สถาปนิกเบลเยียม วางแผนสร้างที่อยู่อาศัยในอนาคต "ตึกใต้น้ำ"

[mrtnews]

น่าแปลกไม่ใช่น้อยที่เมื่อมนุษย์พูดถึงที่อยู่อาศัยในอนาคต ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุเป็นเพราะเราเลือกที่จะขยายพื้นที่ที่อยู่อาศัยของเราเอง หรือจะเป็นด้วยสาเหตุของความจำเป็นเพราะเกิดหายนะประการหนึ่งประการใดขึ้นกับโลก เรามักคิดหรือจินตนาการถึงที่อยู่อาศัยในห้วงอวกาศ ไม่ว่าจะอยู่ในวงโคจรโดยรอบโลกหรือไปไกลกว่านั้น ด้วยการไปหา "โลกใหม่" ก็ตามที

แต่ แวงซองต์ คอลเลอโบท์ สถาปนิกชาวเบลเยียม กลับไม่คิดอย่างนั้น เขาเชื่อว่าที่อยู่อาศัยในอนาคตของมนุษย์ไม่จำเป็นต้องไปไกลถึงขนาดนั้น แต่เราสามารถใช้พื้นที่ใต้น้ำบนโลกเรานี่เองเพื่อสร้างโลกใหม่ให้กับมนุษยชาติได้ ถึงกับเขียนแบบของสิ่งที่เขาเรียกว่า "ตึกระฟ้าใต้น้ำ" ที่รวมกันขึ้นเป็น "หมู่บ้านใต้น้ำ" พร้อมระบบนิเวศสำหรับการใช้ชีวิตอยู่ภายในได้พร้อมสรรพอีกด้วย

หมู่บ้านเชิงนิเวศใต้น้ำของคอลเลอโบท์ หรือที่เขาเรียกว่า AEQUOREA "เอควอเรีย โปรเจ็กต์" จะประกอบด้วยอาคารใต้น้ำหลายหลัง แต่ละหลังสามารถรองรับผู้อยู่อาศัยได้สูงสุด 20,000 คน จะมีส่วนเชื่อมต่อระโยงระยางลงไปถึงพื้นทะเล ทำให้รูปลักษณ์ภายนอกคล้ายกับแมงกะพรุน อีกด้านหนึ่งจะเชื่อมต่อกับท่าเทียบเรือ สำหรับเป็นทางเข้า-ออกจากโลกใต้ทะเลกับโลกภายนอกที่ถูกปรับแต่งให้อยู่ในสภาพเป็นป่าชายเลน

นอกเหนือจากพื้นที่สำหรับอยู่อาศัยแล้ว เอควอเรียจะมีพื้นที่สำหรับใช้ประโยชน์อย่างอื่นครบครัน ไม่ว่าจะเป็นส่วนที่เป็นห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์, ส่วนสำนักงาน, โรงแรม, ส่วนที่เป็นพื้นที่สำหรับกีฬาและสันทนาการเรื่อยไปจนถึงพื้นที่ฟาร์มเกษตรกรรมจัดสรรกันอยู่ครบถ้วนในอาคารใต้น้ำรวม 250 ชั้น ที่จะลึกลงไปใต้น้ำถึงระดับ 1,000 เมตร

น้ำทะเลจะถูกนำมาผ่านกระบวนการให้เป็นน้ำจืดสำหรับอุปโภคบริโภคภายในตึกระฟ้าใต้น้ำ สาหร่ายจะถูกนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการบำบัดของเสียชีวภาพทั้งหลาย ในขณะที่แสงสว่าง จะได้มาจากแหล่งแสงสว่างทางชีวภาพหรือไบโอลูมิเนสเซนซ์เท่านั้น

คอลเลอโบท์คิดแผนสำหรับอาคารเอควอเรียของตัวเองไว้ถี่ถ้วน ถึงขนาดออกแบบให้อาคารใต้น้ำแต่ละหลังมีทั้งความสมมาตรและมีบาลานซ์สำหรับ ถ่วงน้ำหนักเพื่อใช้สร้างสมดุลให้กับตัวอาคารในยามที่ต้องเผชิญกับคลื่นลม แรงเพราะพายุ หรือวิบัติภัยที่ส่งผล กระทบอย่างเช่น แผ่นดินไหว เป็นต้น ในเวลาเดียวกันผนังของอาคารก็จะเพิ่มความหนามากขึ้นเรื่อยๆ ตามระดับความลึกที่เพิ่มขึ้น เพื่อรองรับแรงดันของน้ำที่ยิ่งลึกยิ่งมีพลังมหาศาลอีกด้วย

"เอควอเรีย โปรเจ็กต์" ยังคงเป็นแนวคิดที่หากต้องการให้กลายเป็นจริงขึ้นมา ยังต้องอาศัยการทำวิจัยและการพัฒนาอีกมากมายหลายขั้นตอนนัก อย่างไรก็ตาม แนวความคิดเรื่องการใช้ชีวิตใต้น้ำของมนุษย์ ยังถือได้ว่าใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากกว่าการใช้ชีวิตอยู่ในห้วงอวกาศ ด้วยซ้ำไป

ในปัจจุบันเรามีโลกใต้น้ำอยู่จริงๆ แล้วหลายแห่งทั่วโลก ตั้งแต่ภัตตาคารใต้น้ำที่มัลดีฟส์, วอเทอร์ ดิสค์ อันเดอร์วอเทอร์ โรงแรมใต้น้ำที่ดูไบ เรื่อยไปจนถึง มูเซโอ ซับอะควอติโก เด อาร์เต พิพิธภัณฑ์ใต้น้ำแห่งแรกของโลก บริเวณนอกชายฝั่งเมืองแคนคูน ประเทศเม็กซิโก

รวมทั้งพิพิธภัณฑ์ใต้น้ำล่าสุดมูลค่า 150 ล้านดอลลาร์ ในอ่าวอเล็กซานเดรีย ประเทศอียิปต์ ฝีมือฌาคส์ รุจเจอรี สถาปนิกฝรั่งเศสอีกด้วย



ที่มา Data & Images -

[youtube=640,390]http://www.youtube.com/watch?v=TE1M9gXdvSY[/youtube]

[youtube=640,390]http://www.youtube.com/watch?v=dm-eU32oN78[/youtube]

..-