ข่าว:

รับสมัครเฉพาะชาวเรือและผู้ที่สนใจที่เป็นคนไทยเท่านั้น สมัครแล้วรออนุมัติประมาณ 2-3 วัน หากต้องการด่วนโปรดแจ้ง webmaster@marinerthai.net

Main Menu

คมนาคมจ่อถกบีโอไอ หนุนเอกชนหันต่อเรือใหญ่ใช้ในประเทศ

เริ่มโดย mrtnews, พ.ค 14, 16, 06:01:52 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 2 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

คมนาคมเล็งถกบีโอไอหามาตรการจูงใจเอกชนหันต่อเรือใหญ่ใช้ในประเทศ พร้อมสั่งกรมเจ้าท่าจัดทำรายละเอียดส่งเสริมภายใน 1 เดือน


นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมช.คมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมโครงการสนับสนุนการต่อเรือในประเทศเพื่อพัฒนากองเรือขนส่งน้ำมันชายฝั่งของไทย ว่า กระทรวงได้หารือร่วมกับกรมเจ้าท่า (จท.) กระทรวงการคลัง ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) ผู้ประกอบการอู่ต่อเรือ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาสนับสนุนให้มีการต่อเรือใช้ในประเทศเพิ่มมากขึ้น หลังพบว่าผู้ประกอบการเรือบรรทุกน้ำมันขนาดใหญ่ในไทย ตั้งแต่ 3,000 ตันกรอสขึ้นไป จะนำเข้าเรือมือสองหรือเรือเก่าจากต่างประเทศ เช่น จีนและเกาหลีใต้ มาให้บริการแทนการสั่งต่อเรือใหม่ในประเทศ เนื่องจากมีราคาถูกกว่ามาก จึงได้สั่งการให้กรมเจ้าท่าหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปเร่งจัดทำรายละเอียดเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการต่อเรือในประเทศ โดยให้ได้ข้อสรุปภายใน 1 เดือน

"การต่อเรือบรรทุกน้ำมันขึ้นมาใหม่ ต้องประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น เอ็กซิมแบงก์ หรือสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ด้วยว่าจะเพิ่มแรงจูงใจให้เกิดการต่อเรือในประเทศได้อย่างไร ซึ่งอาจจะเป็นการเพิ่มระยะเวลาการใช้คืนเงินกู้ จาก 8 ปี เป็น 12 ปี การลดดอกเบี้ยให้ถูกกว่า 2% ได้หรือไม่ เป็นต้น" นายออมสินกล่าว.



ที่มา Data & Images -




"คมนาคม" หนุนผุดต่อเรือขนาดใหญ่

นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมโครงการสนับสนุน การต่อเรือในประเทศเพื่อพัฒนากองเรือขนส่งน้ำมัน โดยได้เชิญทุกหน่วยงานที่เกี่ยวรวมทั้งภาคเอกชนร่วมหารือรายละเอียดดังกล่าว ว่าที่ประชุมได้มอบให้กรมเจ้าท่า (จท.) เร่งสรุปรายละเอียดเกี่ยวกับเรือขนาดใหญ่ที่ทำการบรรทุกน้ำมันนั้น ขณะนี้มีปริมาณเท่าไหร่ที่จะต้องปลดระวาง โดยจากข้อมูลเบื้องต้นพบว่ามีประมาณ 115 ลำ ที่มีอายุเกิน 25 ปี ทั้งนี้ ต้องตรวจสอบความพร้อมด้วยว่าในจำนวนทั้ง 115 ลำ มีสภาพที่ยังสมบูรณ์และพร้อมใช้งานได้หรือไม่ ก่อนจะประเมินความต้องการที่จะต้องต่อเรือจำนวนเท่าใด อย่างไรก็ตาม จะต้องสรุปรายละเอียดภายในปลายเดือนมิถุนายน 2559 ทั้งนี้ ยังมอบหมายให้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) พิจารณาเรื่องของระยะเวลาการกู้วงเงินเพื่อนำลงทุนด้วยว่า จะมีข้อเสนออย่างไรบ้าง


"สิ่งที่ต้องการผลักดันในขณะนี้ คือต้องการให้ประเทศไทยมีการต่อเรือในประเทศในมากขึ้น โดยปัจจุบันนี้หากจะต่อเรือที่มีขนาดเกิน 3,000 ตันกรอสส์ ก็ต้องไปต่อต่างประเทศ ซึ่งเราก็นิยมไปต่อที่ประเทศจีน และเกาหลี ส่วนที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นก็จะมีราคาสูงจึงไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร อย่างไรก็ตาม ในส่วนของประเทศไทยก็ถือว่ามีความพร้อมในการต่อเรือขนาดเช่นกัน แต่ที่ผ่านมาไม่ได้รับการดันผลักธุรกิจดังกล่าวเท่าที่ควร ซึ่งอยากให้มีการพัฒนากองเรือไทย ให้มีการต่อเรือในประเทศไทยมากขึ้น ทั้งนี้ จะได้เป็นการจ้างงานในประเทศถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกทางด้วย" นายออมสิน กล่าว

นอกจากนี้ กรมเจ้าท่า โดยสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 6 สาขาพัทยา ได้เพิ่มมาตรการยกระดับความปลอดภัยในการสัญจรทางน้ำ โดยการเสริมกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมเรือยนต์ตรวจการณ์เจ้าท่า ลงพื้นที่ควบคุม กำกับการจราจร บริเวณทะเลพื้นที่ใกล้ชายฝั่งตามช่องทางเข้า-ออกเรือ บริเวณหาดพัทยา-หาดตาแหวน พร้อมประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ อาทิ เจ้าหน้าที่ แขวงเกาะล้าน เมืองพัทยา ในการสนับสนุนทุ่นเครื่องหมาย เพื่อจำกัดความเร็ว และกำกับแนวแบ่งการจราจรทางน้ำ บริเวณหาดตาแหวนและเขตกิจกรรมต่างๆ ในพื้นทีเกาะล้าน เพื่อผู้ควบคุมเรือที่เดินเรือในพื้นที่ดังกล่าวให้มีความเข้าใจถูกต้องตรงกัน พร้อมทั้งตรวจสารเสพติดผู้ควบคุมเรือทุกลำ เพื่อความปลอดภัยของประชาชนและนักท่องเที่ยวในการเดินทาง ทางน้ำให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินอย่างสูงสุด



ที่มา Data & Images -