รัสเซียทำพิธีปล่อยลงน้ำเรือฟริเกตเวียดนามลำที่ 4 ส่งมอบครบปลายปีนี้

[mrtnews]

MGRออนไลน์ - อู่ต่อเรือเก่าแก่ในสาธารณรัฐตาตาร์สถาน (Tatarstan) แห่งสหพันธรัฐรัสเซีย ได้ทำพิธีปล่อยลงน้ำเรือฟริเกตชั้นเกพาร์ด 3.9 (Gepard-3.9-Class) สำหรับกองทัพเรือเวียดนามอีกลำหนึ่งปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นลำที่ 4 เพื่อเข้าสู่กระบวนการทดสอบต่างๆ ก่อนจะส่งมอบในเดือน ก.ย.ปีนี้

พิธีจัดขึ้นที่อู่เซเลโนดอลสก์ (Zelenodolsk AM Gorky) อู่ต่อเรือเก่าแก่ตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 ในเมืองชื่อเดียวกัน ที่ตั้งอยู่บนฝั่งซ้ายของแม่น้ำโวลก้า และเป็น "บ้าน" ของเรือฟริเกตชั้นเกพาร์ด ทั้งของกองทัพเรือรัสเซีย และของเวียดนาม

ตามรายงานของสำนักข่าวทาสส์ พิธีปล่อยลงน้ำจัดขึ้นเมื่อวันที่ 25 พ.ค. โดยมีผู้แทนจากกองทัพเรือเวียดนาม และผู้แทนโรโซโบรอนเอ็กซ์ปอร์ต (Rosoboronexport) รัฐวิสาหกิจส่งออกอาวุธยุทโธปกรณ์ของกระทรวงกลาโหม และเจ้าหน้าที่อู่เซเลโนดอลสก์

การทดสอบแล่นจริงทั้งในแม่น้ำ และในทะเลจะดำเนินไปตลอดฤดูร้อนนี้ รวมทั้งทดสอบระบบอาวุธที่ติดตั้ง ซึ่ง นายอันเดร สปิริโดนอฟ (Andrey Spiridonov) ตัวแทนของอู่ต่อเรือ บอกสำนักข่าวทางการว่า เรือลำนี้จะส่งมอบให้เวียดนามในเดือน ก.ย.ที่จะถึง หลังจากเรือลำที่ 3 หนึ่งเดือน

เดือน เม.ย.ที่ผ่านมา อู่ต่อเรือแห่งนี้ได้ทำพิธีคล้ายกัน ปล่อยเรือฟริเกตลำที่ 3 เพื่อเริ่มการทดสอบ โดยมีกำหนดส่งอบให้เวียดนามในเดือน ส.ค.ปีนี้

กองทัพเรือเวียดนามเซ็นสัญญาซื้เอเรือฟริเกชั้นเกพาร์ด 3.9 ทั้งลำที่ 3 และ 4 ในปี 2555 พิธีวางกระดูกงูจัดขึ้นพร้อมกัน ในฤดูใบไม้ร่วงปี 2556 ก่อนหน้านั้น ในปี 2554 เวียดนามได้รับเรือฟริเกตชั้นเดียวกัน 2 ลำแรก ซึ่งก็คือ เรือดีงเตียนหว่าง (Dinh Tien Hoang, 011) กับเรือหลีถ่ายโต๋ (Ly Thai To, 012) ในปัจจุบัน

ตามข้อมูลของสื่อรัสเซีย เรือชั้นเกพาร์ด 3.9 ขนาด 1.5 ตัน มีเชื่อเรียกตามโครงการว่า Project 11661 ออกแบบมาเพื่อภารกิจค้นหา และทำลายเรือดำน้ำของข้าศึก ภารกิจสงครามผิวน้ำ และ ต่อสู้อากาศยาน ภารกิจลาดตระเวน ภารกิจคุ้มกันขบวนเรือ รวมทั้งพิทักษ์ปกป้องเขตเศรษฐกิจของประเทศ

เรือรบรุ่นนี้ติดตั้งทั้งปืนใหญ่เรือ ระบบจรวด และตอร์ปิโดสำหรับยิงเรือรบผิวน้ำ และเรือดำน้ำ รวมทั้งระบบจรวดต่อสู้อากาศยาน

เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2558 เรือดาเกสตาน (Dagestan) ซึ่งเป็นเรือฟรีเกตชั้นเกพาร์ด 3.9 ลำหนึ่งของกองทัพเรือทะเลแคสเปียนรัสเซีย ได้ร่วมกับเรือคอร์แว็ตชั้นบูยัน-เอ็ม (Buyan-M-Class) อีก 3 ลำ คือ เรือกราด สวียาซค์ (Grad Sviyazhsk) เรืออูกริช (Uglich) และเรือเวเลกี อุตยุก (Veleky Utyug) ยิงจรวดร่อน ผ่านดินแดนอิหร่านกับอิรัก เป็นระยะทางกว่า 1,500 กิโลเมตร ไปโจมตีเป้าหมายกลุ่มก่อการร้ายรัฐอิสลามไอซิส (ISIS) ในซีเรีย

พล.อ.เซอร์เก ชอยกู รมว.กลาโหม กล่าวว่า เรือรบทั้ง 4 ลำ ยิงจรวดรวม 26 ลูก โดยได้รับความร่วมมือจากรัฐบาลอิหร่าน กับอิรัก จรวดตรงไปทำลายเป้าหมาย จำนวน 11 แห่งที่กำหนดไว้ล่วงหน้า และทั้งหมด "ร่อน" ไปตามเส้นทางที่กำหนด โดยหลีกเลี่ยงตัวเมือง กับแหล่งที่มีประชาชนอาศัยหนาแน่นเพื่อป้องกันมิให้ได้รับผลกระทบ ไม่มีพลเรือนได้รับความเสียหายจากปฏิบัติการครั้งนั้น

ต่อมา วันที่ 18 พ.ย. เรือดาเกสถาน (Dagestan) ได้เข้าร่วมการโจมตี ISIS ด้วยจรวดร่อน โดยยิงจากทะเลแคสเปียนเช่นเมื่อครั้งก่อน และได้ผลเช่นเดียวกัน คือ เป้าหมายถูกทำลายทั้งมหด ซึ่งได้สร้างชื่อเสียงให้แก่เรือรบรุ่นนี้

เป็นที่ทราบกันทั่วไปว่า เวียดนามได้สั่งซื้อจรวดร่อนในตระกูล "คลูบ" (Klub) รุ่นหนึ่ง ที่มีขีดความสามารถในการยิงโจมตีเป้าหมายบนฝั่งได้หลายร้อยกิโลเมตร แต่ไม่มีข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับว่า มีจรวดร่อนที่สามารถยิงระยะไกลนับพัน กม.รวมอยู่ด้วยหรือไม่.



ที่มา Data & Images -