด็ดขาด หากพบจะแบนสมาชิกนั้นออกจากบอร์ดทันที

Main Menu

TTA รุกซื้อธุรกิจเพิ่มลงทุนอาหาร-เครื่องดื่ม/เลื่อนส่ง PTMA เข้าตลาดฯต้นปี 58

เริ่มโดย mrtnews, ต.ค 02, 14, 20:28:46 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 1 ตุลาคม 2557  - นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์(TTA) เปิดเผยว่า บริษัทยังสนใจขยายการลงทุนไปยังธุรกิจอื่นๆ เพิ่มเติมทั้งในประเทศและต่างประเทศ ภายหลังที่ขยายการลงทุนไปในธุรกิจอาหารอละเครื่องดื่มในประเทศจีน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา 2-3 ราย เพราะปัจจุบันมีเงินสดในมือราว 3,000 ล้านบาท พร้อมจะเข้าลงทุนได้หากธุรกิจนั้นๆ สามารถสร้างผลกำไรให้กับผู้ถือหุ้น โดยตั้งเป้าผลตอบแทนการลงทุน(IRR)ไม่น้อยกว่า 11%


"มีหลายธุรกิจที่คุยอยู่แต่จะเน้นธุรกิจที่ทำกำไรให้กับผู้ถือหุ้นมากที่สุด"นายเฉลิมชัย กล่าว

วันนี้ TTA เปิดเผยว่าให้บริษัท โซลีอาโด โฮลดิ้งส์ พีทีอี แอลทีดี (Soleado) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ TTA ถือหุ้นทั้ง 100% ลงนามในสัญญาจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ บริษัท ไซโน แกรนด์เนส ฟู้ด อินดัสตรี กรุ๊ป จำกัด (SINO GRANDNESS) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มน้ำผลไม้และอาหารกระป๋องที่เติบโตเร็วมากในจีน และเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศสิงคโปร์ คิดเป็นมูลค่า 954,293,588 บาท

นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ผลประกอบการของบริษัทในงวดปีนี้(ปี 58/59)จะ Turnaround ในทุกธุรกิจ โดยคาดหวังรายได้รวมจะเติบโตมากกว่างวดปี 57/58 ที่คาดว่าจะเติบโตราว 40% และมั่นใจว่าเป็นกำไรแน่นอน เพราะงวด 9 เดือน(สิ้นสุด 30 มิ.ย.57)มีกำไรแล้วกว่า 686 ล้านบาท จากปี 56/57 ขาดทุน 5 พันล้านบาท

เนื่องจากธุรกิจเดินเรือเติบโตได้ดีมาก และบริษัทได้ซื้อเรือเข้ามาอีก 6 ลำในปีนี้ ส่งผลให้กองเรือเพิ่มขึ้นเป็น 24 ลำจากแผนของบริษัทที่ต้องการมีกองเรือขนาด 23-25 ลำ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรือซุปเปอร์แม็กซ์ ขณะที่ธุรกิจพลังงานก็ไปได้ดีเช่นกัน เนื่องจากบริษัทได้ทำสัญญาระยะยาวกับลูกค้า และธุรกิจผลิตและจำหน่ายปุ๋ยของบริษัทบาคองโกในเวียดนามก็มีกำไรปีละ 300 ล้านบาท

"ปีนี้เรา Turnaroud ทั้ง 2 ธุรกิจ ชิปปิ้งต้นทุนเราก็ต่ำทุกอย่างเป็น fixed cost ถ้าดัชนีค่าระวางเรือปรับขึ้นไปอีกก็เป็นกำไรทั้งนั้น ขณะที่ธุรกิจปุ๋ยมีกำไรปีละ 300 ล้านบาท กำไรต่อเนื่องมาตลอด ส่วนธุรกิจพลังงานเราก็กำไร วันนี้พร้อมหมดแล้วสามารถทำกำไรกลับมา จากนี้ไปเราต้องหา Investment เข้ามาเพิ่มเพื่อให้ TTA เป็นบริษัทลงทุนที่น่าเชื่อถือและทำได้จริง การเข้าลงทุนธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มในจีนเป็นการ balance port ของ TTA ไปอีกขั้น"นายเฉลิมชัย กล่าว

"ถ้ามองเรคอร์ด 3 ไตรมาส เราทำได้ดีมาก ไตรมาส 4 ก็ยังสามารถทำกำไรได้ดีอยู่ ธุรกิจจะโดดเด่นในไตรมาส 4 โดยเฉพาะชิปปิ้งเชื่อว่าปีนี้ทั้งปีกำไรจะโตขึ้น"นายเฉลิมชัย กล่าว

ด้านนานไกรลักขณ์ อัศวฉัตรโรจย์ ประธานเจ้าหน้าที่ทางการเงิน TTA กล่าวว่า บริษัทสามารถทำกำไรได้ดีเนื่องจากค่าระวางเรือในปีนี้สูงขึ้นมาที่ 11,000 เหรียญ/ลำ/วัน จากจุดคุ้มทุนที่ 8,500 เหรียญฯ/วัน/ลำ และยิ่งหากในอนาคตค่าระวางเรือปรับขึ้นไปอีก ก็จะยิ่งทำให้กำไรของบริษัทเพิ่มขึ้น เพราะมีต้นทุนคงที่

ส่วนการนำบริษัทย่อยคือ บริษัท PM Thoresen Asia Holdings (PMTA) ซึ่งถือหุ้น 100% เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยนั้น คงเลื่อนไปเป็นต้นปี 58 จากเดิมคาดไว้ปลายปีนี้ เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนแผนธุรกิจให้ TTA เข้าลงทุนใน SINO GRANDNESS แทน จากเดิมจะใช้ PMTA ที่เป็นบริษัทโฮลดิ้ง

แต่จากนี้บริษัทก็จะแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)รับทราบเพื่อพิจารณาอนุมัติให้เริ่มนับหนึ่งไฟลิ่งของ PMTA เนื่องจากบริษัทเตรียมข้อมูลไว้ครบแล้ว และไม่รีบเข้าจดทะเบียน เพราะ PMTA ไม่มีความจำเป็นใช้เงินในขณะนี้ เพียงต้องนำบริษัทเข้าจดทะเบียนเพื่อให้โครงสร้างแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น

ที่มา -




TTA ท้ารบ ICHI ขยายพอร์ตการลงทุนธุรกิจเครื่องดื่มและอาหารในตลาดจีน

เสี่ยกึ้ง ควักกระเป๋า 954 ล้านบาท ให้บริษัทลูกเข้าซื้อหุ้นแบบนักลงทุนเฉพาะรายของ Sino Grandness เจ้าตลาดเครื่องดื่มและอาหารในจีน เหตุกลุ่มผู้บริโภคมีความใส่ใจเทรนด์สุขภาพมากขึ้น เผยพร้อมบุกตลาดอาเซียนรับ AEC

นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ หรือ TTA กล่าวว่า บริษัทได้ให้ โซลีอาโด โฮลดิ้งส์ ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เข้าซื้อหุ้นออกใหม่ที่ขายเฉพาะให้กับนักลงทุนเฉพาะราย (PP)ของ บ.ไซโน แกรนด์เนส ฟู๊ด อินดัสตรี กรุ๊ป (Sino Grandness) ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ โดยประกอบธุรกิจผลิตและส่งออกอาหารกระป๋องและเครื่องดื่มผลไม้ในประเทศจีน จำนวน 60,601,035 หุ้น ในราคา 0.61 เหรียญสิงคโปร์ต่อหุ้น มูลค่าการลงทุนรวมสุทธิเท่ากับ 39,966,631 เหรียญสิงคโปร์ หรือคิดเป็นเงินไทย 954,293,588 ล้านบาท
       
"ขณะนี้บริษัทฯมีเงินสดหมุนเวียนประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาทเพื่อใช้ในการเข้าไปลงทุนในธุรกิจต่างๆ ซึ่งเรามองว่าการลงทุนครั้งนี้มีมูลค่าใกล้เคียงกับการซื้อเรือหนึ่งลำ โดยราคาไม่สูงมากนักเมื่อเทียบกับการลงทุนในธุรกิจดั้งเดิมของบริษัท อีกทั้งผู้บริโภคให้ความใส่ใจกับธุรกิจเพื่อสุขภาพเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเรามั่นใจว่าจะสามารถสร้างส่วนแบ่งการตลาดประเภทเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่มีอัตราการเติบโตต่อเนื่องได้อย่างดีมากกว่าเครื่องดื่มประเภทอื่นๆที่มีจำหน่ายอยู่ในท้องตลาด "
       
ทั้งนี้ บมจ. โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ หรือ TTA ให้บริษัท โซลีอาโด โฮลดิ้งส์ ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ทำการจองซื้อหุ้นสามัญออกใหม่ของ SINO GRANDNESS เพื่อขายให้กับนักลงทุนเฉพาะราย (PP) จำนวน 60,601,035 หุ้น ในราคา 0.61 เหรียญสิงคโปร์ต่อหุ้น ซึ่งเป็นราคาที่มีส่วนลดประมาณ 8% จากราคาตลาดคิดถัวเฉลี่ย ณ วันที่ 30 กันยายน ทั้งนี้ มูลค่าการลงทุนรวมอยู่ที่ 39,966,631 เหรียญสิงคโปร์ หรือคิดเป็นเงินไทยที่ 954,293,588 บาท และการจองซื้อหุ้นนี้ ยังต้องรอการพิจารณาจากตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ ซึ่งเมื่ออนุมัติแล้ว TTA จะเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ลำดับสอง และได้สิทธิแต่งตั้งกรรมการ 1 ตำแหน่ง โดย SINO RANDNESS เป็นหนึ่งในผู้นำตลาดสินค้าประเภทนี้ที่ประเทศจีน โดยรายได้ของ SINO GRANDNESS เมื่อปีที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 2,271 ล้านหยวน (หรือประมาณ 11,952 ล้านบาท) ซึ่งมีอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 52% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ในขณะที่สัดส่วนกำไรเบื้องต้นและสัดส่วนกำไรสุทธิโดยเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 39% และ 18% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ดังนั้น เพื่อรักษาอัตราการเติบโตที่รวดเร็วของธุรกิจและกำไรไว้  SINO GRANDNESS จึงได้มองหาแหล่งเงินทุนเพิ่มเติม และมีแผนที่จะขยายตลาดมายังแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยการขายหุ้น PP ดังกล่าวจะนำเงินที่ได้ไปขยายโรงงานเพิ่มเติม ซื้อเครื่องจักรใหม่ และใช้เพื่อการโฆษณาประชาสัมพันธ์ อย่างไรก็ตามคาดว่าช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้ TTA จะได้รับสิทธิในการแต่งตั้งกรรมการหนึ่งตำแหน่ง และกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ลำดับสองรองจาก นาย หวง ยู่เผิง ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ SINO GRANDNESS ที่ถือครองหุ้นจำนวน 35%

"การลงทุนในครั้งนี้สอดคล้องกับกลยุทธ์ของ TTA ที่ต้องการลงทุนในธุรกิจที่มีการเติบโตสูง ให้ผลกำไรดี และเรามีความสามารถที่จะทำได้ การที่บริษัท SINO GRANDNESS สามารถทำกำไรและมียอดขายที่เติบโตอย่างรวดเร็วได้ เป็นเพราะบริษัทนี้ทำธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มในตลาดสำหรับการบริโภคขนาดที่ใหญ่ที่สุดและมีเศรษฐกิจที่เติบโตเร็วที่สุดของโลกอย่างจีน อีกทั้งอาหารและผลไม้บรรจุขวดหรือกระป๋องก็มักจะเป็นที่นิยมของผู้บริโภคระดับกลาง ดังนั้น การลงทุนของเราน่าจะเติบโตไปได้ด้วยดีกับการเพิ่มขึ้นของจำนวนชนชั้นกลางในประเทศจีนที่มีประชากรเฉลี่ยกว่า 1.4 พันล้านคน ซึ่งในปีที่ผ่านมาผลประกอบการของ SINO GRANDNESS สามารถทำกำไรได้กว่า 2,200 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 20-30%ต่อเนื่องทุกปี ในประเทศจีน และมีความพร้อมในการที่จะขยายตลาดมายังภูมิภาคอาเซียนเพื่อรองรับตลาด AEC ที่มีอัตราเติบโตและกำลังซื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทฯมองว่าการเข้าไปทำธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มจะช่วยเพิ่มรายได้ของบริษัทที่มีอยู่ในสัดส่วนพลังงาน 50% ธุรกิจชิปปิ้ง 30% และธุรกิจการผลิตปุ๋ยและโกดังสินค้าของ TTA อีก 20% ซึ่งส่วนแบ่งกำไรที่เกิดขึ้นจากธุรกิจของ SINO GRANDNESS จะสามารถรับรู้ได้ในไตรมาสหน้า"

ขณะที่ในส่วนของการนำบริษัท บริษัท พี เอ็ม โทรีเซน เอเชีย โฮลดิ้งส์ (PMTA) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นั้น บริษัทฯมีความจำเป็นที่จะต้องเลื่อนออกไปก่อน เป็นอย่างน้อยต้นปีหน้า เนื่องจากบริษัทยังติดปัญหาในส่วนข้อมุลผู้ถือหุ้นที่จะต้องแก้ไขข้อมูลเสนอไฟลิ่งต่อ ก.ล.ต. บริษัทจึงได้เปลี่ยนเข้าไปลงทุนซื้อหุ้นในธุรกิจของ SINO GRANDNESS แทน นอกจากนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างเจรจาเพื่อเข้าซื้อกิจการทั้งในและต่างประเทศอยู่อย่างน้อย 2-3 บริษัท โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปอย่างน้อย 1 บริษัทภายในไตรมาสที่ 4 ปีนี้

ที่มา -





TTA บุกธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มในจีน

นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด(มหาชน) หรือ TTA  เปิดเผยว่า บริษัทได้ขยายพอร์ตการลงทุนสู่ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม โดยซื้อหุ้นของบริษัท ไชโน แกรนด์เนส ฟู้ด อินดัสตรี กรุ๊ป จำกัด ใช้เงินลงทุน 954,293,588 บาท เพื่อเข้าซื้อหุ้นสามัญออกใหม่สำหรับขายให้นักลงทุนแบบเฉพาะราย (PP) ของบริษัท Sino Grandness ซึ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์  60,601,035 หุ้น ในราคาหุ้นละ 0.61 ดอลลาร์สิงคโปร์ เป็นราคาที่มีส่วนลดประมาณ 8% จากราคาเฉลี่ย ณ 30 ก.ย.57 โดยบริษัทดังกล่าวดำเนินธุรกิจส่งออกอาหารกระป๋องและเครื่องดื่มผลไม้ในประเทศจีน โดยครองส่วนแบ่งการตลาดถึง 75% ในประเทศจีน


ทั้งนี้ อยู่ระหว่างการรอพิจารณาจากตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์เพื่ออนุมัติการเข้าซื้อหุ้นดังกล่าว คาดว่าจะทราบผลภายในเดือน ต.ค.นี้  หากมีการอนุมัติแล้ว TTA จะเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่เป็นอันดับ 2 ถือหุ้น 9% และได้สิทธิ์แต่งตั้งกรรมการ 1 ตำแหน่ง ในบริษัทดังกล่าว

"การซื้อหุ้นในครั้งนี้สอดคล้องกับเป้าหมายระยะยาวในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับ TTA โดยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา TTA ได้เปลี่ยนการดำเนินธุรกิจจากบริษัทเรือบรรทุกสินค้าแห้งเทกอง มาเป็นกลุ่มธุรกิจเพื่อการลงทุนที่มีพอร์ตการลงทุนที่หลากหลายทั้งในและต่างประเทศ   ธุรกิจใหม่นี้จะแตกออกมาเป็นอีกหนึ่งธุรกิจ ที่ นอกเหนือจากการลงทุนในกลุ่มธุรกิจขนส่ง พลังงาน และโครงสร้างขั้นพื้นฐานที่เคยมีในอดีต ซึ่งเป็นผลจากความพยายามของเราในการคว้าโอกาสทางการตลาดในบริษัทย่อยและบริษัทร่วม" นายเฉลิมชัย กล่าว

สำหรับ บริษัท ไชโน แกรนด์เนส ฟู้ด อินดัสตรี กรุ๊ป จำกัด ได้รายงานผลกำไรสุทธิของปี 2556 จำนวน 401.1 ล้านหยวน คิดเป็นเงินไทยประมาณ 2,166.7 ล้านบาท โดยผลกำไรของบริษัทมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) อยู่ที่ 49% ในระยะ 5 ปีที่ผ่านมา

ที่มา -