ข่าว:

ห้ามโพสโฆษณา อาหาร ยา และเครื่องสำอางค์ รวมถึงสมุนไพรทุกชนิด ไม่ว่าจะมี อย. หรือไม่  เด็ดขาด หากพบจะแบนสมาชิกนั้นออกจากบอร์ดทันที

Main Menu

ประมงภูเก็ตขนทูน่ากว่า 2 พันตัน ออกจากเรือทำผิดไอยูยู หลังแบกรับต้นทุนไม่ไหว

เริ่มโดย mrtnews, ก.ย 07, 16, 06:23:57 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2559 ที่ท่าเทียบเรือน้ำลึก บ้านอ่าวมะขาม ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต เจ้าหน้าที่สำนักงานประมงจังหวัดภูเก็ต และประมงอำเภอเมืองภูเก็ต นำคนงานพร้อมรถเครนขนาดใหญ่เข้าขนย้ายปลาทูน่าสดของกลางกว่า 2,700 ตัน ออกจาก มุกอันดามัน 018 และมุกอันดามัน 028 ซึ่งเป็นเรือถูกจับกุมเมื่อวันที่ 30 มกราคม ในข้อหาทำประมงโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.ก.ประมง พ.ศ.2558 ขัดคำสั่ง หน.คสช.ที่ 10/2558 ที่กำหนดให้มารายงานตัว และไม่ได้นำเรือมารายงานตัวตามกำหนด โดยจะขนย้ายของกลางทั้งหมดไปเก็บไว้ที่ห้องเย็นนุชิต ท่าเทียบเรือองค์การสะพานปลา ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต


การขนย้ายของกลางดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่นายทนงศักดิ์ รักษาวงศ์ กรรมการบริษัท สยามทูน่า ฟิชเชอรรี่ จำกัด บริษัทเจ้าของเรือประมงทูน่า มุกอันดามัน 018 และมุกอันดามัน 028 ได้ร้องกับไปยังกรมประมง เพื่อขอให้ดำเนินการรับของกลางดังกล่าวไปดูแลแทนหลังได้รับความเดือดร้อนหลังถูกจับกุมดำเนินคดีกว่ายาวนานกว่า 7 เดือน ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายค่า ทั้งค่าใช้จ่ายลูกเรือ และน้ำมันเรือที่ใช้สตาร์ตเครื่องเพื่อทำความเย็นไม่ให้ทูน่าที่อยู่ในเรือเน่าเสีย โดยเฉพาะเรื่องน้ำมันเรือที่ต้องสตาร์ตเครื่องไว้สำหรับเครื่องทำความเย็นให้ปลาทูน่าที่มีอยู่กว่า 278,033 กิโลกรัม หรือประมาณ 2,700 กว่าตัน ให้อยู่ในความเย็นไม่ต่ำกว่า 50 องศา ทำให้ต้องใช้ค่าน้ำมันที่สูงเฉลี่ยวันละ 50,000 บาท ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายไปแล้วกว่า 11,070,000 บาท หลังจากแบกภาระต่อไปไม่ไหว จึงหยุดเดินเครื่องทำความเย็นเรือหลังน้ำมันเรือถังสุดท้ายหมดลง เมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา


จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ทราบว่า น่าจะใช้เวลาประมาณ 3-4 วัน ในการขนย้ายของกลางทั้งหมดแล้วเสร็จ ซึ่งขณะนี้ภายในเรือทั้ง 2 ลำ ถึงแม้จะมีการดับเครื่องไประยะเวลาหนึ่งแต่ภายในเรือยังมีอุณหภูมิประมาณลบ 30 องศา ปลาของกลางจึงยังไม่เน่าเสีย เมื่อนำขึ้นมาใส่รถบรรทุกก็จะต้องเร่งนำเข้าส่งห้องเย็นอย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม สำหรับของกลางดังกล่าว กรมประมงจะเป็นผู้รับไปดูแลต่อ โดยจะเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องค่าเช่าห้องเย็นสำหรับจัดเก็บ ไปจนกว่าคดีจะสิ้นสุด



ที่มา Data & Images -