ข่าว:

คุณ ต้องลงทะเบียนสมัครสมาชิกก่อน ตอบกระทู้หรือตั้งคำถามใหม่ นะครับ

Main Menu

จ่อลุย 4 จี–พลังงานทดแทน "เฉลิมชัย" พลิกโฉม ทีทีเอ สู่โฮลดิ้งคอมปะนี

เริ่มโดย mrtnews, เม.ย 08, 15, 06:42:48 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

นับตั้งแต่ปลายปี 2544 ที่ตระกูล "มหากิจศิริ" ได้รุกคืบเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และยึดอำนาจการบริหารในบริษัทโทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือทีทีเอ ผู้ประกอบธุรกิจขนส่งทางเรือ ซึ่งขณะนั้นวัฏจักรของธุรกิจขนส่งทางเรือทั่วโลก กำลังตกต่ำสุดๆโดยส่ง "เฉลิมชัย มหากิจศิริ" เข้ามาทำหน้าที่เป็นหัวเรือใหญ่ในการขับเคลื่อนและพลิกฟื้นธุรกิจ!!


กว่า 3 ปีผ่านมาจนกระทั่งวันนี้ โฉมหน้าของทีทีเอเปลี่ยนไปอย่างมาก พลิกจากบริษัทขนส่งทางเรือก้าวสู่การเป็นบริษัทเพื่อการลงทุน หรือโฮลดิ้ง คอมปะนีอย่างเต็มตัว และพลิกจากบริษัทที่มีผลการดำเนินงานขาดทุน มาโชว์กำไรสูงสุดในรอบ 5 ปีได้ในปี 2557 ที่ผ่านมา

"เฉลิมชัย มหากิจศิริ" กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหารทีทีเอ เปิดเผยกับ "ทีมเศรษฐกิจ" ว่าวันนี้ทีทีเอมีความแข็งแกร่งมาก ทั้งด้านเงินทุนและโครงสร้างธุรกิจ รวมทั้งยังกำลังมองหาการเติบโตที่จะสร้างผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นอย่างไม่สิ้นสุด
ขณะนี้บริษัทมีเงินทุนที่พร้อมจะขยายธุรกิจโดยมีเป้าหมายเข้าซื้อกิจการ หรือเทคโอเวอร์ธุรกิจที่สามารถรับรู้รายได้หรือกำไรจากการลงทุนได้ทันที เป็นธุรกิจมีสถานะที่มั่นคงในอุตสาหกรรม มีทีมผู้บริหารที่ดี แต่หากต้องเริ่มต้นธุรกิจใหม่ก็ต้องเป็นธุรกิจที่มีอนาคตหรือโอกาสในการเติบโตสูง

โดยกำลังสนใจลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทน โดยจะเป็นการเข้าไปซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนที่เริ่มดำเนินการหรือมีการผลิตอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังสนใจลงทุนในธุรกิจสื่อสาร ในการประมูลคลื่น 4 จี ที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กำลังจะเปิดประมูล เพราะเห็นว่าในสังคมปัจจุบันการติดต่อหรือการติดตามข้อมูลข่าวสารถือเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันของคนสมัยใหม่ทั่วโลกการเป็นเจ้าของคลื่นเพื่อให้บริการเครือข่ายอินเตอร์เน็ต จึงน่าจะเป็นโอกาสของธุรกิจ โดยอาจจับมือกับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญเข้าไปร่วมประมูล ส่วนเรื่องเงินทุนไม่มีปัญหา เพราะบริษัทมีเงินทุนเพื่อรองรับการลงทุนอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญต้องดูเรื่องราคาในการประมูลด้วย ต้องมีความเหมาะสมเพื่อความเป็นไปได้ของธุรกิจ ต้องไม่สูงเกินไป ซึ่งขณะนี้กำลังรอศึกษาหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการประมูลที่จะออกมา

"ทุกวันนี้ สิ่งจำเป็นที่แทบทุกคนต้องการคือเครือข่ายอินเตอร์เน็ตไวไฟ เพื่อให้สามารถติดต่อสื่อสาร ดูทีวี โทรศัพท์ หรือติดตามข่าวสารต่างๆผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่ 6 ของชีวิตคนในยุคปัจจุบันและอนาคตแล้ว ดังนั้น จึงสนใจศึกษาเข้าร่วมประมูลคลื่น 4 จี มองว่าเป็นโอกาสของธุรกิจและการลงทุน"

"เฉลิมชัย" ยังฉายภาพธุรกิจของทีทีเอในภาพรวมว่า หลังตระกูลมหากิจศิริเข้ามาถือหุ้นใหญ่ทีทีเอกว่า 40% ได้ปรับโครงสร้างธุรกิจและเพิ่มทุนเข้าไปในธุรกิจเดิมที่มีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงตัดจำหน่ายสินทรัพย์หลายรายการ เพื่อให้สะท้อนภาพรวมที่แท้จริงของมูลค่าบริษัทโดยธุรกิจของทีทีเอประกอบด้วย 3 กลุ่มหลักคือ 1.ธุรกิจขนส่ง บริษัท โทรีเซน ชิปปิ้ง สิงคโปร์ พีทีอี แอลทีดี ผู้บริการเรือบรรทุกสินค้าแห้งเทกอง ได้เข้าไปปรับกองเรือให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ปลดระวางเรือเก่าและซื้อกองเรือเข้ามาเพิ่มเพื่อรองรับการฟื้นตัวกลับมาของธุรกิจขนส่งเรือเทกอง

2.ธุรกิจพลังงาน บริษัทเมอร์เมด มาริไทม์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริการวิศวกรรมใต้ทะเล และบริการเรือขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่งซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่ในตลาดหุ้นสิงคโปร์ และ 3.ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน บริษัทบาคองโค จํากัด ผู้ผลิตและจำหน่ายปุ๋ยและให้บริการคลังสินค้าในเวียดนาม ซึ่งถือหุ้น 100% โดยบริษัทลูกของทีทีเอคือ บริษัทพีเอ็ม โทรีเซน เอเชีย โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือพีเอ็มทีเอ ที่กำลังจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย และยังถือหุ้นในบริษัทยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส จำกัด (มหาชน) หรือยูเอ็มเอส ผู้จัด จำหน่ายถ่านหินและให้บริการโลจิสติกส์ ขนส่งถ่านหินแบบครบวงจรในไทยด้วย

และเมื่อไม่นานมานี้ ทีทีเอยังเข้าไปลงทุนถือหุ้นในบริษัทไซโน แกรนด์เนส ฟู้ด อินดัสตรี กรุ๊ป จำกัด (Sino Grandness) ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายน้ำผลไม้และผักบรรจุกระป๋องในจีน ที่ครองส่วนแบ่งตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มโลโคท (loquat juice) ได้กว่า 75% ทั้งหมดนี้ สอดคล้องกับนโยบายของทีทีเอ ในการแสวงหาโอกาสในการลงทุน เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น และยังเป็นการกระจายความเสี่ยงไม่พึ่งพิงธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งมากจนเกินไป.

ที่มา -




TTA-W5 เปิดเทรดวันแรก 2.04 บ.โบรกฯให้มูลค่า 2.44 บ.ขณะแม่ลบ 1.47%

สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 7 เมษายน 2558 - TTA-W5 เปิดเทรดวันแรก 2.04 บาท โดยราคาสูงสุดที่ 2.14 บาท ต่ำสุด 1.91 บาท มูลค่าการซื้อขาย 34.01 ล้านบาท


ขณะหุ้นแม่ TTA ลบ 1.47% อยู่ที่ 13.40 บาท ลดลง 0.20 บาท เมื่อเวลา 10.54 น.โดยเปิดที่ 13.60 บาท สูงสุด 13.70 บาท ต่ำสุด 13.30 บาท มูลค่าการซื้อขาย 33.40 ล้านบาท
บล.ทิสโก้ ประเมินมูลค่าที่เหมาะสมของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ บมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์(TTA-W5) เริ่มซื้อขายวันนี้ คาดว่าจะมี All-in Premium ที่ +53.9% เนื่องมาจากเป็น Warrant ที่ Out of the money มากถึง 36% และมีอายุที่ยาวถึง 4 ปี แต่ในด้านของการลงทุนมองว่า TTA-W5 เป็นหลักทรัพย์ที่เหมาะกับการเก็งกำไร เพราะว่ามี Gearing ที่มากถึง 5 เท่า อีกทั้ง TTA เพิ่งมีการขายบริษัทลูกไปและไม่น่ามีการขายสินทรัพย์เกิดขึ้นอีกเร็วๆ นี้ แต่ในด้านปัจจัยพื้นฐานมองว่า BDI ที่ต่ำกว่า 600 USD จะกดดันการดำเนินงานของ TTA

ประเมินมูลค่าที่เหมาะสมด้วยวิธี BSM อ้างอิงราคาปิดหุ้นแม่ที่ 13.60 บาท (ราคาเปิดเช้านี้) จะได้มูลค่าที่เหมาะสมของ TTA-W5 ที่ 2.44 บาท และหากอ้างอิงมูลค่าที่เหมาะสมของ Consensus ที่ 17 บาท จะได้มูลค่าที่เหมาะสมของ TTA-W5 ที่ 4.24 บาท

ธุรกิจการลงทุนโดยการถือหุ้นโดยลงทุนใน 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ 1 ธุรกิจขนส่งประกอบด้วยธุรกิจเรือบรรทุกสินค้าแห้งเทกอง ธุรกิจเรือบรรทุกน้ำมัน และธุรกิจงานบริการที่เกี่ยวข้องกับการเดินเรือ เช่น ธุรกิจตัวแทนเรือ และธุรกิจนายหน้าเช่าเหมาเรือ 2 ธุรกิจพลังงานให้บริการนอกชายฝั่งแก่อุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของงานวิศวกรรมโยธาใต้น้ำ และงานขุดเจาะ และ 3 ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานมีธุรกิจสำคัญสองธุรกิจ คือบมจ.ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส (UMS) และ บริษัทบาคองโค จำกัด (บาคองโค) ซึ่งอยู่ระหว่างการถูกนำเข้าตลาดผ่านบริษัทลูก PMTA

ที่มา -