ข่าว:

คุณ ต้องลงทะเบียนสมัครสมาชิกก่อน ตอบกระทู้หรือตั้งคำถามใหม่ นะครับ

Main Menu

มาเลเซียลงนามข้อตกลงทางเรือปักกิ่ง-สัญญาแก้ไขข้อพิพาททะเลจีนใต้แบบทวิภาคี

เริ่มโดย mrtnews, พ.ย 03, 16, 06:29:18 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

รอยเตอร์ - มาเลเซียตกลงซื้อเรือของกองทัพเรือจีน 4 ลำและให้สัญญากับปักกิ่งว่าจะจัดการกับข้อพิพาททะเลจีนใต้แบบทวิภาคี จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่แดนมังกรในวันอังคาร(1 พ.ย. 59) ความเคลื่อนไหวล่าสุดของปักกิ่งในการตอบโต้สหรัฐฯที่พยายามแผ่อิทธิพลในภูมิภาคแถบนี้


กองเรือดังกล่าวเป็นเรือขนาดเล็กที่ใช้ในปฏิบัติการใกล้ชายฝั่ง โดย 2 ลำจะสร้างในจีนและอีก 2 ลำจะสร้างในมาเลเซีย ตามรายงานของสื่อแห่งรัฐแดนเสือเหลือง หลังเสร็จสิ้นการประชุมระหว่างนายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีนและนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัคแห่งมาเลเซีย

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กระทรวงกลาโหมมาเลเซียโพสต์ลงบนสื่อสังคมออนไลน์ เผยว่าประเทศของเขาจะลงนามในสัญญาซื้อเรือลาดตระเวนจากจีนระหว่างการเยือนทางเยือนจีนเป็นเวลา 1 สัปดาห์ของนายนาจิบ ซึ่งเริ่มตั้งแต่เมื่อวันอาทิตย์(30 ต.ค. 59) อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมาโพสต์ดังกล่าวถูกลบออกไป

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวนับเป็นข้อตกลงกลาโหมที่มีความสำคัญฉบับแรกที่มาเลเซียทำกับจีน ในช่วงเวลาที่ความตึงเครียดในทะเลจีนใต้พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ

"ผู้นำของทั้งสองประเทศ เห็นพ้องเดินหน้าสู่การคลี่คลายประเด็นทะเลจีนใต้อย่างเหมาะสมด้วยการเจรจาผ่านช่องทางทวิภาคี" หลิว เจิ้นหมิน บอกกับผู้สื่อข่าว หลังนายหลี่พบปะกับนายนาจิบ ที่มหาศาลาประชาชนในกรุงปักกิ่ง "แน่นอนว่า การเริ่มต้นแห่งความร่วมมือทางกองทัพเรือระหว่างสองประเทศมีความสำคัญยิ่งต่อความสัมพันธ์ทวิภาคีของเขา สะท้อนความไว้วางใจทางการเมืองซึ่งกันและกันในระดับสูงระหว่างสองประเทศ" อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดอื่นๆ

กองเรือภารกิจชายฝั่งดังกล่าวมีลานจอดเฮลิคอปเตอร์บนเรือและติดตั้งขีปนาวุธ มันมักถูกใช้งานด้านความมั่นคงทางชายฝั่ง ตรวจการณ์และลาดตระเวนทางทะเลเป็นส่วนใหญ่ แต่ขณะเดียวกันก็สามารถเข้าปฏิบัติภารกิจด้านบรรเทาภัยพิบัติ ค้นหาและช่วยเหลือได้ด้วย

จีนอ้างกรรมสิทธิ์เหนือพื้นที่เกือบทั้งหมดของทะเลจีนใต้ แต่บรูไน, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, ไต้หวัน และ เวียดนาม ก็อ้างกรรมสิทธิ์เหนือพื้นที่บางส่วนในน่านน้ำทางยุทธศาสตร์ ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งสินค้ามูลค่าปีละ 5 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี

การเดินทางเยือนของนายนาจิบ มีขึ้นตามหลังประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต แห่งฟิลิปปินส์ ประกาศแยกตัวจากสหรัฐฯ และลงนามในบันทึกความเข้าใจต่างๆนานา สำหรับการลงทุนของจีนในประเทศของเขา

การหันหน้าเข้าหาจีนของมาเลเซียมีขึ้นท่ามกลางความสัมพันธ์ตึงเครียดกับสหรัฐฯ หลังจากกระทรวงยุติธรรมอเมริกายื่นฟ้องร้องอันเกี่ยวกับการสืบสวนการฟอกเงินของกองทุน 1MDB ซึ่งมี นายนาจิบ ดำรงตำแหน่งเป็นประธานกรรมการที่ปรึกษา

นายนาจิบ ปฏิเสธการแทรกแซงของต่างชาติในกิจการของมาเลเซียและตั้งคำถามว่าทำไมสหรัฐฯ ถึงเผยแพร่ประเด็นนี้ต่อสาธารณชน ทั้งนี้เขาปฏิเสธว่าตนเองไม่ได้ทำอะไรผิดและบอกว่ามาเลเซียจะให้ความร่วมมือกับคณะสืบสวนนานาชาติ

ทั้งสองประเทศยังลงนามในข้อตกลงต่างๆสำหรับโครงการความร่วมมือสร้างรางรถไฟในมาเลเซีย ในนั้นรวมถึงโครงการเส้นทางรถไฟชายฝั่งตะวันออกมูลค่า 13,200 ล้านดอลลาร์

นายกรัฐมนตรีมาเลเซียเปิดเผยกับเบอร์นามา สื่อมวลชนแดนเสือเหลือง ว่าทั้งสองประเทศประสบความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์ด้วยการลงนามในข้อตกลง 14 ฉบับ มูลค่าโดยรวม 143,640 ล้านริงกิต(ราว 34,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)



ที่มา Data & Images -




"มาเลเซีย" จับมือ "จีน" เซ็นสัญญาโครงสร้างพื้นฐานและความมั่นคง เล็งยกระดับ "จีน-อาเซียน"

สำนักข่าว "ซินหัว" ของจีน รายงานว่า เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 59 นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และ นายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ได้เซ็นสนธิสัญญาด้านกลาโหมฉบับสำคัญ โดยเนื้อหาครอบคลุมความร่วมมือทั้งในเรื่องของรางรถไฟ พลังงาน การป้องกัน และการพัฒนาร่วมกันด้านกองทัพเรือของมาเลเซีย โครงสร้างพื้นฐาน เกษตรกรรม การศึกษา ภาษี การตรวจสอบคุณภาพสินค้าด่านศุลกากร ในระหว่างการมาเยือนกรุงปักกิ่งของนายนาจิบ โดยการตกลงเกิดขึ้นหลังจากการหารือระหว่าง 2 นายกรัฐมนตรีฯ


โดยนายหลี่กล่าวว่า เขาต้องการร่วมงานกับกลุ่มประเทศอาเซียน เพื่อสร้างความเข้มแข็งระหว่างกลุ่มเพื่อนบ้านให้เติบโต ยั่งยืน และเจริญยิ่งขึ้น โดยจีนจะเชื่อมประเทศกับมาเลเซียจากการสร้างกลยุทธ์การพัฒนา เริ่มจากโครงการนำร่องความร่วมมือด้านอุตสาหกรรม และในอนาคต นายหลี่คาดหวังจะได้ร่วมมือเพิ่มเติมในเรื่องสินเชื่อ การบังคับใช้กฎหมาย ความมั่นคงและวัฒนธรรม

"จีนและมาเลเซียยกระดับความร่วมมือด้านการรถไฟ โดยเฉพาะรางรถไฟความเร็วสูงเพื่อสร้างความเข้มแข็งในการเชื่อมโยงประเทศในภูมิภาค" นายหลี่กล่าว

ทั้งนี้ นายราจิบได้กล่าวว่า การจับมือกับจีนครั้งนี้ ถือเป็นเรื่องที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความร่วมมือที่ไปได้สวยในเขตอุตสาหกรรม ทั้งในกวนตันและมะละกา และจะยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างจีนและอาเซียน เพื่อการพัฒนาที่ดีขึ้นในภูมิภาค



ที่มา Data & Images -