ข่าว:

รับสมัครเฉพาะชาวเรือและผู้ที่สนใจที่เป็นคนไทยเท่านั้น สมัครแล้วรออนุมัติประมาณ 2-3 วัน หากต้องการด่วนโปรดแจ้ง webmaster@marinerthai.net

Main Menu

เรือบรรทุกน้ำมันเขียว 2 แสนลิตรจมกลางทะเลประจวบ จนท.เร่งเข้าช่วย ลูกเรือปลอดภัย

เริ่มโดย mrtnews, ก.พ 17, 15, 06:46:55 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 3 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

ประจวบคีรีขันธ์ - ตำรวจน้ำบางสะพาน พร้อมหน่วยงานเกี่ยวข้องทั้งเรือหลวงนราธิวาส จนท.สำงานเจ้าท่า ปภ.ประจวบฯ ร่วมเข้าตรวจสอบหลังรับแจ้งจากชาวประมงพบเรือบรรทุกน้ำมันเขียว หรือแท็งค์เกอร์ ขนาดความจุน้ำมัน 2 แสนลิตร เกิดรั่วจมห่างชายฝั่งประจวบคีรีขันธ์ 15 ไมล์ทะเล ส่วนลูกเรือทั้งหมดปลอดภัย เบื้องต้นพบน้ำมันส่วนใหญ่ถูกจำหน่ายเหลือเล็กน้อย และไม่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศก์ทางทะเล


วันนี้ (15 ก.พ.58) พ.ต.ท.สุริยา ขุนโต สารวัตรตำรวจน้ำบางสะพาน อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ได้รับแจ้งจากชาวประมงในพื้นที่อ่าวน้อยว่า มีเหตุเรือบรรทุกน้ำมันล่มอยู่กลางทะเลในพื้นที่ ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงพร้อมด้วยเรือตรวจการณ์ ต.533 และกำลังตำรวจน้ำ เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดประจวบฯ เจ้าหน้าที่สำนักงานเจ้าท่าประจวบฯ และเรือหลวงนราธิวาส เดินทางไปตรวจสอบ

โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงถึงจุดที่ได้รับแจ้งพบเรือประมงและทุ่นที่แจ้งเตือนว่ามีเรือบรรทุกน้ำมันจมอยู่ จากการตรวจสอบพบว่าอยู่ห่างจากชายฝั่งทะเลของ ต.อ่าวน้อย ประมาณ 15 ไมล์ทะเลหรือประมาณ 30 กิโลเมตรระดับน้ำลึกประมาณ 25 เมตร เป็นเรือบรรทุกน้ำมันเขียว (ชื่อแฮลลี่) หรือที่เรียกว่า"แท๊งค์เกอร์" น้ำมันเขียวสำหรับช่วยเหลือชาวประมงเป็นน้ำมันราคาถูกที่มีการอนุญาตจำหน่ายถูกต้อง ซึ่งเรือบรรทุกน้ำมันเขียว มีความจุในการบรรทุกน้ำมันประมาณ 2 แสนลิตร

พ.ต.ท.สุริยา ขุนโต สารวัตรตำรวจน้ำบางสะพาน กล่าอีกว่า เบื้องต้นจากการสอบถามลูกเรือบนเรือแจ้งว่าสาเหตุที่เรือบรรทุกน้ำมันแฮลลี่สัญชาติไทยจมลงนั้น เนื่องจากบริเวณใต้ท้องเรือด้านหัวเรือ มีรอยรั่วแต่ลูกเรือบนเรือไม่ทันได้ระวังในจุดนั้นและมีคลื่นลมแรง จึงส่งผลให้เรือที่จอดทอดสมอให้บริการน้ำมันจมลง

เบื้องต้นหลายฝ่ายร่วมกันตรวจสอบไม่พบมีน้ำมันที่เหลืออยู่ประมาณ 200-300 ลิตรไหลออกมาแต่อย่างใด โดยลูกเรือบนเรือได้ปิดระบบวาว์ลป้องกันการรั่วของน้ำมันทั้งหมดได้ทัน ซึ่งน้ำมันส่วนใหญ่ที่บรรทุกมาได้ถูกจำหน่ายไปเกือบหมดแล้ว แต่มีบ้างที่มีคราบน้ำมันของเครื่องที่ออกมาเล็กน้อยซึ่งไม่ส่งผลกระทบแต่อย่างใด

ส่วนลูกเรือทั้งหมดปลอดภัยเนื่องจากมีเรือประมงที่มาขอดเติมน้ำมันจากเรือดังกล่าวให้ความช่วยเหลือ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ระหว่างให้เจ้าของเรือลำดังกล่าว ซึ่งทราบว่าเป็นของชาวบ้านแหลมและลูกเรือมาให้ข้อมูลรายละเอียดของสาเหตุที่เรือบรรทุกน้ำมันเขียว หรือแท็งค์เกอร์ ซึ่งจมในครั้งนี้ส่วนบริเวณดังกล่าวนั้นมีการทำสัญลักษณ์และทุ่นแสดงเอาไว้

ที่มา -




เรือบรรทุกน้ำมันดีเซลจมกลางทะเลอ่าวประจวบฯ

เรือบรรทุกน้ำมันดีเซลจมกลางทะเลอ่าวประจวบฯ แต่ยังไม่พบปัญหาน้ำมันรั่วไหล คาดเจอคลื่นลมแรง ประเมินใช้เวลากู้ 1 สัปดาห์

เมื่อวันที่ 15 ก.พ. เวลา 16.15 น. นายสุริยะโกพัฒน์ตา ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขา จ.ประจวบคีรีขันธ์ได้รับแจ้งจากชาวรประมงว่า เรือบรรทุกน้ำมันชื่อ Henry (เฮนรี) จมบริเวณอ่าวประจวบ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ห่างจากชายฝั่งทางทิศตะวันออก 16 ไมล์ทะเล

หลังรับแจ้งจึงประสานงานไปยัง พ.ต.ท.สุริยา ขุนโต สารวัตรตำรวจน้ำบางสะพาน กองกับกำการ 4 กองบังคับการตำรวจน้ำ พร้อมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยประจวบคีรีขันธ์ นำเรือตรวจการ 533 ของตำรวจน้ำไปตรวจสอบยังจุดที่ได้รับแจ้ง แต่เนื่องจากสภาพคลื่นลมทะเลแรง ความสูงของคลื่นประมาณ 2 เมตร ต้องใช้เวลาเดินทางไปยังจุดที่เรือจมกว่า 1 ชั่วโมง

ที่เกิดเหตุพบเรือบรรทุกน้ำมันดีเซล สำหรับจำหน่ายให้เรือประมง จมกลางทะเล โดยเรือมีขนาดกว้าง 6 เมตร ยาว 22 เมตร ขนาดระวางเรือ 78.73 ตันกรอส

จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า เรือบรรทุกน้ำมันดีเซลลำดังกล่าว เป็นเรือเหล็ก จอดอยู่ห่างจากฝั่ง 18 ไมล์ทะเล ประสบเหตุจากคลื่นลมทะเลจนเรือจมลงสู่ใต้ทะเลที่ระดับความลึก 33 เมตร ตั้งแต่เมื่อเวลา 17.00 น.ของวันที่ 14 ก.พ. ที่ผ่านมาโดยลูกเรือพร้อมช่างเครื่องรวม 7 ราย ปลอดภัยดีได้รับการช่วยเหลือจากเรือบรรทุกน้ำมันที่จอดลอยลำอยู่ใกล้เคียง


นายทินพลทองเจือเจ้าพนักงานขนส่งชำนาญงานสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ผิวน้ำทะเลมีเพียงคราบน้ำมันดีเซลที่ไหลออกมาจากห้องเครื่องเรือลอยอยู่เพียงเล็กน้อย เป็นฟิล์มบางๆเท่านั้น ซึ่งไม่เป็นอันตรายเนื่องจากไม่ใช่น้ำมันดิบ ส่วนน้ำมันดีเซลที่บรรจุอยู่ภายในเรือนั้น ยังไม่ทราบจำนวนน้ำมันคงเหลือที่แน่ชัด แต่เรือลำดังกล่าวสามารถบรรจุน้ำมันดีเซลได้ราว 3-4 แสนลิตร แต่ขณะนี้ระบบวาล์วควบคุมน้ำมันยังทำงานได้ดีไม่มีปัญหาการรั่วไหลออกมา ซึ่งหลังจากนี้คงเป็นหน้าที่ของเจ้าของเรือที่จะดำเนินการกู้เรือขึ้นมา ส่วนจะใช้วิธีการใดนั้นคงต้องพิจารณาอีกครั้งและคาดว่าจะใช้เวลาในการกู้เรือไม่น้อยกว่า 1 สัปดาห์

ด้าน จ่าสิบตำรวจศรัณย์พูลสมุทร ตำรวจน้ำผู้ควบคุมเรือตรวจการณ์533ระบุว่า ในพิกัดที่พบว่ามีเรือบรรทุกน้ำมันเขียวจมทะเลนี้ น้ำลึก 33 เมตร ซึ่งเป็นพิกัดที่มีการอนุญาตให้เรือบรรทุกน้ำมันดีเซลจอดลอยลำเพื่อขายน้ำมันให้กับเรือประมงได้ เบื้องต้นคาดว่าสาเหตุที่ทำให้เรือบรรทุกน้ำมันจมทะเลในครั้งนี้ น่าจะเกิดจากสภาพคลื่นลมทะเลมีกำลังแรง จนเกิดน้ำท่วมลำเรือและจมในที่สุด แต่ทั้งนี้หลังจากการกู้เรือสำเร็จคงจะต้องตรวจสอบหาสาเหตุของอุบัติเหตุที่แท้จริงต่อไป

ที่มา -




เรือบรรทุกน้ำมันดีเซล จมกลางทะเลอ่าวไทย

วันที่ 15 ก.พ.58 พ.ต.ท.สุริยา ขุนโต สารวัตรตำรวจน้ำบางสะพาน อ.บางสะพาน จ.ประจวบฯ ได้รับแจ้งจากชาวประมงในพื้นที่อ่าวน้อย ว่ามีเหตุเรือบรรทุกน้ำมันล่มอยู่กลางทะเล ในพื้นที่ ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เรือตรวจการณ์ ต.533 พร้อมกำลังตำรวจน้ำ เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดประจวบฯ เจ้าหน้าที่สำนักงานเจ้าท่าประจวบฯ เดินทางไปตรวจสอบโดยใช้เวลาประมาณ 1 ชม. กว่า ถึงจุดที่ได้รับแจ้งพบเรือประมงที่ผูกทุ่นแจ้งเตือนว่ามีเรือบรรทุกน้ำมันจมอยู่บริเวณนั้น ซึ่งตรวจสอบห่างจากชายฝั่งทะเลของตำบลอ่าวน้อย ประมาณ 18 ไมล์ทะเลระดับน้ำลึกประมาณ 33 เมตร เป็นเรือบรรทุกน้ำมันเขียว (ชื่อแฮลลี่) หรือ ที่เรียกว่า "แท๊งค์เกอร์" น้ำมัน สำหรับช่วยเหลือชาวประมงเป็นน้ำมันราคาถูก ที่มีการอนุญาตจำหน่ายถูกต้อง ซึ่งเรือบรรทุกน้ำมันเขียว มีความจุในการบรรทุกน้ำมันประมาณ 200,000 ลิตร

พ.ต.ท.สุริยา ขุนโต สารวัตรตำรวจน้ำบางสะพาน กล่าวอีกว่าเบื้องต้นจากการสอบถามลูกเรือบนเรือแจ้งว่าสาเหตุที่เรือบรรทุกน้ำมันแฮลลี่สัญชาติไทย ของชาวบ้านแหลม จ.เพชรบุรี จมลงนั้น เนื่องจากบริเวณใต้ท้องเรือด้านหัวเรือ มีรอยรั่วแต่ลูกเรือบนเรือไม่ทันได้ระวังในจุดนั้นและมีคลื่นลมแรง จึงส่งผลให้เรือที่จอดทอดสมอให้บริการน้ำมันจมลง เบื้องต้นหลายฝ่ายร่วมกันตรวจสอบไม่พบมีน้ำมันที่เหลืออยู่ประมาณ 200-300 ลิตร ไหลออกมาแต่อย่างใด โดยลูกเรือบนเรือได้ปิดระบบวาล์วป้องกันการรั่วของน้ำมันทั้งหมดได้ทัน ซึ่งน้ำมันส่วนใหญ่ที่บรรทุกมาได้ถูกจำหน่ายไปเกือบหมดแล้ว แต่มีบ้างที่มีคราบน้ำมันของเครื่องที่ออกมาเล็กน้อยซึ่งไม่ส่งผลกระทบแต่อย่างใด

ส่วนกัปตันและลูกเรือทั้งหมด 7 คน ปลอดภัยเนื่องจากมีเรือประมงที่มาจอดเติมน้ำมันจากเรือดังกล่าว ให้ความช่วยเหลือ อย่างไรก็ตามขณะนี้อยู่ระหว่างให้เจ้าของเรือลำดังกล่าวซึ่งทราบว่าเป็นของชาวบ้านแหลม และลูกเรือมาให้ข้อมูลรายละเอียดของสาเหตุที่เรือบรรทุกน้ำมันเขียว หรือ แท็งค์เกอร์ ซึ่งจมในครั้งนี้ส่วนบริเวณดังกล่าวนั้นมีการทำสัญลักษณ์และทุ่นแสดงเอาไว้

ที่มา -


..-