ข่าว:

คุณ ต้องลงทะเบียนสมัครสมาชิกก่อน ตอบกระทู้หรือตั้งคำถามใหม่ นะครับ

Main Menu

ฟิลิปปินส์เล็งจัดซื้อ “เรือดำน้ำ” ฝูงแรกของประเทศไว้ป้องปรามการรุกรานของจีน

เริ่มโดย mrtnews, เม.ย 01, 16, 06:33:37 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 2 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

เอเอฟพี - รัฐบาลฟิลิปปินส์มีแผนจัดซื้อเรือดำน้ำฝูงแรกของประเทศ เพื่อใช้ในการป้องกันอธิปไตยเหนือน่านน้ำในทะเลจีนใต้ ประธานาธิบดี เบนิโญ อากีโน แถลงวันนี้ (30 มี.ค. 59)


จากประเทศเล็ก ๆ ที่ไม่มีเรือดำน้ำเป็นของตนเองและต้องพึ่งพาเรือรบเสริมของสหรัฐฯ มาโดยตลอด ล่าสุดทางการฟิลิปปินส์เตรียมทุ่มงบกลาโหมก้อนใหญ่ เพื่อยกระดับศักยภาพของกองทัพให้สามารถรับมือการขยายอิทธิพลของจีน

รัฐบาลจีนอ้างกรรมสิทธิ์เหนือน่านน้ำเกือบทั้งหมดในทะเลจีนใต้ ซึ่งนอกจากจะเป็นแหล่งทรัพยากรทางทะเลและแหล่งพลังงานขนาดใหญ่แล้ว ยังเป็นเส้นทางเดินเรือที่สำคัญของโลก ซึ่งแต่ละปีจะมีสินค้าที่ถูกขนส่งทางเรือผ่านน่านน้ำแถบนี้เป็นมูลค่าถึง 5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยจีนได้เข้าไปถมทะเลสร้างเกาะเทียม ตลอดจนทางวิ่งเครื่องบินและสาธารณูปโภคพื้นฐานอื่น ๆ เพื่อยืนยันถึงความเป็นเจ้าของที่ดินเหล่านี้

การกระทำของปักกิ่งสร้างความไม่พอใจต่อเวียดนาม มาเลเซีย บรูไน ฟิลิปปินส์ และไต้หวัน ซึ่งอ้างกรรมสิทธิ์ทับซ้อนกับจีนอยู่

ประธานาธิบดี อากีโน เตือนว่า ฟิลิปปินส์อาจสูญเสียน่านน้ำชายฝั่งตะวันตกทั้งหมด หากจีนใช้กำลังยึดอาณาเขตทางทะเลตามที่พวกเขาอ้างได้สำเร็จ

"เราจำเป็นต้องพัฒนาศักยภาพของกองทัพให้มีความทันสมัยเพื่อป้องกันเขตแดนของเราไว้" อากีโน ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวที่กรุงมะนิลา

"ประเทศของเราเป็นชุมทางโดยธรรมชาติในมหาสมุทรแปซิฟิก และรัฐบาลก็อยู่ระหว่างศึกษาว่ากองเรือดำน้ำจะเป็นสิ่งจำเป็นหรือไม่"

สหรัฐฯ ระบุว่า จีนใช้เวลาไม่ถึง 2 ปีในการปรับสภาพที่ดินสร้างเกาะเทียมขึ้นในทะเลจีนใต้ เป็นพื้นที่กว่า 2,900 เอเคอร์ (ประมาณ 12 ตารางกิโลเมตร) และยังส่งระบบขีปนาวุธชนิดยิงจากพื้นดินสู่อากาศไปประจำการที่เกาะพิพาทแห่งหนึ่งด้วย

แม้รัฐบาล อากีโน จะจัดสรรงบด้านการทหารเพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์ ทั้งยังจัดซื้อเรือรบและฝูงบินขับไล่ใหม่ ๆ แต่เมื่อเทียบกับมหาอำนาจอย่างจีน กองทัพฟิลิปปินส์ก็ยังมีศักยภาพด้อยกว่ามาก

ทางการจีนทุ่มงบอุดหนุนกองทัพสูงถึง 954,000 ล้านหยวน (ราว 5.2 ล้านล้านบาท) ในปีนี้ หรือประมาณ 59 เท่าตัวของงบกองทัพฟิลิปปินส์ซึ่งอยู่ที่ราว ๆ 115,800 ล้านเปโซ (ราว 89,000 ล้านบาท)

มะนิลาหันไปพึ่งอาวุธยุทโธปกรณ์จากพันธมิตรเก่าแก่อย่างสหรัฐฯ รวมถึง "ญี่ปุ่น" ซึ่งเป็นอริเก่าสมัยสงครามโลก เพื่อเตรียมพร้อมรับมือการเผชิญหน้ากับจีน นอกจากนี้ ยังยื่นฟ้องต่อศาลอนุญาโตตุลาการถาวร (Permanent Court of Arbitration) ที่กรุงเฮกเพื่อให้ช่วยชี้ขาดปัญหาทะเลจีนใต้ ซึ่งคาดว่าศาลจะมีคำพิพากษาออกมาในช่วงเดือน พ.ค.

รัฐบาลจีนไม่ยอมรับว่าศาลอนุญาโตตุลาการถาวรมีอำนาจตัดสินเรื่องนี้ และปฏิเสธที่จะเข้าร่วมการไต่สวน โดยยืนกรานให้แก้ไขข้อพิพาทผ่านการเจรจาทวิภาคีเท่านั้น

ผู้นำฟิลิปปินส์เตือนว่า ข้อพิพาททะเลจีนใต้ "ส่งผลกระทบต่อทุกประเทศ" เพราะท้องทะเลแถบนี้เป็นเส้นทางเดินเรือที่สำคัญ และยังเป็นทางผ่านของสินค้าและน้ำมันดิบราว 1 ใน 3 ของโลก

อย่างไรก็ตาม อากีโน ซึ่งจะหมดวาระดำรงตำแหน่ง 6 ปีในเดือน มิ.ย. ยอมรับว่า แม้การปกป้องอธิปไตยของชาติจะเป็นสิ่งสำคัญ แต่ปัญหาปากท้องของชาวฟิลิปปินส์คือสิ่งที่รัฐบาลจะต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรก

"เราไม่เคยคิดเพ้อฝันว่าจะเทียบรัศมี สะสมอาวุธ หรือสร้างกองทัพที่เข้มแข็งแข่งกับชาติใด" เขากล่าว



ที่มา Data & Images -




ผู้นำฟิลิปปินส์ส่งสัญญาณซื้อเรือดำน้ำ

ฟิลิปปินส์กำลังพิจารณาลงทุนซื้อและตั้งกองเรือดำน้ำเป็นครั้งแรก เพื่อช่วยปกป้องดินแดนในน่านน้ำพิพาททะเลจีนใต้


สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2559 ว่า ประธานาธิบดีเบนิกโน อาคีโน ที่ 3 ผู้นำฟิลิปปินส์ กล่าวเมื่อวันพุธ ว่า ฟิลิปปินส์อาจจะลงทุนตั้งกองเรือดำน้ำ เป็นครั้งแรกของประเทศ เพื่อช่วยปกป้องดินแดนอาณาเขต ในน่านน้ำพิพาททะเลจีนใต้

ฟิลิปปินส์ซึ่งไม่เคยมีเรือดำน้ำมาก่อน และจนถึงขณะนี้ส่วนใหญ่ต้องอาศัยเรือส่วนเกินของสหรัฐ ได้เพิ่มเงินงบประมาณรายจ่ายด้านกลาโหม เพื่อตอบโต้ต่อการแผ่ขยายทางทหารของจีนในภูมิภาค และจีนกล่าวอ้างกรรมสิทธิเหนือดินแดนเกือบทั้งหมดในทะเลจีนใต้ โดยมีการฉต้แย้งกรรมสิทธิบางส่วนจากฟิลิปปินส์ เวียดนาม มาเลเซีย ไต้หวัน และบรูไน

อาคีโน กล่าวว่า ฟิลิปปินส์อาจสูญเสียการควบคุม ดินแดนชายฝั่งทางตะวันตกทั้งหมด หากจีนประสบความสำเร็จในการอ้างกรรมสิทธิ "เราต้องเร่งสร้างความทันสมัยให้กับเหล่าทัพของเรา เพื่อความจำเป็นทางก้านป้องกันตนเอง" อาคีโนเผยต่อผู้สื่อข่าว "เราเป็นจุดทางผ่านธรรมชาติเข้าสู่มหาสมุทรแปซิฟิก และขณะนี้เรากำลังศึกษาว่า มีความจำเป็นหรือไม่เพียงใด หากเราจะมีกองเรือดำน้ำ"

ทางด้าน นายเบนิโต ลิ้ม อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอาเตนีโอ เดอ มะนิลา กล่าวว่า การซื้อฝูงเรือดำน้ำจะไม่ช่วยแก้ไขความขัดแย้ง เนื่องจากฟิลิปปินส์ไม่มีทางเทียบแสนยานุภาพทางทหารกับจีนได้ อาคีโนต้องยอมรับความจริง และควรเปิดการเจรจาใหม่กับจีน "การซื้อเรือดำน้ำจะเป็นการลงทุนที่แพงมาก และมันอาจไม่ใช่ทางแก้ปัญหาที่มีเหตุผลที่สุด" นายลิ้ม กล่าว

ส่วนความเคลื่อนไหวอีกด้าน นายเฟอร์นานโด มานาโล ปลัดกระทรวงกลาโหมฟิลิปปินส์ กล่าวยืนยันเมื่อวันพุธ ว่า รัฐบาลฟิลิปปินส์ได้ลงนามในข้อตกลง สั่งซื้อเฮลิคอปเตอร์ต่อต้านเรือดำน้ำรุ่น เอดับเบิลยู 159 (AW 159) ของอังกฤษ-อิตาลี จำนวน 2 ลำ โดยกำหนดส่งมอบภายใน 1 ปีเศษ นายมานาโลกปฏิเสธที่จะเปิดเผยราคาที่ซื้อ เพียงแต่กล่าวว่า จะเป็น ฮ.ต้านเรือดำน้ำชุดแรกของประเทศ."



ที่มา Data & Images -