ผู้ส่งออกสินค้าทางเรือร้องถูกบริษัทเรือเอาเปรียบโขกค่าน้ำมัน

[mrtnews]

สรท. เผย ผู้ส่งออกไทย ถูกบริษัทเรือเอารัด โขกค่าน้ำมัน กระทบต้นทุนการแข่งขัน วอน กระทรวงพาณิชย์ช่วยดูแล

นายไพบูลย์ พลสุวรรณา ที่ปรึกษาสภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สภาผู้ส่งออก) กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ส่งออกไทยถูกบริษัทเรือเอารัดเอาเปรียบ ในการเรียกเก็บค่าน้ำมันที่ปรับเปลี่ยนขึ้นลงตามราคาน้ำมันที่ผันผวน หรือ ค่าบังเกอร์เซอร์ชาร์จทำให้ต้นทุนส่งออกสินค้าเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ สถานการณ์ราคาน้ำมันจริงได้ปรับลงตั้งแต่เดือน ส.ค. แล้ว แต่บริษัทเรือยังคงเรียกเก็บอัตราคงที่ที่ 130 ดอลลาร์สหรัฐต่อตู้คอนเทนเนอร์ ขนาดยาว 20 ฟุต และเพิ่มเป็น 360 ดอลลาร์ สำหรับตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 40 ฟุต ดั้งนั้น สภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือฯ ต้องการให้กระทรวงพาณิชย์ ช่วยดูแลให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ส่งออกไทยด้วย เพราะต้นทุนที่เพิ่มขึ้นส่งผลกระทบขีดความสามารถในการแข่งขัน

นอกจากนี้ ยังเตรียมเก็บค่าแออัดหน้าท่าเรือ ซึ่งเคยเรียกเก็บที่ฮ่องกง เดือนที่ผ่านมา แต่ถูกคัดค้านจึงยกเลิกไป และในขณะนี้กำลังพยายามเรียกเก็บที่มาเก๊า และเมืองลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา ด้วย

ที่มา -



สัญญาณบวกส่งออกเริ่มฟื้น คาดกนง.ขึ้นดอกเบี้ยปลาย Q1

สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือฯ มองตลาดส่งออกเริ่มฟื้น พร้อมวอนกระทรวงพาณิชย์ตรวจสอบบริษัทเรือเอาเปรียบผู้ส่งออก ด้านเอกชนประเมินปลายไตรมาส 1-2 มีลุ้นขึ้นดอกเบี้ยรับเศรษฐกิจโต

นายไพบูลย์ พลสุวรรณา ที่ปรึกษาสภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สภาผู้ส่งออก) เปิดเผยว่า  สถานการณ์การส่งออกไทยเดือน ต.ค.2557 ปรับตัวดีขึ้น 3.97% มูลค่า 20,164 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2556 ทำให้การส่งออกใน 10 เดือนแรก (ม.ค.-ต.ค.) ติดลบลดลง 0.36% มูลค่ากว่า 190,620 ล้านเหรียญสหรัฐ

ขณะเดียวกัน ผู้ส่งออกไทยถูกบริษัทเรือเอารัดเอาเปรียบ จากการเก็บค่าระวางพิเศษต่างๆ (บีเอเอส) ที่ปรับเปลี่ยนขึ้น-ลงตามราคาน้ำมัน แต่สถานการณ์ราคาน้ำมันจริงปรับลงตั้งแต่เดือน ส.ค.2557 แล้ว แต่บริษัทเรือยังคงเรียกเก็บอัตราคงที่ที่ 130 ดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้นสภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือฯ  ต้องการให้กระทรวงพาณิชย์ช่วยดูแลให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ส่งออกไทยด้วย

นายนพพร เทพสิทธา ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย คาดการณ์ว่าการส่งออกทั้งปี 2557 นี้ น่าจะติดลบ 0.2% หรือขยายตัวได้ 0.2% จากเดิมที่คาดการณ์ว่าจะติดลบ 0.4% ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับตลาดหลักทั้งสหภาพยุโรป อเมริกาและญี่ปุ่น ว่าจะขยายตัวได้มากน้อยเพียงใด ส่วนการส่งออกในปี 2558 คาดว่าจะขยายตัวได้ 2.5% 

ด้าน นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากแนวโน้มเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกที่กำลังฟื้นตัวได้ดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาคการส่งออก การบริโภค ภาคอสังหาริมทรัพย์ และการลงทุนของภาครัฐและเอกชน จึงมีโอกาสและความเป็นไปได้สูงที่  ธปท.จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงปลายไตรมาส 1 ถึงต้นไตรมาส 2 ปี 2558 เนื่องจาก ธปท.เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจตั้งแต่ช่วงปลายปีนี้ ซึ่งแนวโน้มดังกล่าวจะสอดคล้องกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะเริ่มเห็นในช่วงกลางปีหน้าด้วย.

ที่มา -