ข่าว:

รับสมัครเฉพาะชาวเรือและผู้ที่สนใจที่เป็นคนไทยเท่านั้น สมัครแล้วรออนุมัติประมาณ 2-3 วัน หากต้องการด่วนโปรดแจ้ง webmaster@marinerthai.net

Main Menu

ฮินเหลียง เทรดดิ้ง บริษัทค้าน้ำมันอิสระใหญ่สุดในสิงคโปร์

เริ่มโดย mrtnews, ส.ค 27, 13, 19:12:11 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

ฮินเหลียง เทรดดิ้ง (Hin Leong Trading) เป็นบริษัทค้าขายน้ำมันอิสระใหญ่ที่สุดในประเทศสิงคโปร์  เป็นบริษัทสัญชาติเมืองลอดช่องเพียงแห่งเดียวที่สามารถแข่งกับบริษัทน้ำมันระดับยักษ์ใหญ่ของโลก ทั้งเอ็กซอน-โมบิล เชลล์ บีพี ในตลาดน้ำมันสิงคโปร์ซึ่งเป็นตลาดค้าขายน้ำมันใหญ่อันดับ 3 ของโลกได้อย่างสมศักดิ์ศรี


ฮินเหลียง เทรดดิ้ง เป็นบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นโดยนายลิม อูน ควิน (Lim Oon Kuin) ปัจจุบันอายุ 70 ปี เริ่มก่อตั้งบริษัทตั้งแต่ปี 2506 โดยมีรถบรรทุกเก่า ๆ คันเดียวใช้ขนน้ำมันส่งเรือประมง ล่าสุดนิตยสารฟอร์บส์ระบุว่านายลิม เป็นมหาเศรษฐีคนหนึ่งของสิงคโปร์มีสินทรัพย์สุทธิ 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 45,000 ล้านบาท) เป็นเจ้าของคลังน้ำมันและท่าเทียบเรือน้ำมันใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชีย

นายลิม ได้รับฉายาจากแวดวงนักธุรกิจในเมืองสิงคโปร์ว่า "มิสเตอร์โอเค ลิม" เนื่องจากเป็นนักธุรกิจที่มีความชาญฉลาดมากที่สุดคนหนึ่ง เกิดในครอบครัวยากจนที่มณฑลฮกเกี้ยนของประเทศจีน เดินทางตามบิดาที่มาขุดทองที่ประเทศสิงคโปร์เมื่อมีอายุเพียง 12 ปี พบว่าบิดาเป็นชาวประมงที่ยากจนมีเรือหาปลาเพียงลำเดียว ไม่มีเงินพอที่จะซื้อกางเกงขายาวให้นายลิมใส่ด้วยซ้ำ

ด้วยความเป็นนักธุรกิจของนายลิมขณะที่ทำงานเป็นเด็กช่วยงานในร้านซ่อมรถยนต์ มองเห็นโอกาสในการทำธุรกิจเพราะว่าชาวประมงต้องไปซื้อน้ำมันดีเซลจากปั๊มน้ำมันที่อยู่ไกลออกไป จึงตัดสินใจซื้อรถบรรทุกเก่า ๆ มาคันหนึ่งและใช้ขนน้ำมันดีเซลจากปั๊มน้ำมัน ไปขายปลีกให้กับเรือประมง

ในปี 2506 ขณะที่มีอายุครบ 20 ปี นายลิม ตั้งบริษัทฮินเหลียง เทรดดิ้งฯ ทำธุรกิจขนน้ำมัน โดยยังคงขายน้ำมันให้ชาวประมงอยู่และตัดสินใจทำธุรกิจขนส่งน้ำมันเป็นอาชีพเลี้ยงตัว สามารถขยายจากรถบรรทุกลงทะเลเป็นเรือขนน้ำมันในปี 2511 หลังจากที่เก็บเงินได้มากพอซื้อเรือขนน้ำมันเก่า ๆ มาลำหนึ่งชื่อ Sea Lion ขนาดระวางขับน้ำ 100 ตัน

ภายในปี 2516 กิจการขนส่งน้ำมันทางเรือของฮินเหลียง เทรดดิ้ง ได้ขยายตัวไปสู่ธุรกิจตัวแทนหาเรือเพื่อขนส่งผลิตภัณฑ์น้ำมันระหว่างสิงคโปร์และประเทศจีนโดยได้รับออร์เดอร์ให้หาเรือเพื่อขนน้ำมันดิบจากประเทศจีนมากลั่นที่สิงคโปร์และขนน้ำมันสำเร็จรูปกลับประเทศจีน และยังเป็นตัวแทนหาเรือเพื่อสนับสนุนกิจการแท่นขุดเจาะหาน้ำมันและก๊าซของบริษัทพลังงานชาติตะวันตกที่เข้ามาหากินในแถบเอเชียอาคเนย์และทะเลจีนใต้

กิจการของฮินเหลียงได้ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ด้วยความสามารถและสายตาที่ยาวไกลของนายลิม ทำให้ภายในปี 2530 ฮินเหลียง เทรดดิ้ง ได้กลายเป็น 1 ใน 2 บริษัทสัญชาติสิงคโปร์ที่ได้รับการอนุมัติเป็น ผู้ค้าน้ำมันได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการจากหน่วยงานราชการของสิงคโปร์ โดยรายอื่น ๆ ที่เหลือเป็นบริษัทน้ำมันระดับ 'เมเจอร์' ของโลกทั้งสิ้น

หลังจากที่นายลิม ตั้งบริษัทมาได้ 40 ปี ฮินเหลียง เทรดดิ้ง ได้กลายเป็นผู้ค้าน้ำมันอิสระใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ มีเรือขนน้ำมันกว่า 100 ลำ ระวางขับน้ำรวมกันกว่า 8 ล้านตัน ในนามบริษัท โอเชี่ยน แทงเกอร์สฯ และมีคลังเก็บน้ำมันขนาดใหญ่ กิจการในเครือมียอดเงินซื้อขายน้ำมันเป็นมูลค่า 14,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี(420,000 ล้านบาท) กลายเป็นขาใหญ่ในวงการค้าน้ำมันรายหนึ่งระดับเดียวกับบริษัทน้ำมันระดับเมเจอร์ของโลกในตลาด
สิงคโปร์

ในปี 2540 ช่วงที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง นายลิม ได้สร้างปรากฏการณ์ที่ทำให้วงการค้าน้ำมันต้องบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์เพราะว่านายลิม ใช้เวลา 3 เดือน ซื้อน้ำมันเครื่องบินและน้ำมันดีเซล รวมถึง 30 ล้านบาร์เรล มูลค่ากว่า 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯเป็นการซื้อล็อตใหญ่สุดของตลาดที่จนปัจจุบันนี้ยังไม่มีใครรู้ว่า นายลิมขายทุนหรือกำไรในดีลครั้งนั้น

ตัวนายลิมเอง ในการให้สัมภาษณ์ในภายหลังไม่เปิดเผยถึงเรื่องการค้าขายระดับอภิมหาบิ๊กล็อตในครั้งนั้นว่าได้กำไรหรือขาดทุนแต่ได้กล่าวว่าความสำเร็จของเขาในอดีตเกิดจากที่เขามีกองเรือของตัวเอง

นายลิม รุกเข้าสู่ธุรกิจคลังน้ำมันในปี 2549 โดยตั้งบริษัท ยูนิเวอร์แซล เทอร์มินัลฯ ลงทุนก่อสร้างคลังน้ำมันพร้อมท่าเรือที่เกาะจูร่งในพื้นที่ 56 เฮกตาร์ ซึ่งเท่ากับสนามฟุตบอลมาตรฐานสากล 60 สนาม มีกำลังการเก็บสต๊อกน้ำมันถึง 14.5 ล้านบาร์เรล ซึ่งใหญ่สุดในทวีปเอเชีย หลังจากสร้างเสร็จแล้วดึงบริษัทเปโตรไชน่าของจีนเข้าร่วมทุนถือหุ้น 35% เป็นการสร้างสัมพันธ์เพื่อรุกต่อเข้าจีน


หลังจากรุกเข้าสู่ธุรกิจคลังน้ำมันแล้ว ในปี 2555 นายลิมประกาศขยายกิจการในแนวตั้งเข้าสู่กิจการโรงกลั่นน้ำมันและปิโตรเคมี โดยเดินเรื่องขออนุญาตรัฐบาลสิงคโปร์สร้างคอมเพล็กซ์โรงกลั่นน้ำมันโรงที่ 4 ของสิงคโปร์ขนาดการกลั่น 300,000-500,000 บาร์เรล ตั้งอยู่ใกล้กับคลังน้ำมันของบริษัท ยูนิเวอร์แซล เทอร์มินัลฯใช้เงินลงทุน 6,500-8,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 195,000-240,000 ล้านบาท)

ระหว่างที่รอให้รัฐบาลสิงคโปร์อนุมัติให้สร้างโรงกลั่นน้ำมันโรงที่ 4 ในประเทศ นายลิมได้รุกเข้าประเทศจีนโดยขออนุญาตรัฐบาลกลางจีนเพื่อสร้างคลังน้ำมันขนาดใหญ่แบบเดียวกับคลังน้ำมันของยูนิเวอร์แซล เทอร์มินัลที่อ่าว Meizhou Bay ตอนใต้ของมณฑลฮกเกี้ยนบ้านเกิด มีกำลังการเก็บสต๊อกน้ำมัน 10 ล้านบาร์เรล วงเงินลงทุนประมาณ 1,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (51,000 ล้านบาท)

ต้นปี 2556 กลุ่มบริษัท ฮินเหลียงฯ ประกาศลงทุน 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 90,000 ล้านบาท) ทั่วเอเชีย โดยมีโครงการสร้างคลังน้ำมันและท่าเรือในประเทศ ติมอร์เลสเต (ติมอร์ตะวันออก) ในวงเงิน 2,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนที่เหลือจะลงทุนในจีน อินโดนีเซีย และเมียนมาร์ เพื่อสร้างเครือข่ายคลังและระบบจัดจำหน่ายน้ำมัน โดยเฉพาะในเมียนมาร์จะสร้างเครือข่ายปั๊มน้ำมันค้าปลีกด้วย

สื่อในสิงคโปร์รายงานว่า นายลิม แม้อายุ 70 ปีแล้วและโอนงานให้ลูกทำแล้ว แต่ยังเข้าออฟฟิศทุกวันตอน 10 โมงเช้า โดยให้สัมภาษณ์ว่า "มันเข้าไปอยู่ในสายเลือดแล้ว ทำให้ต้องวนเวียนอยู่เพื่อดูแลลูก 3 คน ให้ทำธุรกิจนี้โดยไม่พลาด" และเมื่อถูกถามจากนักข่าวว่าเมื่อไหร่จะวางมือจากธุรกิจราชาน้ำมันระดับเมเจอร์ชาวสิงคโปร์ ตอบว่า "พรุ่งนี้"

คอลัมน์ : ยักษ์ธุรกิจเออีซี /  วิชัย สุวรรณบรรณ

ที่มา -