ข่าว:

ห้ามโพสโฆษณา สินค้าที่ดูแล้วขัดต่อ ศีลธรรม ประเพณี หรือกฏหมายของไทย เด็ดขาด หากพบจะแบนสมาชิกนั้นออกจากบอร์ดทันที

Main Menu

กำไร โรงกลั่น-ปิโตรฯ หุ้นพลังงานพร้อมดีดตัว ไตรมาส 3

เริ่มโดย mrtnews, ก.ค 09, 13, 18:26:36 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

โดย...บล.เอเซีย พลัส

ฝ่ายวิจัยบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส คาดแนวโน้มกำไรกลุ่มโรงกลั่นและปิโตรเคมีในงวดไตรมาส 2 ของปีนี้จะปรับตัวลดลงทำระดับต่ำสุดรายไตรมาสของปี เพราะถูกธุรกิจโรงกลั่นกดดันกำไรตามค่าการกลั่นที่ปรับตัวลดลง ซึ่งหากอ้างอิงค่าการกลั่นตลาดสิงคโปร์ในปัจจุบันอยู่ในระดับ 8-9 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวจากช่วงต้นไตรมาสที่เฉลี่ยอยู่ราว 4 เหรียญสหรัฐ แต่ปรับตัวลดลงถึง 30% จากไตรมาสแรก ประกอบราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยเดือนสุดท้ายในงวดนี้ปรับตัวลดลงจากสิ้นงวดไตรมาสแรกอาจส่งผลให้ต้องเผชิญกับผลขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันราว 2-3 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งจะส่งผลลบต่อผู้ประกอบการทั้ง บริษัท ไทยออยล์ (TOP) บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) บริษัท ไออาร์พีซี (IRPC) และบริษัท บางจากปิโตรเลียม (BCP)


สำหรับธุรกิจปิโตรเคมีมีเพียงสายอะโรเมติกส์ที่คาดกำไรจะปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากงวดไตรมาสแรก ตาม Spread ผลิตภัณฑ์ Px ที่ปรับตัวลดลง ซึ่งสวนทางกับแนวโน้มกำไรจากธุรกิจปิโตรเคมีสายโอเลฟินส์ที่คาดว่าจะเห็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

TOP : คาดกำไรในงวดไตรมาส 2 จะปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากงวดไตรมาสแรก โดยเป็นผลมาจากธุรกิจโรงกลั่นเป็นหลัก และบริษัทยังมีแผนหยุดเดินเครื่องเพื่อซ่อมบำรุงหน่วยกลั่น CDU2 กำลังการผลิต 5 หมื่นบาร์เรลต่อวัน เป็นระยะเวลา 15 วัน ประกอบกับในส่วนของธุรกิจปิโตรเคมีสายอะโรเมติกส์ คาดจะเห็นกำไรปรับตัวลดลงจากงวดไตรมาสแรกเช่นกัน แต่น้อยกว่าการปรับตัวลดลงของกำไรจากธุรกิจโรงกลั่น เนื่องจากแนวโน้ม Spread (Px-ULG 95) ปรับตัวลดลง ขณะที่แนวโน้ม Spread (Bz-ULG 95) ยังทรงตัวได้ในระดับสูง ทำให้โดยรวมแล้วแนวโน้มกำไรของ TOP ในงวดไตรมาส 2 จะปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากงวดไตรมาสแรก

PTTGC : คาดแนวโน้มกำไรจากการดำเนินงานปกติในงวดไตรมาส 2 จะปรับตัวลดลงเช่นเดียวกับกลุ่ม ซึ่งเป็นผลจากธุรกิจโรงกลั่นเป็นหลัก ขณะที่คาดการปรับตัวเพิ่มขึ้นของ Spread ผลิตภัณฑ์สายโอเลฟินส์จะสามารถชดเชยได้กับการอ่อนตัวลงของ Spread ผลิตภัณฑ์สายอะโรเมติกส์ได้ นอกจากนี้ยังมีอีกปัจจัยสำคัญที่กดดันแนวโน้มกำไรของ PTTGC ให้ปรับตัวลดลงมากกว่ากลุ่มจากปริมาณการผลิตและจำหน่ายที่จะปรับตัวลดลงตามแผนการหยุดซ่อมบำรุง (Shutdown) ทั้งในส่วนของโรงกลั่นและโรงงานปิโตรเคมี

IRPC : คาดอาจถึงขั้นเผชิญกับการขาดทุนสุทธิ ตามแนวโน้มราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี ปิโตรเลียม รวมถึงค่าการกลั่นที่อ่อนตัวลง และต้องเผชิญกับขาดทุนจากสต๊อกน้ำมัน ในทางกลับกันในงวดไตรมาส 3 คาดธุรกิจโรงกลั่นจะกลับมาเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยหนุนกำไรส่วนของธุรกิจปิโตรเคมีนั้น แม้ราคาผลิตภัณฑ์จะเห็นการอ่อนตัวลง แต่หากพิจารณา Spread ผลิตภัณฑ์ทั้งค่าการกลั่นและราคาน้ำมัน โดยเฉลี่ยอาจพบว่ายังสามารถทรงตัวได้ เพราะราคาวัตถุดิบแนฟทามีการปรับตัวลดลงในอัตรามากกว่า

BCP : อาจต้องเผชิญกับการขาดทุนสต๊อกน้ำมันในระดับสูงได้ คาดกำไรจากการดำเนินงานปกติงวดไตรมาส 2 อาจเห็นการปรับตัวลดลง ตามทิศทางค่าการกลั่นและราคาน้ำมันดิบ ที่อาจทำให้บริษัทต้องเผชิญกับขาดทุนสต๊อกน้ำมันในระดับสูงได้

อย่างไรก็ตาม คาดว่ายังมีปัจจัยบวกที่ช่วยพยุงกำไรโดยรวมไว้ไม่ให้ปรับตัวลดลงมากนักจาก

1) อัตราการเดินเครื่องโรงกลั่นที่คาดจะสามารถยืนเหนือระดับ 1 แสนบาร์เรลต่อวันได้ 2) รับรู้กำไรจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เต็มที่ทั้ง 2 Phases เป็นไตรมาสแรก และ 3) คาดจะสามารถบันทึกรายการพิเศษเงินชดเชยจากการเคลมประกันในส่วนของ Property Damage ส่วนที่เหลืออีก 500 ล้านบาท รวมถึงเงินชดเชยจากค่าเสียโอกาสในการดำเนินธุรกิจ

ฝ่ายวิจัยคาดแนวโน้มกำไรจากการดำเนินงานปกติงวดไตรมาส 3 ของกลุ่มจะกลับมาเติบโตอีกครั้ง ตามทิศทางเศรษฐกิจที่จะทยอยฟื้นตัวในหลายๆ ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ ยังมีผลของฤดูกาลที่คาดว่าจะช่วยหนุนให้ความต้องการใช้ปรับตัวสูงขึ้น


ราคาหุ้นสะท้อนปัจจัยลบที่ผ่านพ้นไปแล้ว...เลือก TOP และ BCP เป็น Top Picks

ฝ่ายวิจัยให้น้ำหนักการลงทุนกลุ่ม "เท่าตลาด" โดยเชื่อว่าราคาหุ้นในกลุ่มที่ปรับตัวลดลงสะท้อนภาพลบของอุตสาหกรรมในช่วงที่ผ่านมาไปแล้ว จากนี้ไปคาดแนวโน้มภาพรวมอุตสาหกรรมน่าจะอยู่ในทิศทางสดใสมากขึ้น โดยระยะ 1-2 เดือนข้างหน้า ให้น้ำหนักการเติบโตของกลุ่มโรงกลั่นมากกว่ากลุ่มปิโตรเคมีตามผลของฤดูกาล รวมถึงคาดการเติบโตของกลุ่มปิโตรเคมีจะยังเป็นในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป ทำให้ในระยะสั้นเลือก TOP และ BCP เป็นหุ้น Top Picks ของกลุ่ม โดยมีมูลค่าพื้นฐานปี 2556 เท่ากับ 77.8 บาท และ 50 บาทต่อหุ้น ตามลำดับ พร้อมทั้งได้มีการปรับเพิ่มคำแนะนำการลงทุนของ|หุ้น PTTGC เป็น "ซื้อ" จากเดิม "ถือ" เนื่องจาก Upside ในปัจจุบันได้เปิดกว้างขึ้นกว่า 12% แต่ยังคงให้มูลค่าพื้นฐานปี 2556 เท่ากับ 78.1 บาทต่อหุ้น

ที่มา -