ข่าว:

ห้ามโพส ปั่นลิงก์ SEO ในส่วนของ ลายเซ็นสมาชิกเพื่อจะแสดงที่ด้านล่าง ของแต่ละข้อความที่ตอบกระทู้ เช่น คาสิโน บาคาร่า แทงบอล ฯลฯ เด็ดขาด หากพบจะแบนสมาชิกนั้นออกจากบอร์ดทันที

Main Menu

พิธีปล่อยเรือวางสายเคเบิ้ลใต้ทะเลลำใหม่ชื่อ Maersk Connector ลงน้ำ

เริ่มโดย mrtnews, ก.ค 27, 15, 19:31:16 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

บริษัทอู่ต่อเรือ Damen ผู้สร้างเรือสนับสนุนงานใต้ทะเล (subsea support vessel) ชื่อ Maersk Connector ได้ทำพิธีปล่อยเรือลงน้ำเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม 2558 ที่ผ่านมา ที่อู่ต่อเรือ Damen Shipyards เมืองกาลาตี (Galati) ประเทศโรมาเนีย


เรือลำนี้มีเจ้าของและผู้จัดการเรือคือบริษัท Maersk Supply Service และถูกสร้างขึ้นสำหรับงานตามสัญญาข้อตกลงการเช่าเหมาลำเป็นระยะเวลาเจ็ดปีกับบริษัท DeepOcean

เรือ Maersk Connector เป็นเรือวางสายเคเบิ้ลใต้ทะเล (cable-laying vessels) รุ่นที่สองที่พัฒนาโดยกลุ่มบริษัทอู่เต่อเรือ Damen Shipyards Group มีชื่อเรียกเรือในชั้นนี้ว่า "Offshore Carrier 8500" ติดตั้งอุปกรณ์สำรวจพื้นดินใต้ท้องทะเลและเหวหุบลึกลงไปในมหาสมุทร เรือลำนี้เมื่อต่อเสร็จจะสามารถช่วยขยายขีดความสามารถในตลาดการวางสายเคเบิ้ลใต้ทะเลให้กับบริาท  DeepOcean โดยเฉพาะ ในโครงการที่เป็นงานเชื่อมต่อ ( interconnector project) จากงานภาคอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ และงานพลังงานหมุนเวียนอื่นๆ ในทะเล

เรือมีอุปกรณ์ลำเลียงสายเคเบิ้ล (carousel) ขนาด 7,000 ตัน ที่ทำให้เหมาะสำหรับงานติดตั้งสายเคเบิ้ลและฝังกลบระยะไกลตั้งแต่ริมฝั่ง (land-fall) ต่อไปยังเขตน้ำลึก (deep water) และยังเหมาะสำหรับการทำงานในสถานที่ทางภูมิศาสตร์ระยะไกล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทะเลเหนือ เป็นต้น


ด้วยการพัฒนาให้เป็นเรือที่มีแพลตฟอร์มยืดหยุ่นสำหรับการทำงานทั้งด้านการขนส่งและงานติดตั้งนอกชายฝั่ง  เรือชั้น DOC 8500 หรือ Damen Offshore Carrier 8500 มีความยาว 138 เมตรและกว้าง 27.5 เมตร  ขนาด 9,300 dwt เรือมีพื้นที่โล่งทำงานขนาด 2,200 ตารางเมตรของดาดฟ้าที่ไม่มีสิ่งกีดขวาง ที่มีขีดความสามารถในการโหลดได้ถึง 20 ตันต่อตารางเมตร และความสามารถแบบเรือบรรทุกสินค้า ro-ro เดินทางด้วยความเร็วสูงสุดที่ 12 นอต

หลังจากพิธีปล่อยเรือลงน้ำแล้ว เรือ Maersk Connector จะจอดเทียบท่าที่อู่ต่อเรือ Damen Shipyards Galati เพื่อทำการติดตั้งอุปกรณ์และโครงสร้างหลักบนดาดฟ้าต่อ เช่น ลานเฮลิคอปเตอร์ (Helideck), เครนยกของและสะพาน รวมถึงอุปกรณ์ตกแต่งภายในต่างๆ ส่วนการออกทดสอบทางทะเล (Sea trials) คาดว่าจะเริ่มได้ในช่วงปลายปีนี้

ที่มา - | แปลและเรียบเรียงข่าวโดย