ข่าว:

ห้ามโพส ปั่นลิงก์ SEO ในส่วนของ ลายเซ็นสมาชิกเพื่อจะแสดงที่ด้านล่าง ของแต่ละข้อความที่ตอบกระทู้ เช่น คาสิโน บาคาร่า แทงบอล ฯลฯ เด็ดขาด หากพบจะแบนสมาชิกนั้นออกจากบอร์ดทันที

Main Menu

แตกไลน์สยายปีก "วิรัตน์ ผลประดับ" จากรถหรูสู่เรือยอชต์

เริ่มโดย mrtnews, มิ.ย 20, 13, 17:43:35 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

ถ้าเอ่ยชื่อ "วิรัตน์ ผลประดับ" ในแวดวงธุรกิจรถยนต์ โดยเฉพาะรถหรูนำเข้าจากต่างประเทศ ต่างรู้จักกันดี เพราะเป็นผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถหรูจากเกาหลียี่ห้อ ซันยอง ที่ได้รับการขนานนามในเรื่องสมรรถนะ เนื่องจากใช้เทคโนโลยีเดียวกับเมอร์เซเดส เบนซ์


นอกจากนี้ ยังเป็นผู้นำเข้ารถยนต์อิสระรายใหญ่ ในนาม บริษัท เอ.จี. คาร์ส จำกัด นำเข้ารถหรูและซุปเปอร์คาร์หลากหลายยี่ห้อ

ล่าสุด แตกไลน์สยายปีก ต่อยอดจากธุรกิจรถหรู เอาใจกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูงด้วยการทำธุรกิจเรือยอชต์เพิ่มเติม

ประเดิมด้วยการนำเข้า รุ่น แครนชี (CRANCHI) M44 HT เรือยอชต์ลำหรูเวอร์ชั่นปี 2013 ค่าตัวเมืองไทย 18-23 ล้านบาท จากสายพานการผลิตของ กลุ่ม CANTE RE NAUTICO CRANCHI. S.p.A. แห่งประเทศอิตาลี บัดนี้ลอยลำข้ามทวีปจากทะเลยุโรปสู่น่านน้ำไทยแล้ว จอดเด่นเป็นสง่าอยู่ที่ท่าเทียบเรือโอเชี่ยนมารีน่าพัทยา โดยการนำเข้าอย่างเป็นทางการและจัดจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวของบริษัท เอ.จี.คาร์ส แอนด์ มารีน จำกัด

แครนชี เป็นเรือยอชต์ระดับหรู ผลิตโดยแครนชี อิตาลี เอสพีเอ บริษัทผู้ผลิตเรือยอชต์รายใหญ่ ในอิตาลี มีประวัติการผลิตมายาวนานกว่าร้อยปี ถือกำเนิดในปี 1866 เป็นที่รู้จักดีในหมู่นักนิยมเล่นเรือ มีโรงงานผลิตเรือขนาดใหญ่ 4 แห่ง ในอิตาลี มีดีลเลอร์เน็ตเวิร์กทั่วโลก ทั้งอเมริกา แคนาดา ยุโรปและเอเชีย ผลิตเรือหรูจับกลุ่มลูกค้าหลากหลายไลน์ ไม่ว่าจะเป็นเรือสปอร์ต ครูสเซอร์ ฮาร์ดท็อป ฟรายบริด เอาต์บอร์ด และทราเวอเรอร์ ราคาจำหน่ายเริ่มต้นตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป จนถึงกว่า 100 ล้านบาทต่อลำ

M44 HT ลำนี้ถือเป็นยอชต์ขนาดกลาง บรรทุก 15 ที่นั่ง แบบฮาร์ดท็อป 2 ชั้น 2 ห้องนอนเคบิน และ 2 ห้องน้ำ หรูหราลัคชัวรี ด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นแอร์คอนดิชั่น ทั้งชั้นบนและชั้นล่าง ทีวี ตู้เย็น ตู้ทำน้ำแข็ง ห้องครัว ห้องรับแขก ระบบน้ำไฟ เพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์ไฮเทคโนโลยี ช่วยให้เจ้าของเรือสามารถเรียนรู้และควบคุมเรือได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นระบบการสื่อสารด้วย เรดาร์ ดาวเทียมและจีพีเอสใช้นำทาง ระบบขับเคลื่อนแบบออโตไพล็อต ครูสคอนโทรล ทำให้การควบคุมเรือสำราญเพื่อท่องเที่ยวด้วยตนเองกลายเป็นเรื่องง่ายๆ ต่างจากในอดีตอย่างสิ้นเชิง

M44 HT ขนาดความยาว 44 ฟุต กว้าง 4 เมตร โครงสร้างตัวเรือ ไฟเบอร์กลาสชั้นดีความหนาถึง 25 มิลลิเมตร ความทนทานการเสื่อมสภาพของวัสดุ ใช้ได้เกิน 50 ปี ขับเคลื่อนลอยลำตัดคลื่นด้วยเครื่องยนต์ดีเซล VOLVO PENTA ขนาด D6 EVC 400 แรงม้า X 2 เครื่องยนต์ 2 ใบพัด 800 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 40 น็อตต่อชั่วโมง วารันตีเครื่องยนต์แบบเวิลไวด์ 2 ปีเต็ม

"ขณะนี้เรือจริงได้เข้ามาสู่น่านน้ำไทยแล้ว 2 ลำ กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นเจ้าของธุรกิจ ที่มีไลฟ์สไตล์ และรสนิยมหรู การเปิดธุรกิจใหม่ของเอ.จี.คาร์ส จะเป็นธุรกิจเสริมความต้องการของลูกค้าที่นิยมชมชอบกีฬาทางน้ำ รักการผจญภัยใช้ชีวิตแบบหรูหรา ปีนี้บริษัทมีแพลนจะลงทุนโชว์รูมเรือและท่าเทียบเรือ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่ให้ความสนใจ สั่งนำเข้าเรือจากบริษัทด้วยเม็ดเงินลงทุนจำนวนมาก ขณะนี้มีลูกค้าหลายรายที่ทราบข่าวเป็นการภายในถึงการได้รับสิทธิการเป็นผู้แทนจำหน่าย แครนชี ต่างให้ความสนใจสอบถามเพื่อจะสั่งซื้อเรือเข้ามากันเป็นจำนวนมาก" นายวิรัตน์กล่าว


สำหรับ การดูแลเครื่องยนต์ ทำความสะอาดเรือ นายวิรัตน์บอกว่า ทางบริษัทมีกัปตัน โบ๊ตบอย และแม่บ้าน ดูแลตามมาตรฐานโรงแรมห้าดาว วีไอพีเมมเบอร์ของโอเชี่ยนมารีน่าพัทยา ในราคาพิเศษเพียง 1 หมื่นบาทเศษต่อเดือน ดำเนินการจดทะเบียนเรียบร้อย วารันตี 2 ปี เครื่องยนต์ เซอร์วิส ทุก 50 ชั่วโมงครั้งดูแล เช่น การถ่ายน้ำมันเครื่อง เรือจะไม่เหมือนรถ ไม่มีเบรก ไม่มีคลัชต์ จุดเด่นของแครนชีเมื่อเทียบเรืออื่นๆ เพราะเชื่อถือได้ ประกอบกับ อิตาเลียนโบ๊ต เป็นเรือที่หรูหรา ลัคชัวรี และดีไซน์รูปลักษณ์ได้ทันสมัย เมื่อเทียบกับเรืออื่นๆ แล้วแครนชีจัดอยู่ในระดับต้นๆ หรือท็อปไฟว์ในวงการผลิตและจำหน่ายเรือยอชต์ของโลกก็ว่าได้

"บางคนมองว่าซื้อเรือยอชต์แล้วไม่ได้ใช้ แต่รับรองซื้อแล้วได้ใช้แน่ คุณซื้อซุปเปอร์คาร์คันละ 20 ล้าน นั่งได้ 2 คน นี่ยอชต์ 20 ล้านเหมือนกัน นั่งได้ นอนได้ อยู่อาศัยลอยน้ำได้ อยู่อย่าง 5 ดาว ไปเที่ยวได้ตั้ง 15 คน เหมือนมีบ้านพักหรูลอยอยู่ในน้ำส่วนตัว ไปเที่ยวได้ทั้งครอบครัว ค่าใช้จ่ายดูแลก็ไม่สูง เอาเข้าจริงซุปเปอร์คาร์ยังใช้จ่ายสูงกว่าเซอร์วิสทีละเป็นแสนๆ บางคนซื้อซุปเปอร์คาร์ไปปีนึงวิ่ง 500 กิโลฯ ไม่ได้ใช้งานอะไรมาก กับเรือผมว่าใช้งานได้บ่อยกว่า ไม่รู้จะทำอะไรเบื่อๆ ก็ไปนอนเล่น ทำกิจกรรมทางน้ำ ตกปลา เล่นเจ็ตสกี กีฬาทางน้ำ ผมว่าตลาดเรือยอชต์บ้านเรายังมีโอกาสโตได้อีกมากครับ เลยตัดสินใจลงทุนในธุรกิจนี้" นายวิรัตน์กล่าวทิ้งท้าย

ที่มา -