TTA ดึงมือดีตั้งผู้บริหาร กุมบังเหียนกลุ่มเดินเรือและขนส่ง

[mrtnews]

กรุงเทพฯ -- 18 พ.ค. 58 - TTA ประกาศแต่งตั้ง "จิเทนเดอร์ พอล เวอร์มา" นั่งตำแหน่งกรุ๊ป ซีเอฟโอ พร้อมดัน "ซิกมันด์ สตรอม" ขึ้นแท่นผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจเดินเรือและขนส่ง เผยผลงานและประสบการณ์ของทั้งสองคนโดดเด่นเป็นที่ประจักษ์ "เฉลิมชัย" ย้ำชัดเป็นการยืนยันให้เห็นว่า จะยังคงเดินหน้านำ TTA เติบโตต่อเนื่องและมั่นคง มุ่งเป็นบริษัทชั้นนำในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อพร้อมเข้าสู่กลุ่ม SET 50 ในไม่ช้า ชี้การดึงมืออาชีพที่คร่ำหวอดในแวดวงการเงินในต่างประเทศเข้าร่วมงาน ช่วยตอกย้ำเป้าหมายสร้างธุรกิจให้เป็นที่ยอมรับในระดับโลก และรองรับการขยายเครือข่ายธุรกิจในต่างประเทศของ TTA

นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ทำการแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงใน 2 ตำแหน่งสำคัญ คือ นายจิเทนเดอร์ พอล เวอร์มา ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส และประธานเจ้าหน้าที่การเงิน (Group CFO) และร่วมเป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริหารของบริษัทฯ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคม 2558 และนายซิกมันด์ สตรอม ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจเดินเรือและขนส่ง

นายจิเทนเดอร์ พอล เวอร์มา มีประสบการณ์บริหารในธุรกิจระหว่างประเทศ มากว่า 25 ปี เช่น ธุรกิจค้าปลีก อิเล็คทรอนิคส์ อุตสาหกรรมการผลิต อุตสาหกรรมเหล็ก และธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงและเป็นคณะกรรมการบริหาร ซึ่งรับผิดชอบดูแลสายงานด้านการเงินและสายปฎิบัติการในบริษัทขนาดใหญ่ที่มีสำนักงานในประเทศต่างๆ อาทิ Jindal Stainless Limited, Dole Food Inc. และ Seagate Technologies ซึ่งเป็นหนึ่งใน 500 บริษัทข้ามชาติชั้นนำของประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นต้น ทั้งนี้ นายจิเทนเดอร์ เคยใช้ชีวิตและทำงานในต่างประเทศมาแล้วถึง 4 ประเทศ จึงมีประสบการณ์และมุมมองทางธุรกิจในระดับนานาชาติ

ด้านนายซิกมันด์ สตรอม มีประสบการณ์อันยาวนานกว่า 37 ปี ในธุรกิจเดินเรือและขนส่ง และร่วมงานกับกลุ่ม TTA มาเป็นเวลากว่า 12 ปีแล้ว ซึ่งที่ผ่านมา ได้สร้างผลการดำเนินงานที่ดีเป็นที่ประจักษ์ โดยเฉพาะการทำงานในตำแหน่งประธานบริษัท บาคองโค ผู้ผลิตและจำหน่ายปุ๋ยรายใหญ่ในประเทศเวียดนาม ซึ่งบริษัท พีเอ็ม โทรีเซน เอเชีย โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ได้เข้าไปลงทุนนั้น มีผลการดำเนินงานที่เติบโตต่อเนื่อง 2 หลักติดต่อกันถึง 6 ปี นอกจากนั้น เขายังมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการบริหารคลังสินค้า การเดินเรือ และขนส่งทางเรือ ในประเทศแถบอินโดจีน อีกด้วย

"การคัดสรรและแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาร่วมกับทีมบริหารเดิมของ TTA นั้น จะสะท้อนให้ผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนทั่วไปมั่นใจได้ว่า TTA ยังคงดำเนินธุรกิจในเชิงรุก เพื่อการเติบโตอย่างต่อเนื่องและมั่นคง และพยายามทำให้ TTA เป็นบริษัทชั้นนำในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่อยู่ในการคำนวณดัชนี SET 50 นอกจากนี้ เรายังคงมุ่งมั่นแสวงหาช่องทางการลงทุนใหม่ๆ ที่จะสร้างผลตอบแทนที่ดี มีความสม่ำเสมอของการรับรู้รายได้ เพื่อกระจายความเสี่ยงของธุรกิจใดธุรกิจหนึ่ง" นายเฉลิมชัย กล่าว

ที่มา -



TTA พอใจผลงานไตรมาสแรก-หลังเดินหน้าฝ่าวัฏจักรขาลง ดันตัวเลขรายได้รวม 4.5 พันล้าน ย้ำดีกว่าภาพรวมอุตสาหกรรม

ThaiPR.net -- จันทร์ที่ 18 พฤษภาคม 2558 - TTA ประกาศผลประกอบการไตรมาสแรก ปี 2558 รายได้ 4.5 พันล้านบาท ลดลง 7% ขณะที่มีผลขาดทุนสุทธิ 288 ล้านบาท ผู้บริหารย้ำพอใจผลงาน เหตุช่วง 3 เดือนแรกของทุกปีเป็นโลว์ซีซั่นของธุรกิจ โดยเฉพาะในปีนี้ ที่ธุรกิจในเครือของ TTA ต้องเผชิญกับวัฏจักรขาลงของสองธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ และธุรกิจขนส่ง แต่ด้วยการเตรียมพร้อมรับมือของฝ่ายบริหารและการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ ส่งผลให้ภาพรวมการดำเนินงานของบริษัทฯ ยังอยู่ในระดับที่ดีกว่าอุตสาหกรรม โดยเฉพาะ UMS ที่มีผลการดำเนินงานดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับ PMTA ที่ยังคงมีกำไร พร้อมรับรู้ส่วนแบ่งรายได้จากการลงทุนในไซโน แกรนด์เนส อีก 51 ล้านบาท

บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA เปิดเผยผลประกอบการของบริษัทฯ ในไตรมาสแรกปี 2558 (1 มกราคมถึง 31 มีนาคม 2558) ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวมทั้งสิ้น 4,575.8 ล้านบาท ลดลงจากระยะเวลาเดียวกันของปีก่อนคิดเป็นร้อยละ 7 โดยมีผลขาดทุนสุทธิ 288.3 ล้านบาท

นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TTA กล่าวว่า เป็นปกติที่ในช่วงไตรมาสแรกของปี จะเป็นช่วงโลว์ซีซันของ TTA เนื่องจากเป็นธรรมชาติของวงจรธุรกิจ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าในปีนี้ TTA จะมีรายได้รวมลดลงเล็กน้อย และมีผลขาดทุนเมื่อเทียบกับปีก่อน แต่หากเทียบกับภาพรวมอุตสาหกรรมแล้ว ต้องถือว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ยังอยู่ในระดับที่น่าพอใจ และอาจจะดีกว่าที่คาดไว้ เพราะนอกจากการปรับตัวลดลงตามวัฏจักรขาลงของธุรกิจแล้ว ในปี 2558 ยังมีปัจจัยพิเศษจากการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจจีน ส่งผลให้การนำเข้าลดลง ซึ่งกระทบกับธุรกิจขนส่งโดยตรง นอกจากนี้ ยังมีความแปรปรวนของสภาพอากาศ ซึ่งนับเป็นความท้าทายของฝ่ายบริหารในการบริหารจัดการธุรกิจในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้

"ผลขาดทุนส่วนใหญ่ที่ปรากฎในไตรมาสนี้ เกิดจากการนำเรือวิศวกรรมใต้น้ำ 3 ลำของเมอร์เมดเข้าซ่อมบำรุงตามแผน เพราะเป็นช่วงฤดูมรสุม ซึ่งถ้าหากตัดประเด็นนี้ออกไป ผลการดำเนินงานไตรมาสแรกของปีนี้ ไม่ได้ผิดจากความคาดหมาย เพราะเราประเมินได้ว่า ไตรมาสแรกของทุกปีไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดีนัก ดังนั้น ฝ่ายบริหารจึงได้เตรียมพร้อมรับมือ วางแผนและปรับกลยุทธ์ จนสามารถทำให้ผลงานของเราอยู่ในระดับดีกว่าอุตสาหกรรม ซึ่งแน่นอนว่า ช่วงที่เหลือของปีนี้ เรามั่นใจว่า แนวโน้มของธุรกิจยังคงเติบโตไปได้ดี ทั้งธุรกิจที่เราลงทุนอยู่แล้ว และธุรกิจใหม่ที่เป็นเป้าหมายในการเข้าไปลงทุน เพื่อกระจายความเสี่ยงและลดความผันผวนของธุรกิจหลัก" กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TTA กล่าว

ธุรกิจขนส่ง
ในส่วนของโทรีเซน ชิปปิ้ง ในไตรมาสแรก มีรายได้ 1,754.8 ล้านบาท ลดลง 5% เนื่องจากธุรกิจขนส่งสินค้าแห้งเทกอง ต้องเผชิญกับปัญหานโยบายลดการนำเข้าถ่านหินและสินแร่เหล็กของจีน อย่างไรก็ตาม จากการบริหารจัดการที่ดีทำให้ธุรกิจยังสามารถรักษาผลการดำเนินงานได้ดีกว่าตลาด

ธุรกิจพลังงาน
นอกจากนี้ ในธุรกิจของเมอร์เมด มาริไทม์ ก็อยู่ในช่วงโลว์ซีซั่นเช่นกัน เนื่องจากปัญหาสภาพอากาศ ซึ่งเป็นฤดูมรสุม จึงถือโอกาสนำเรือวิศกรรมใต้ทะเลขนาดใหญ่ 3 ลำเข้าซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ ส่งผลทำให้รายได้ในส่วนนี้หายไป และมีค่าใช้จ่ายในการเช่าเรือมาทดแทนเรือที่นำไปซ่อมบำรุงเพิ่มขึ้น โดยในไตรมาสแรก เมอร์เมดฯ มีรายได้ 1,984.2 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนคิดเป็น 5%

ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน

บริษัท ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส จำกัด (มหาชน) หรือ UMS

ในส่วนของ UMS ยังคงมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการที่ฝ่ายบริหารจัดการได้เข้าไปดูแลคลังสินค้าคงคลังส่วนเกิน และมีโครงการลดต้นทุนอื่นๆ โดยบริษัทฯ มีรายได้ 188.8 ล้านบาท มีผลขาดทุน 10.7 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลขาดทุนที่ลดลงจากไตรมาสแรกปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 39.6 และลดลงจากไตรมาส 4/57 ที่ขาดทุน 22.1 ล้านบาท โดยบริษัทฯ เริ่มกลับมานำเข้าถ่านหินและมีกิจกรรมทางการขายมากขึ้นในไตรมาสนี้

บริษัท พีเอ็ม โทรีเซน เอเชีย โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PMTA (บริษัทแม่ของบาคองโค)

ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2558 ของ PMTA มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 37.9 ล้านบาท แม้ว่าจะลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 55 ก็ยังถือว่าน่าพอใจ ที่บริษัทฯ ยังคงรักษากำไรไว้ได้ เนื่องจากโดยธรรมชาติของธุรกิจปุ๋ย ในไตรมาสแรกจะเป็นช่วงที่ผลกำไรอ่อนตัวมากที่สุดในรอบปี ซึ่งนอกจากเป็นไปตามวัฏจักรธุรกิจแล้ว ในปีนี้ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียนยังคงต้องเผชิญกับภาวะแล้ง จากความล่าช้าของฤดูฝนที่ทิ้งช่วงผิดปกติ ส่งผลให้ปริมาณความต้องการใช้ปุ๋ยชะลอตัวลง จึงกระทบยอดการส่งออกปุ๋ย อย่างไรก็ตาม ปริมาณขายในประเทศเวียดนามยังคงอยู่ในระดับสูง เนื่องจากการส่งเสริมการขายที่ได้ผล และแม้ราคาวัตถุดิบต่อตันจะเพิ่มขึ้น แต่รายได้จากการขายต่อตันเมื่อเทียบปีต่อปี ก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ทำให้ PMTA ยังคงรักษาอัตรากำไรขั้นต้น (gross margin) ไว้ได้ค่อนข้างคงที่ ที่ร้อยละ 26

นายเฉลิมชัย กล่าวด้วยว่า จากปัจจัยภาพรวมอุตสาหกรรมและวัฏจักรขาลงของธุรกิจ ส่งผลให้ผลการดำเนินงานของ TTA ในไตรมาสแรก มีผลขาดทุนสุทธิ 288.3 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้รับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในไซโน แกรนด์เนส ที่ 51 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่า หลังจากพ้นช่วงขาลงของอุตสาหกรรมในไตรมาสแรกไปแล้ว ธุรกิจของบริษัทฯ และบริษัทย่อย รวมทั้งบริษัทที่ TTA เข้าไปลงทุนจะสามารถกลับมาเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งต่อไป

ที่มา -