ข่าว:

ห้ามโพสโฆษณา สินค้าที่ดูแล้วขัดต่อ ศีลธรรม ประเพณี หรือกฏหมายของไทย เด็ดขาด หากพบจะแบนสมาชิกนั้นออกจากบอร์ดทันที

Main Menu

รมว.พลังงานสั่ง ปตท.ลุยซื้อแหล่งปิโตรเลียมหลังต่างชาติเร่ขาย

เริ่มโดย mrtnews, พ.ค 30, 16, 06:23:18 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

กรุงเทพฯ 27 พ.ค. 59 – รมว.พลังงานเป็นห่วงความต่อเนื่องผลิตปิโตรเลียมในไทย หลังต่างชาติเร่ขายหุ้น เพราะได้รับผลกระทบหนักจากราคาน้ำมันลดลง สั่งกลุ่ม ปตท.พิจารณารับซื้อ รวมทั้งทำธุรกิจให้ประชาชนมีส่วนร่วมมาก จับตา กพช.30 พ.ค.พิจารณาอนุมัติคลังแอลเอ็นจี 2 และบริหารจัดการแหล่งปิโตรเลียมหมดอายุ หากไม่เร่งจัดการก๊าซหมดค่าไฟอาจแพงขึ้น 85 สตางค์


พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน  เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยม บมจ.ปตท. ว่า ได้มอบหมายให้ กลุ่ม ปตท.พิจารณาเข้าลงทุนในกรณีกลุ่มนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศขายสินทรัพย์ปิโตรเลียมในไทย เพราะได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันลดลง เพราะต้องการให้การผลิตปิโตรเลียมมีความต่อเนื่องไม่กระทบต่อความมั่นคงด้านพลังงานของไทย ไม่ว่าจะเป็นด้านไฟฟ้าและอื่น ๆ เช่น กรณี ข่าวเชฟรอนจะขายหุ้นในแหล่งอาทิตย์ที่มีสัดส่วนร้อยละ16 เป็นต้น เชลล์ขายแหล่งบงกช อย่างไรก็ตาม แหล่งอาทิตย์ บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (ปตท.สผ.) ถือหุ้นร้อยละ 80 การที่จะเข้าไปซื้อแล้วจะมีความเสี่ยงหรือไม่ ทาง กลุ่ม ปตท.ก็ต้องพิจารณา แต่ท้ายสุดแล้วเชฟรอนขายใครไม่ได้ กลุ่ม ปตท.ก็คงต้องเข้าไปรับซื้อ ส่วนแหล่งขนาดใหญ่ เช่น แหล่งเอราวัณและใกล้เคียงของเชฟรอน ที่จะหมดอายุสัมปทานปี  2565 ทางเชฟรอนก็แจ้งพร้อมดำเนินการต่อ เพียงแต่รอรัฐบาลเท่านั้นจะมีนโยบายอย่างไร

"ผลกระทบจากราคาน้ำมันลดลงมากก็จะเห็นได้ว่าบริษัททั่วโลกต้องลดต้นทุนมีการลดคนงาน เช่น เชลล์ เชฟรอน ซึ่งได้สอบ ปตท.ว่าเตรียมพร้อมอย่างไร ทั้งเรื่องผลกระทบราคาน้ำมันลดลงและทิศทางการใช้พลังงานที่จะเปลี่ยนไป อนาคตจะมีรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาทดแทนน้ำมัน  โดย ปตท.ได้รายงานว่ามีการเตรียมพร้อม ปรับแผนลงทุนต่างประเทศ ลดต้นทุน ชะลอโครงการลงทุนบางโครงการ มีธุรกิจที่หลากหลาย จึงไม่น่าเป็นห่วง" รมว.พลังงาน กล่าว

รมว.พลังงาน  กล่าวด้วยว่า มีความเป็นห่วง ปตท.เรื่องกระแสความไม่เข้าใจของภาคประชาชน โดยขอให้ ปตท.ทำความเข้าใจมากขึ้นและทำธุรกิจกับท้องถิ่นให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากขึ้น ซึ่ง ปตท.รายงานว่าธุรกิจนอนออยล์ หรือธุรกิจที่ไม่ใช้น้ำมัน เช่น กาแฟอเมซอนส่งเสริมให้ชาวบ้านปลูกกาแฟ และนำมาใช้ในสัดส่วนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10-15 แล้ว ซึ่งในอนาคตนอนออยล์เหล่านี้อาจจะต้องแยกเป็นบริษัทเพื่อความคล่องตัว

ส่วนการลงทุนสถานีรับจ่ายแอลเอ็นจี แห่งที่ 2  ซึ่งจะเสนอเข้าคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) วันที่ 30 พฤษภาคมนี้ ทาง ปตท.รายงานว่ามีความพร้อมที่จะก่อสร้าง 7.5 ล้านตัน เนื่องจากเงินลงทุนจะเพิ่มเพียง 1,300 ล้านบาทเท่านั้น จากเงินลงทุนที่จะก่อสร้างขนาด  5 ล้านตัน ที่ 36,800 ล้านบาท และจะทำให้ค่าผ่านคลังมีราคาถูกลง โดยอยู่ในอัตรา 19 บาท/ล้านบีทียู จากอัตรา 5 ล้านตัน ที่ 26 บาท/ล้านบีทียู อย่างไรก็ตาม คงจะต้องพิจารณาว่าในช่วงของการก่อสร้างเสร็จปี 2565 ช่วงนั้นปริมาณก๊าซในประเทศเป็นอย่างไร ความต้องการใช้ไฟฟ้าเป็นอย่างไร จำเป็นต้องนำเข้าในปริมาณสูงหรือไม่ เพราะหากนำเข้าสูงเกินจำเป็นก็อาจทำให้ค่าไฟฟ้าสูงด้วย


รมว.พลังงาน ยังกล่าวด้วยว่า ปตท.รายงานว่า ปตท.ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจในตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่ขัดข้อง หากร่างกฎหมายใหม่ที่ดูแลรัฐวิสาหกิจ คือ ร่าง พ.ร.บ.การพัฒนาการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจ หรือกฏหมายซูปเปอร์โฮลดิ้งมีผลบังคับใช้

ด้านกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ นายวิศรุต ตั้งสุนทรขัณฑ์ วิศวกรปิโตรเลียมชำนาญการพิเศษ ได้ให้ความรู้แก่สื่อว่าการบริหารจัดการแหล่งปิโตรเลียมที่จะหมดอายุทั้งแหล่งเชฟรอนและ บงกชปี 2565 , 2566 รวม 2,214 ล้านลูกบาศ์กฟุตต่อวัน หรือร้อยละ 70 ของกำลังผลิตในประเทศ การบริหารจัดการ ขึ้นอยู่กับบอร์ด กพช.จะเลือกแนวทางใด ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเจรจากับรายเดิม หรือเปิดประมูล ซึ่งกรมฯ เสนอเงื่อนไขหลัก คือ ผลตอบแทนแก่รัฐไม่ต่ำว่าสัญญาไทยแลนด์สาม  โดยหากไม่เร่งจัดการก๊าซฯ จะค่อย ๆ ลดลงในอีก 7 ปีข้างหน้าก๊าซจะหายไป 3 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต  ต้องนำเข้าแอลเเอ็นจีมาทดแทนอาจกระทบค่าไฟฟ้าเอฟที 85 สตางค์ต่อหน่วย



ที่มา Data & Images -




ไม่ขัดซื้อหุ้นแหล่งก๊าซ

รมว.พลังงานเปิดทาง ปตท.สผ.พิจารณาซื้อหุ้นแหล่งอาทิตย์จากเชฟรอน 16% หากไม่เสี่ยง

พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (ปตท.สผ.) อยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะเข้าซื้อหุ้น 16% ของบริษัท เชฟรอน คอร์ป ที่ถืออยู่ในฐานปฏิบัติการก๊าซธรรมชาติแหล่งอาทิตย์ที่ จ.สงขลา หรือไม่ เพราะปัจจุบันก็ถือหุ้นในแหล่งอาทิตย์อยู่แล้ว 80%

"ถ้าเชฟรอนยังขายใครไม่ได้ ทาง ปตท.คงต้องเข้าไปศึกษาว่าการเข้าไปซื้อหุ้นจะเสี่ยงหรือไม่" พล.อ.อนันตพร ระบุ

นอกจากนี้ มอบหมายให้ ปตท.มีการเตรียมพร้อมกับทิศทางราคาน้ำมันที่ปรับลดลง รวมถึงแนวโน้มการใช้พลังงานในอนาคตที่จะมีรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาทดแทนการใช้น้ำมันว่า ปตท.จะต้องมีการปรับแผนการลงทุนในประเทศและต่างประเทศอย่างไรบ้าง ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการชะลอโครงการลงทุนบางโครงการไปบ้างแล้ว

นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการ ปตท. ว่า ที่ประชุมมติเห็นชอบให้ดำเนินธุรกิจถ่านหินในอินโดนีเซียต่อไป เนื่องจากเห็นว่าเป็นแหล่งถ่านหินที่มีศักยภาพดี มีทำเลที่ตั้งใกล้กับทะเลมีต้นทุนการขนส่งที่ไม่สูง ประกอบกับในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา บริษัทได้ดำเนินมาตรการปรับลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ลงจนมีต้นทุนที่สามารถแข่งขันกับรายอื่นๆ ได้แล้ว

"แม้ว่าสภาพตลาดจะไม่เติบโตมากนัก และหากตัดสินใจขายอาจจะไม่ได้ราคาที่เหมาะสม โดยแนวทางที่จะทำต่อตอนนี้ คือ ลดค่าใช้จ่ายและปรับลดต้นทุน แต่ในอนาคตหากมีผู้สนใจและเสนอราคาที่ดีมาขอซื้อกิจการถ่านหิน ปตท.ก็พร้อมเปิดโอกาสเช่นกัน" นายเทวินทร์ กล่าว

ทั้งนี้ ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าผลิตถ่านหิน 8 ล้านตัน และไตรมาสแรกผลิตแล้ว 2 ล้านตัน ต้นทุน 30 เหรียญสหรัฐ/ตัน ส่วนราคาตลาดปัจจุบัน 50 เหรียญสหรัฐ/ตัน



ที่มา Data & Images -