ทัพเรือจ่อยุบ "ศปมผ." สิ้นปี - เร่งโอนงานกรมประมง

[mrtnews]

ทัพเรือเตรียมยุบเลิก ศปมผ. หลังอียูกำหนดผลประเมิน IUU ต้นเดือน ม.ค. 2560 คาดปล่อยไทยแก้ไขปัญหาอย่างอิสระ แต่ยังไม่หลุดใบเหลือง พร้อมทยอยถ่ายโอนงานให้กรมประมงทำเอง

พลเรือเอกบงสุข สิงห์ณรงค์ ประธานอนุกรรมการปราบปรามการบังคับใช้แรงงานและการค้ามนุษย์ในภาคประมง ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) เปิดเผยว่า หลังจากที่สหภาพยุโรป หรืออียู ได้ให้ใบเหลืองกับไทยกรณีการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม หรือ IUU Fishing ตั้งแต่กลางเดือน เม.ย. 2558 เพื่อเร่งรัดการแก้ไขปัญหาดังกล่าว รัฐบาลไทยได้ตั้ง ศปมผ. ขึ้นร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีความตั้งใจจริงที่จะแก้ไขปัญหานี้ มีการปราบปรามการค้าแรงงาน โดยมีคดีที่ค้างอยู่ในขณะนี้กว่า 2,000 คดี

ในขณะที่กำหนดระยะเวลาการจัดระเบียบเรือประมง ตามพระราชกำหนดประมง พ.ศ. 2558 บังคับใช้กฎหมายเพื่อให้อุตสาหกรรมประมงของไทยสอดคล้องกับนานาชาติ ส่งผลให้ไทยเข้าสู่ระบบสากลได้โดยสมบูรณ์ การดำเนินการทั้งหมดได้ประสานกับอียู ที่มีข้อแนะนำไทยในด้านต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการแก้ไขปัญหา ซึ่งล่าสุดจากที่อียูเข้ามาตรวจสอบระบบการทำประมงของไทย แม้ยังไม่มีเอกสารตอบรับอย่างเป็นทางการว่าพึงพอใจการทำงานของไทยหรือไม่ แต่จากความพยายามของไทยในช่วงที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งทำให้ไทยหลุดพ้นจากการจัดอันดับการค้ามนุษย์ของสหรัฐอเมริกา เทียร์ 3 เป็นเทียร์ 2.5 นั้น จะส่งผลให้การประเมิน IUU ที่จะมีขึ้นในช่วงต้นเดือน ม.ค. 2560 นี้ ไทยจะได้รับข่าวดี แม้จะไม่หลุดพ้นจากใบเหลือง แต่คาดว่าอียูจะปล่อยให้ไทยดำเนินการตามแผน ไม่เข้ามาตรวจสอบหรือตั้งเงื่อนไขมากมายอย่างที่ผ่านมา และคาดว่าจะไม่ได้ใบแดงอย่างแน่นอน

โดยระหว่างนี้ทั้งไทย และอียู จะประสานการทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่อง คาดว่าในเดือน ก.ย.นี้จะมีการเจรจาระหว่างกันอีกครั้ง ตามกำหนดการยังไม่แน่ใจว่าอียูจะส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาหรือไม่ แต่รัฐบาลไทยก็ส่งเอกสารแจ้งรายงานให้อียูรับทราบอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเมื่อถึงสิ้นปีนี้ การทำงานของ ศปมผ.จะต้องยุบเลิกไป การทำงานด้าน IUU จะเป็นการประสานกับศูนย์ประสานการรักษาชาติทางทะเลของกองทัพเรือที่มีอยู่แล้วในปัจจุบัน โดยระหว่างนี้ ศปมผ.ได้ทยอยถ่ายโอนภารกิจให้กรมประมงรับผิดชอบไปมากแล้ว

"การที่ไทยหลุดจากเทียร์ 3 นั้นเป็นนิมิตหมายที่ดีกับไทยมาก ที่ทำให้ภาพลักษณ์ของไทยในการแก้ไขปัญหาทั้งด้านแรงงานและด้านประมงดีขึ้น และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าไทยจะได้รับข่าวดีเรื่อง IUU ซึ่งจากที่ผมได้ร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่อียูหลายครั้งก็พบว่า อียูพอใจในผลการดำเนินงานของไทย แม้ว่าจะมีข้อแนะนำเพิ่ม ซึ่งไทยต้องปฏิบัติแก้ไข เช่น การออกกฎหมายลูก การบังคับใช้กฎหมาย การออกระเบียบให้ผู้ประกอบการให้เป็นที่ยอมรับของสากล ที่มีการปรับตัวไปมากแล้ว และต้องทำต่อไปเพื่อให้สามารถส่งออกในตลาดอียูและสหรัฐได้" พลเรือเอกบงสุขกล่าว

พลเรือตรีวรรณพล กล่อมแก้ว ผู้แทนศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) กล่าวในงานสัมมนาเชิงปฏิบัติการพัฒนานโยบายการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์และ IUU ว่า ที่ผ่านมาไทยทำประมงมาก ใช้เรือมากถึง 47,000 ลำในจำนวนนี้เป็นเรือพาณิชย์ถึง 12,000 ลำ โดยเรือเหล่านี้มีการใช้เครื่องมือไม่เหมาะสม ไม่มีการการรายงาน ไม่มีการควบคุม อียูต้องการให้ไทยแก้ไขปัญหานี้นานแล้ว แต่เนื่องจากที่ผ่านมาไทยไม่มีหน่วยงานเข้ามารับผิดชอบอย่างชัดเจน สุดท้ายก็ได้ใบเหลืองและมีการจัดตั้ง ศปมผ.ขึ้นมาเพื่อเร่งรัดแก้ไขเรื่องนี้ แต่ไทยไม่ได้ทำตามอียูทั้งหมด เป้าหมายใหญ่คือต้องทำเพื่อความยั่งยืนของทรัพยากรทะเลไทย

อย่างไรก็ตามยอมรับว่าเป็นเรื่องยาก และดำเนินการยังไม่ทั่วถึงเนื่องจากจำนวนเรือที่มีมากแม้การทำงานของศูนย์ตรวจสอบเรือประมงผิดกฎหมายจะทำงานตลอด24 ชั่วโมง แต่การเข้าออกของเรือประมงยังมีที่แอบเข้าออกตอนกลางคืน ไม่มีการรายงานต่อศูนย์เข้าออกเรือประมงหรือ PIPO ดังนั้นจึงต้องขอความร่วมมือกับแพปลาและสถานประกอบการให้รายงานการรับซื้อสินค้ากับเรือประมงเหล่านี้ให้ PIPO ด้วย



ที่มา Data & Images -