กทท. แจงงบลงทุนปีงบ’58 จำนวน 4.6 พันล.-เน้นจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกในท่าเรือ

[mrtnews]

18 พ.ย. 2557 - เรือตรีทรงธรรม จันทประสิทธิ์ ผู้อำนวยการท่าเรือกรุงเทพ รักษาการผู้อำนวยการ การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ 2558 กทท.ได้รับอนุมัติงบลงทุนจำนวน 4,676.616 ล้านบาท

โดยรายละเอียดของงบลงทุนตามแผนปฏิบัติการ ปีงบประมาณ 2558 ของ กทท.มีรายการลงทุนที่สำคัญ คือ ในส่วนของท่าเรือกรุงเทพ (ทกท.) ประเภทเครื่องจักรอุปกรณ์ ได้แก่ การจ้างเหมาต่อเรือวางทุ่น (Buoy Tender) พร้อมเครนขนาดยกน้ำหนักได้ไม่น้อยกว่า 12 เมตริกตัน จำนวน 1 ลำ การจ้างเหมาต่อเรือขุดพร้อมอุปกรณ์การขุด ความสามารถในการขุดได้ที่ความลึกไม่น้อยกว่า 15 เมตร จำนวน 1 ลำ และเรือลากจูงขนาดกำลังฉุดไม่น้อยกว่า 10 เมตริกตัน จำนวน 1 ลำ การจัดซื้อรถยกตู้สินค้าหนัก (Top Loader) ขนาดยกไม่น้อยกว่า 40 เมตริกตัน แบบจัดเรียงได้ 3 แถว จำนวน 2 คัน การจัดซื้อรถยกตู้เปล่า (Reach Trucker) ขนาดยกไม่น้อยกว่า 7 เมตริกตัน แบบจัดเรียงได้ 3 แถว จำนวน 2 คัน ฯลฯ และประเภทสิ่งก่อสร้าง ได้แก่ การปรับปรุงระบบไฟฟ้าโครงการพัฒนาพื้นที่ 45 ไร่ บริเวณล็อค 7 – 12 (ลานบรรจุตู้สินค้าเพื่อการส่งออก) งานปรับปรุงพื้นที่ลานวางตู้สินค้าแผนกคลังสินค้าผ่านแดน งานสร้างหลุมเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องรถเครื่องมือทุ่นแรง ณ โรงซ่อมแผนกซ่อมเครื่องมือทุ่นแรง 1

เรือตรีทรงธรรม กล่าวว่า ส่วนท่าเรือแหลมฉบัง (ทลฉ.) ได้แก่ งานสร้างรั้วคอนกรีตเสริมเหล็กขยายแนวเขตทำเนียบ ทลฉ. จัดซื้อรถกู้สารเคมีและวัตถุอันตรายพร้อมอุปกรณ์ ขนาดเครื่องยนต์ไม่น้อยกว่า 240 แรงม้า จำนวน 1 คัน งานสร้างศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พร้อมติดตั้งระบบสัญญาณควบคุมและแจ้งเหตุเพลิงไหม้อัตโนมัติ ฯลฯ ซึ่งปัจจุบันแผนการลงทุนดังกล่าวอยู่ระหว่างการดำเนินการ

"กทท.ได้ดำเนินการจัดซื้อ ก่อสร้างตามแผนงานให้เป็นไปตามแผนการลงทุนที่กำหนดไว้ เพื่อให้สามารถผูกพันสัญญาและเบิกจ่ายเงินได้ทันภายในปี 2558 และเพื่อให้มีการเบิกจ่ายงบลงทุนได้ตามกรอบการเบิกจ่ายที่รัฐบาลกำหนด ซึ่งคาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศตามนโยบายของรัฐบาล และเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการของ กทท. เนื่องจากเป็นการลงทุนโครงการพัฒนาต่างๆ ทั้งการพัฒนาในโครงสร้างพื้นฐานและการให้บริการ"

ที่มา -



"ขนส่งทางเรือ" โตรับ ศก.ฟื้น กทท.โชว์ออเดอร์เพิ่ม 6.31%

เรือตรี ทรงธรรม จันทประสิทธิ์ ผู้อำนวยการท่าเรือกรุงเทพ และรักษาการผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เปิดเผยว่า ผลดำเนินงานให้บริการเรือสินค้าและตู้สินค้าผ่านท่าเรือกรุงเทพ ท่าเรือแหลมฉบัง ท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน ท่าเรือเชียงของ และท่าเรือระนอง ในเดือนตุลาคม 2556-กันยายน 2557 มีตู้สินค้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น ทั้งที่ท่าเรือกรุงเทพและท่าเรือแหลมฉบัง ส่งผลให้มีปริมาณตู้สินค้าผ่านท่าในปีงบประมาณ 2557 ถึง 7.978 ล้านตู้ หรืออีทียู เพิ่มขึ้น 6.79% และมีสินค้าเพิ่มขึ้น 6.31%

"สาเหตุที่การใช้ท่าเรือเติบโตขึ้น ถือเป็นไปในทิศทางเดียวกับการเปลี่ยนแปลงของภาวะเศรษฐกิจของไทย โดยในช่วงแรกของปีมีการชะลอตัวจากเหตุการณ์ทางการเมืองที่ยืดเยื้อ แต่ในช่วงปลายปีการส่งออกและนำเข้าของประเทศเริ่มฟื้นตัว โดยเฉพาะในส่วนการค้ากับประเทศคู่ค้าหลัก อาทิ จีน ญี่ปุ่น อาเซียน และกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว ซึ่งมีการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจชัดเจน จนทำให้สินค้าและบริการของโลกขยายตัวดีขึ้น ส่งผลต่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของไทยมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นด้วย" เรือตรีทรงธรรมกล่าว

เรือตรีทรงธรรมกล่าวว่า สำหรับท่าเรือกรุงเทพมีเรือเทียบท่า 3,185 เที่ยว ลดลง 4.55% แต่มีสินค้าผ่านเพิ่มขึ้น 1.01% ส่วนท่าเรือแหลมฉบังมีเรือเทียบท่า 6,600 เที่ยว ลดลง 13.40% แต่มีสินค้าผ่านท่าเพิ่มขึ้น 7.99% ส่วนท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน มีเรือเทียบท่า 8,144 เที่ยว ลดลง 2.67% มีสินค้าผ่านท่าเพิ่มขึ้น 19.62% ท่าเรือเชียงของ มีเรือเทียบท่า 241 เที่ยว เพิ่มขึ้น 15.87% สินค้าผ่านท่าลดลง 27.44% และท่าเรือระนอง เรือเทียบท่า 356 เที่ยว เพิ่มขึ้น 26.24% สินค้าผ่านท่าเพิ่มขึ้น 80.94%

เรือตรีทรงธรรมกล่าวว่า จากการวิเคราะห์ภาวะเศรษฐกิจไทย ปี 2557 คาดว่าจีดีพีจะมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น 1.5% และในปี 2558 จีดีพีน่าจะขยายตัวได้ถึง 4% ซึ่งจะส่งผลให้มีปริมาณการใช้บริการเรือสินค้า และตู้สินค้าในท่าเรือ กทท. เพิ่มขึ้นไปด้วย โดยเฉพาะท่าเรือกรุงเทพและท่าเรือแหลมฉบังมีแนวโน้มการขยายตัวสอดรับกับภาวะเศรษฐกิจมากสุด และคาดว่าตู้สินค้าผ่านท่าเรือกรุงเทพจะมีถึง 1.579 ล้านตู้ ขยายตัว 4% และท่าเรือแหลมฉบังมี 6.911 ล้านตู้ ขยายตัว 7%

ที่มา -