ข่าว:

คุณ ต้องลงทะเบียนสมัครสมาชิกก่อน ตอบกระทู้หรือตั้งคำถามใหม่ นะครับ

Main Menu

ธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์โตเร็ว เชื่อปี 57 มีกำไร ถึง 4.7 พันล้านบาท

เริ่มโดย mrtnews, ก.ค 17, 13, 15:59:09 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

วันนี้ ( 16 ก.ค. 56 ) น.ส.วันดี กุญชรยาคง ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) เปิดเผย หลังการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2556 ที่ได้มีการประชุมไปเมื่อวันที่ 15 ก.ค. 56 ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นด้วยในการอนุมัติเปลี่ยนแปลงการออกใบสำคัญแสดงสิทธิ ที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท (SPCG-W1)จำนวน 279,999,581 หน่วย จากเดิมที่กำหนดวันใช้สิทธิไว้ วันที่ 2 มี.ค.2558 มาเป็นการออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่เร็วขึ้นในปี 2556 แบ่งเป็น 3 ช่วง คือ ช่วงที่ 1 ระหว่างวันที่ 25-31 ก.ค. ช่วงที่ 2 ระหว่างวันที่ 26-30 ส.ค. 56 ช่วงที่ 3 ระหว่าง 24-30 ก.ย.2556


ทั้งนี้ เหตุที่มีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากในปี 2558 เป็นช่วงเวลาที่ บริษัทฯ มีฐานะทางการเงินที่แข็งแรงแล้ว ทำให้การได้รับเงินจากการใช้สิทธิแปลงสภาพในเดือน มี.ค. 2558จะไม่สอดคล้องกับความต้องการเงินของบริษัทฯในภาพรวม ดังนั้นจึงมีแผนที่จะขอปรับระยะเวลาแปลงสภาพ เป็นภายในปี 2556 จำนวน 3 ครั้งแทน โดยจะนำเงินที่ได้นี้ไปเร่งการลดหนี้สินทางการเงิน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยจ่าย และมุ่งหวังที่จะจ่ายปันผลได้เร็วขึ้น โดยจะส่งผลต่อผู้ถือหุ้นที่จะได้รับผลกำไรเร็วกว่าเดิม และจะส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้บริหารในการลงทุนเพื่อขยายธุรกิจ

อย่างไรก็ตาม จากการสนับสนุนของรัฐบาลที่ต้องการให้การผลิตไฟฟ้านำมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า โดยนโยบายดังกล่าว จะส่งผลต่อการทำโซลาร์ รูฟ (Solar roof) ดังนี้ 1.สิทธิประโยชน์ในลักษณะภาษี 2.สิทธิประโยชน์ในการซื้อไฟฟ้าราคาถูก 3.สิทธิประโยชน์ที่สามารถติดตั้งได้ทั้งในภาคอุตสาหกรรมและภาคครัวเรือน 4.ส่งผลให้ไทยได้เป็นผู้นำในอาเซียน ทั้งในส่วนของโซลาร์ ฟาร์มและโซลาร์ รูฟ

นอกจากนี้ รายได้และกำไรสุทธิของบริษัท ยังคงอยู่ในทิศทางการเติบโตเด่นในปี 2557 จากการรับรู้รายได้เต็มปีของโซลาร์ ฟาร์มทุกแห่ง ทำให้สามารถคาดการณ์การเติบโตทางรายได้มากถึง 4.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 75% ส่วนกำไรสุทธิ จะก้าวกระโดดเป็น 2.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 68% ส่วนการก่อสร้างและการขายไฟฟ้า ของบริษัทฯในเดือน มิ.ย. 56 ที่ผ่านมาสามารถขายในเชิงพาณิชย์ เข้าระบบการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เพิ่มอีก 5 แห่ง มี 2 แห่งที่สร้างแล้วเสร็จรอขาย และยังมีอีก 13 แห่ง ที่กำลังเร่งพัฒนาการก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในปีนี้ทั้งหมด


น.ส.วันดี กล่าวว่า กฟภ.มีลูกค้าอยู่ 16 ล้านครัวเรือนการทำการตลาดนั้นต้องเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป ต้องมีการทำความเข้าใจในระยะหนึ่งก่อน ซึ่งคาดว่าจะเริ่มทำได้ในช่วงต้นปีหน้า ส่วนโซลาร์ รูฟ บริษัทฯ ใช้งบลงทุน 100-900 ล้านบาทบาท โดยคาดว่า จะมีโอกาสเติบโตเป็น 3 เท่าของโซลาร์เซลล์.

ที่มา -