พบเรือน้ำมันอินโดฯ ถูกปล้นกลางทะเลนราธิวาส รวบ 8 ลูกเรือ

[mrtnews]

ตำรวจน้ำพบเรือน้ำมันอินโดนีเซีย ที่ถูกปล้นกลางทะเลนราธิวาส เมื่อวันที่ 9 ต.ค. 57 แล้ว มีลูกเรือ 8 คน พร้อมมีด-ขวานเป็นอาวุธ ถูกคุมตัวดำเนินคดี...

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 28 พ.ย. 57 พ.ต.ต.พุทธินันท์ พุทธิรานนท์ สว.สถานีตำรวจน้ำ กองกำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจน้ำ ได้สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารกองทัพเรือภาคที่ 2 เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรตากใบ และเจ้าหน้าที่เจ้าท่าภูมิภาค 4 สาขานราธิวาส เข้าตรวจสอบเรือน้ำมันสัญชาติอินโดนีเซีย ชื่อ Srikandi 515 ที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดไว้ได้ ขณะทอดสมออยู่ในน่านน้ำนราธิวาส เมื่อช่วงดึกวันที่ 27 พ.ย. 57 ที่ผ่านมา ซึ่งเรือลำดังกล่าวเป็นเรือที่ถูกปล้นจากประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 9 ต.ค. 57 ที่ผ่านมา โดยประเทศอินโดนีเซียได้ประสานมายังประเทศไทย ให้ทำการค้นหาเรือลำดังกล่าว

จากการตรวจสอบบนเรือ มีลูกเรือชาวอินโดนีเซียทั้งหมด 8 คน มีมีด-ขวานเป็นอาวุธ และภายในเรือมีการบรรทุกน้ำมันปาล์มดิบใต้ท้องเรือ จำนวน 2,700,000 ลิตร

โดย พ.ต.ต.พุทธินันท์ สว.สถานีตำรวจน้ำนราธิวาส เปิดเผยว่า จากการสอบสวนในขั้นต้นทราบว่า เรือลำดังกล่าวได้เข้ามาในบริเวณน่านน้ำนราธิวาสและปัตตานี ประมาณ 6 วันที่ผ่านมา โดยมีการขายน้ำมันปาล์มดิบให้กับนายหน้าชาวอินโดนีเซียในพื้นที่ปัตตานีไปแล้ว จำนวน 300,000 ลิตร และได้ล่องเรือเข้ามาในเขตน่านน้ำนราธิวาส เพื่อรอการจำหน่ายน้ำมันที่เหลือให้หมด ก่อนที่จะนำเรือล่องออกจากพื้นที่

ส่วนลูกเรือทั้ง 8 คนนั้น เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยส่งไปให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนราธิวาสดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ร.บ.ศุลกากร พร้อมทั้งประสานไปยังสถานทูตอินโดนีเซียประจำประเทศไทย เพื่อติดต่อเจ้าของเรือต่อไป

ที่มา -



ตำรวจน้ำนราฯ จับเรือขนน้ำมันปาล์มดิบอินโดฯ รุกน่านน้ำไทย

นราธิวาส - ตำรวจน้ำนราฯ บุกจับเรืออินโดฯ แล่นรุกล้ำน่านน้ำไทย เบื้องต้นจากการตรวจสอบไม่พบเอกสารใดๆ พบเป็นเรือที่ถูกปล้นในประเทศอินโดฯ เมื่อเดือนที่แล้ว พร้อมรวบรวมลูกเรือได้ทั้งหมด 8 คน น้ำมันดิบใต้ท้องเรืออีกกว่า 2 ล้านลิตร รวมมูลค่ากว่า 60 ล้านบาท

วันนี้ (28 พ.ย. 57) เจ้าหน้าที่จากกองกำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจน้ำ สนธิกำลังร่วมกับกองทัพเรือภาคที่ 2 เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรตากใบ และเจ้าหน้าที่เจ้าท่านราธิวาส เข้าตรวจสอบเรือน้ำมันของอินโดนีเซีย Srikandi 515 ที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดได้ขณะแล่นผ่านน่านน้ำนราธิวาสเมื่อวานนี้ โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการควบคุมเรือมาทำการตรวจสอบอย่างละเอียด

โดยจากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบเอกสารทางราชการใดๆ และเรือลำดังกล่าวเป็นเรือที่ถูกปล้นในประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2557 ที่ผ่านมา และมีการประสานให้พื้นที่มีการค้นหา จากการตรวจสอบบนเรือมีลูกเรือชาวอินโดนีเซียทั้งหมด 8 คน มีมีด ขวาน เป็นอาวุธ และมีน้ำมันปาล์มดิบที่เก็บในถังน้ำมันใต้ท้องเรืออีก 2 ล้าน 7 แสนลิตร

ด้าน พ.ต.ต.พุทธินันท์ พุทธิรานนท์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจน้ำนราธิวาส กล่าวว่า จากการสอบสวนในขั้นต้นนี้ลูกเรือทั้ง 8 ได้แล่นมาบริเวณน่าน้ำนราธิวาส และปัตตานีประมาณ 6 วันก่อนหน้านี้ โดยมีการซื้อขายน้ำมันปาล์มดิบให้แก่นายหน้าชาวอินโดนีเซียในพื้นที่ปัตตานี ไปแล้ว 3 แสนลิตร และได้ล่องเรือตามน่านน้ำเรื่อยมาเพื่อรอการจำหน่ายน้ำมัน อีกทั้งเรือลำดังกล่าวน้ำมันใกล้หมดจึงไม่สามารถแล่นได้ไกล

ส่วนลูกเรือทั้ง 8 หลังจากนี้จะถูกควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายโดยส่งไปให้ตำตรวจภูธรเมืองนราธิวาส เป็นผู้ดำเนินคดี ขั้นต้นแจ้งข้อหาผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ร.บ.เดินเรือ สำหรับเรือน้ำมันได้ประสานสถานทูตอินโดนีเซีย ให้เข้ามาตรวจสอบเพื่อประสานเจ้าของเรือที่แจ้งหายในประเทศอินโดนีเซียต่อไป

ผู้กำกับการสถานีตำรวจน้ำนราธิวาส กล่าวด้วยว่า การยึดเรือบรรทุกน้ำมันโดยเป็นน้ำมันปาล์มดิบในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ยึดได้ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่แปลก แต่คาดว่าขยายผลได้ไม่ยาก เนื่องจากในพื้นที่ภาคใต้มีโรงกลั่นน้ำมันดิบไม่กี่แห่ง ส่วนมูลค่าน้ำมันดิบที่ยึดได้ครั้งนี้รวมแล้วกว่า 60 ล้านบาท

ที่มา -



จับ 8 โจรสลัดปล้นเรืออินโดฯรุกน่านน้ำไทย

นราธิวาส-เจ้าหน้าที่จับ8โจรสลัดปล้นเรืออินโดนีเซียบรรทุกน้ำมันปาล์มกว่า 2 ล้านลิตรรุกน่านน้ำไทย

เมื่อวันที่ 28 พ.ย. 57 กองบังคับการตำรวจน้ำร่วมกับกองทัพภาคเรือที่2 ด่านศุลกากรตากใบ และเจ้าท่านราธิวาส เข้าตรวจสอบเรือน้ำมันสัญชาติอินโดนีเซีย Srikandi 515 ซึ่งตรวจยึดได้ขณะแล่นผ่านน่านน้ำนราธิวาสเมื่อวันที่ 27 พ.ย.ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการควบคุมเรือมาทำการตรวจสอบอย่างละเอียด และพบว่า เรือลำดังกล่าวเป็นเรือที่ถูกปล้นในประเทศอินโดนีเซียเมื่อวันที่ 9 ต.ค.57 และมีการประสานให้พื้นที่มีการค้นหา จากการตรวจสอบบนเรือมีลูกเรือชาวอินโดนีเซียทั้งหมด 8 คน มีมีด ขวาน เป็นอาวุธ และมีน้ำมันปาล์มดิบที่เก็บในถังน้ำมันใต้ท้องเรืออีก 2.7 ล้านลิตร

พ.ต.ต.พุทธินันท์  พุทธิรานนท์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจน้ำนราธิวาส กล่าวว่า จากการสอบสวนในขั้นต้น ลูกเรือทั้ง 8 ได้แล่นมาบริเวณน่าน้ำนราธิวาสและปัตตานีประมาณ 6 วันก่อนหน้านี้ มีการซื้อขายน้ำมันปาล์มดิบให้กับนายหน้าชาวอินโดนีเซียในพื้นที่ปัตตานีไปแล้ว 3 แสนลิตร และได้ล่องเรือตามน่านน้ำเรื่อยมาเพื่อรอการจำหน่ายน้ำมัน อีกทั้งเรือลำดังกล่าวน้ำมันใกล้หมดจึงไม่สามารถแล่นได้ไกล ส่วนลูกเรือทั้ง 8 หลังจากนี้จะถูกควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายโดยส่งไปให้ตำตรวจภูธรเมืองนราธิวาสเป็นผู้ดำเนินคดี ขั้นต้นแจ้งข้อหาผิดตาม พรบ.คนเข้าเมือง , พรบ.ศุลกากร , พรบ.เดินเรือ สำหรับเรือน้ำมันได้ประสานสถานทูตอินโดนีเซียให้เข้ามาตรวจสอบเพื่อประสานเจ้าของเรือที่แจ้งหายในประเทศอินโดนีเซียต่อไป

พ.ต.ต.พุทธินันท์ กล่าวอีกว่า การยึดเรือบรรทุกน้ำมันโดยเป็นน้ำมันปาล์มดิบในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ยึดได้ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่แปลก แต่คาดว่าขยายผลได้ไม่ยากเนื่องจากในพื้นที่ภาคใต้มีโรงกลั่นน้ำมันดิบไม่กี่แห่ง ส่วนมูลค่าน้ำมันดิบที่ยึดได้ครั้งนี้รวมแล้วกว่า 60 ล้านบาท

ที่มา -



จนท. กงสุลอินโดฯ ร่วมสอบปากคำ 8 ลูกเรือน้ำมันปาล์มเถื่อน – คาดมีคนไทยร่วมด้วย

นราธิวาส - เจ้าหน้าที่กงศุลประเทศอินโดนีเซีย ประจำประเทศไทยเข้าร่วมสอบสวนผู้ต้องหาชาวอินโดนีเซีย ที่ตำรวจน้ำนราธิวาสควบคุมตัวไว้ได้บนเรือขนน้ำมันปาล์มเถื่อน พบมีทั้งโจรปล้นเรือ และลูกเรือที่ถูกหลอกให้มาทำงาน เชื่อมีคนไทยร่วมขบวนการด้วย

นี้ (28 พ.ย. 57) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำนราธิวาส นำผู้ต้องหาชาวอินโดนีเซียจำนวน 8 ราย มาทำการสอบสวนและบันทึกประวัติ หลังจากควบคุมตัวได้จากเรือขนน้ำมันปาล์มดิบของอินโดนีเซียที่ลอยลำอยู่บริเวณน่านน้ำนราธิวาสเมื่อวานนี้ (27 พ.ย. 57)

ล่าสุดเจ้าหน้าที่กงสุลอินโดนีเซีย ประจำจังหวัดสงขลา ได้เดินทางมาสอบสวนผู้ต้องหาร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำนราธิวาส พร้อมขอรายละเอียดในการเข้าจับกุมในครั้งนี้ เพื่อเตรียมประสานเจ้าของเรือที่มีการแจ้งหายในประเทศอินโดนีเซียต่อไป

ด้าน พ.ต.ท.พุทธินันท์ พุทธิรานนท์ สารวัตรสถานีตำรวจน้ำนราธิวาส กล่าวว่า จากการสอบสวนขั้นต้นทั้ง 8 คนเป็นชาวอินโดนีเซีย ซึ่งมีส่วนหนึ่งที่เป็นกลุ่มโจรทำการปล้นเรือลำดังกล่าว และอีกส่วนถูกหลอกให้มาทำงานบนเรือโดยไม่รู้ว่าเรือลำดังกล่าวเป็นเรือที่ถูกปล้นและซื้อขายน้ำมันแบบผิดกฎหมาย โดยหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะยังคงสอบสวนเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อขยายผลไปยังขบวนการทั้งหมด ซึ่งคาดอาจจะมีคนไทยร่วมอยู่ด้วย

สารวัตรสถานีตำรวจน้ำนราธิวาส กล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่ได้ขยายผลจากเครื่องโทรศัพท์ที่ยึดเป็นของกลางได้ โดยมีหมายเลขโทรศัพท์ที่มีการติดต่อระหว่างกันในช่วงที่อยู่กลางทะเลซึ่งคาดอาจจะเป็นกลุ่มนายหน้าที่ทำการซื้อขายน้ำมันปาล์มดิบแบบผิดกฎหมาย ซึ่งล่าสุดได้ประสานให้กองกำกับการ 6 กองปราบปราม ดำเนินการตรวจสอบเพื่อขยายผลต่อไป

[youtube=640,390]http://www.youtube.com/watch?v=wJvzn3lUlqQ[/youtube]

ที่มา -