ข่าว:

ห้ามโพสโฆษณา สินค้าที่ดูแล้วขัดต่อ ศีลธรรม ประเพณี หรือกฏหมายของไทย เด็ดขาด หากพบจะแบนสมาชิกนั้นออกจากบอร์ดทันที

Main Menu

กรมเจ้าท่าเดินหน้า ‘East-West Ferry’ เดินทางข้ามอ่าวไทย

เริ่มโดย mrtnews, ส.ค 27, 16, 06:30:41 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 3 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

โดย...ไชยวัฒน์ สาดแย้ม

การขนส่งจากภาคตะวันออกมายังภาคตะวันตก โดยเฉพาะเส้นทางจากท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกมายัง จ.ประจวบคีรีขันธ์แล้วออกจากด่านสิงขรเข้าประเทศเมียนมาเพื่อไปยังเมืองท่ามะริดในฝั่งมหาสมุทรอินเดีย การเดินทางจาก จ.ชลบุรี มายัง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ต้องใช้เวลาถึง 5 ชั่วโมง แต่หากใช้การขนส่งทางเรือลัดอ่าวไทยจะเหลือเวลาเพียงแค่ 1.30 ชั่วโมงเท่านั้น


กรมเจ้าท่า มีโครงการ East-West Ferry เชื่อมโยงระบบการขนส่งและการท่องเที่ยว ภายใต้โครงการศึกษาความเหมาะสมเพื่อเพิ่มศักยภาพท่าเทียบเรือขนส่งสินค้าเพื่อสนับสนุนด่านชายแดนสิงขรเชื่อมโยงระบบการส่งสินค้าและการท่องเที่ยว เป็นโครงการต่อเนื่องที่กรมเจ้าท่ารับมาดำเนินการตามแผนของสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่ต้องการปรับเปลี่ยนการเดินทางและขนส่งจากทางบกมาเป็นทางน้ำ เพื่อลดปัญหาความแออัดของการจราจรและความสูญเสียเรื่องของพลังงาน

สุริยะ โกพัฒน์ตา หัวหน้าสำนักงานขนส่งทางน้ำที่ 3 จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ล่าสุด กรมเจ้าท่าได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาศึกษาออกแบบผลกระทบและความเหมาะสม คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือน ธ.ค.นี้ จากนั้นจะเสนอให้กระทรวงคมนาคมเสนอรัฐบาล เพื่อจัดสรรงบประมาณก่อสร้างท่าเรือ ซึ่งต้องใช้เวลาอีกประมาณ 4 ปี

โครงการนี้จะช่วยร่นระยะเวลาการขนส่งผู้โดยสารและการขนส่งสินค้าระหว่างภาคกลางตอนล่าง ได้แก่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ และเพชรบุรี ไปยังภาคตะวันออกที่ จ.ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด เทียบกับการขนส่งทางบกจากพัทยา-ชะอำ-หัวหิน มีระยะทาง 345 กิโลเมตร ต้องใช้เวลาถึง 5 ชั่วโมง แต่การเดินทางผ่านอ่าวไทยมีระยะทางเพียง 105 กิโลเมตร โดยใช้เรือเฟอร์รี่บรรจุผู้โดยสารได้ 300-500 คน รถยนต์ 30-60 คัน ใช้เวลาเดินเรือจากพัทยา-ชะอำ-หัวหิน 1 ชั่วโมง 30 นาที ทำให้เกิดประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจอย่างมาก เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันระหว่างประเทศ


สุริยะ กล่าวอีกว่า สำหรับ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ร่องน้ำปราณบุรีมีความเหมาะสมสามารถก่อสร้างท่าเรือได้ ขณะนี้กรมเจ้าท่าอยู่ระหว่างเสนอแผนพัฒนาท่าเรือทั้งสองฝั่ง โดยจะเชิญบริษัทภาคเอกชนเข้ามาแจ้งข้อเสนอเพื่อรับสัมปทานการเดินเรือเส้นทางพัทยา-หัวหิน-ชะอำ ต่อไป

ด้านฝากตะวันออก ภิมุข ประยูรพรหม ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 6 เป็นประธานประชุมชี้แจงโครงการ โดยมีตัวแทนจากส่วนราชการของ จ.ชลบุรี อ.บางละมุง ศรีราชา บางพระ เมืองพัทยา สัตหีบ ผู้นำชุมชน องค์กรด้านสิ่งแวดล้อม และผู้ที่สนใจเข้าร่วมอย่างคับคั่ง ซึ่งในส่วนของพื้นที่ จ.ชลบุรี ได้กำหนดไว้จำนวน 4 พื้นที่หลัก ได้แก่ ท่าเรือเกาะลอย อ.ศรีราชา ท่าเรือแหลมฉบัง ท่าเรือท่องเที่ยวเมืองพัทยา และท่าเรือจุกเสม็ด อ.สัตหีบ

หากไม่ติดขัดอุปสรรคปัญหาใด อีก 4-5 ปีข้างหน้า การเดินทางข้ามอ่าวไทยทั้งท่องเที่ยวและการขนส่งสินค้า คงเกิดขึ้นจริง



ที่มา Data & Images -