เรือรบสหรัฐลำที่ 6 ประชิดซีเรีย สหรัฐโวติดขีปนาวุธถล่มได้แม่นยำ

[mrtnews]

เรือรบลำที่ 6 ประชิดซีเรีย ติดขีปนาวุธ สหรัฐโวถล่มได้แม่นยำ "โอบามา" กางแผนที่รบขีดวงจำกัดเพื่อสั่งสอนไม่ส่งทหารภาคพื้นดิน

ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ เตรียมพิจารณาโจมตีซีเรียอย่างจำกัด ตอบโต้ใช้อาวุธเคมีสังหารพลเรือน ส่งเรือรบลำที่ 6 เข้าทะเลเมดิเตอเรเนียน ด้านคณะเจ้าหน้าที่ตรวจสอบสหประชาชาติ เดินทางข้ามพรมแดนจากซีเรียเข้าไปในเลบานอนแล้ว หลังเสร็จสิ้นภารกิจตรวจสอบข้อกล่าวหาซีเรียใช้อาวุธเคมี

ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า สหรัฐพิจารณาแล้วว่า จะปฏิบัติการทางทหารโจมตีซีเรียในวงจำกัด แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจขั้นสุดท้ายว่า จะเริ่มโจมตีเมื่อใด แต่ยืนยันว่า จะไม่ส่งทหารอเมริกันเข้าไปสู้รบภาคพื้นดินในซีเรีย หวังสร้างความมั่นใจให้ชาวอเมริกันที่กังวลว่าสหรัฐจะเข้าไปพัวพันสงครามในซีเรีย หลังจากที่ต้องส่งทหารเข้าไปในอิรักและอัฟกานิสถานในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา

ผู้นำสหรัฐบอกว่าอยากปฏิบัติการในซีเรียเป็นปฏิบัติการร่วมจากหลายประเทศ ผู้คนจำนวนมากเห็นว่าจะต้องทำอะไรสักอย่างกับซีเรีย แต่เอาเข้าจริงแล้วกลับไม่มีใครอยากจะทำ อย่างไรก็ตาม ผู้นำสหรัฐได้ยืนยันอย่างหนักแน่นว่า การใช้อาวุธเคมีกับพลเรือนซีเรียถือเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของสหรัฐ เพราะเป็นการฝ่าฝืนแนวทางปฏิบัติของนานาชาติ

ก่อนหน้านี้ นายจอห์น แคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ยืนยันว่า จากข้อมูลที่เชื่อถือได้ที่หน่วยข่าวกรองสหรัฐรวบรวมมา ทำให้มั่นใจได้ว่า กองกำลังรัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีโจมตีประชาชนนอกกรุงดามัสกัส เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 1,429 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 426 คน นับเป็นความโหดร้ายที่ไม่น่าเชื่อ ซึ่งสหรัฐจะไม่รอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอาวุธของยูเอ็นทำงานเสร็จสิ้นว่า รัฐบาลซีเรียโจมตีประชาชนด้วยอาวุธเคมีจริงหรือไม่ เพราะสหรัฐได้ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นแล้ว

เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐเปิดเผยว่า ได้ส่งเรือรบยูเอสเอส ซานแอนโตนิโอ (USS San Antonio) ซึ่งสะเทินน้ำสะเทินบก และมีนาวิกโยธินสหรัฐประจำการอยู่หลายร้อยนาย เข้าไปปฏิบัติการทางตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนแล้ว ใกล้กับเรือพิฆาตบรรทุกขีปนาวุธ 5 ลำที่สหรัฐส่งไปก่อนหน้านี้ เพื่อเตรียมโจมตีซีเรีย อันเป็นส่วนหนึ่งของการโจมตีที่จำกัดและต้องการความแม่นยำต่อเป้าหมายการโจมตีสูง ถือเป็นเรือรบลำที่ 6 ของสหรัฐได้แล่นเข้าไปในน่านน้ำดังกล่าวตามแผนที่เตรียมไว้นานแล้ว พร้อมเปิดเผยว่า สหรัฐไม่มีแผนที่จะส่งนาวิกโยธินเหล่านี้ขึ้นบกเพื่อดำเนินการโจมตีซีเรียแต่อย่างใด เนื่องจากเรือดังกล่าวเป็นเรือบรรทุกขีปนาวุธนำวิถีที่สามารถค้นหาเป้าหมายที่อยู่ห่างออกไปหลายร้อยไมล์ โดยไม่จำเป็นต้องมีกำลังสนับสนุนจากทางอากาศ หรือภาคพื้นดิน

ขณะที่คณะเจ้าหน้าที่ตรวจสอบสหประชาชาติ หรือยูเอ็น จำนวน 13 คน เดินทางข้ามพรมแดนจากซีเรียเข้าไปในเลบานอนแล้วเมื่อวานนี้ (31 ส.ค.) หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจตรวจสอบข้อกล่าวหาการใช้อาวุธเคมีของรัฐบาลซีเรียต่อพลเรือนชาวซีเรียใกล้กรุงดามัสกัส โดยได้รับการคุ้มกันจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของเลบานอน ขณะที่การวิเคราะห์ตัวอย่างสารเคมีที่รวบรวมมาได้จะต้องใช้เวลาถึง 2 สัปดาห์ ก่อนส่งรายงานให้กับนายบัน คีมูน เลขาธิการสหประชาชาติ การเดินทางออกจากซีเรียของคณะผู้ตรวจสอบฯ ยิ่งเพิ่มกระแสคาดการณ์ว่า นานาชาติอาจเตรียมการโจมตีทางทหารต่อรัฐบาลซีเรียในเร็วๆ นี้

ขณะที่คณะมตรีความมั่นคงสหประชาชาติ ไม่มีแนวโน้มว่า จะเห็นชอบการใช้ปฏิบัติการทางทหารเข้าแทรกแซง เนื่องจากรัสเซีย สมาชิกถาวรคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ ซึ่งเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดกับรัฐบาลซีเรีย รวมทั้งจีนอาจใช้สิทธิ์ยับยั้งมติดังกล่าว

ด้านรัฐบาลซีเรีย ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาของนายแคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ โดยบอกว่า หน่วยข่าวกรองสหรัฐใช้ข้อมูลเก่าที่ตีพิมพ์โดยกลุ่มก่อการร้ายเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่อ้างว่ารัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีโจมตีประชาชน ถือเป็นการป้ายความผิดให้รัฐบาลซีเรียเพื่อให้สหรัฐหาเหตุเข้ามารุกรานเช่นเดียวกับที่อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ คอลิน พาวเวลล์ เคยทำเช่นเดียวกันเมื่อก่อนเปิดสงครามรุกรานอิรัก ซึ่งในภายหลังประชาคมโลกก็ตระหนักว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวล้วนเป็นเรื่องเท็จ

ขณะที่กลุ่มอัล นูจาบา ซึ่งเป็นการรวมตัวของกลุ่มติดอาวุธนิกายชีอะห์ในอิรักประกาศว่า จะทำลายผลประโยชน์ของสหรัฐในอิรักและภูมิภาค หากสหรัฐใช้ปฏิบัติการทางทหารโจมตีซีเรีย สมาชิกกลุ่มอัล นูจาบามัก ข้ามพรมแดนเข้าไปช่วยกองกำลังภักดีต่อประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ของซีเรีย นายอัสซาดเป็นมุสลิมนิกายอะลาไวต์ ซึ่งแยกมาจากมุสลิมนิกายชีอะห์

ที่มา -



สหรัฐส่งเรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส นิมิตซ์จ่อซีเรียอีกลำ

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐ เมื่อวันที่ 2 ก.ย.ว่า เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐ เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า เรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์ ยูเอสเอส นิมิตซ์ และกลุ่มเรือรบอื่น ๆ มุ่งหน้าตะวันตกสู่ทะเลแด เพื่อช่วยสนับสนุนภารกิจการโจมตีซีเรียอย่างจำกัดของกองทัพสหรัฐ หากจำเป็น โดยเรือยูเอสเอส นิมิตซ์ พร้อมเรือบริวาร ซึ่งประกอบด้วยเรือพิฆาต 4 ลำ และเรือลาดตระเวน 1 ลำ ไม่ได้รับคำสั่งเจาะจงในเคลื่อนกำลังไปยังฝั่งตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน แต่กำลังมุ่งหน้าไปทางตะวันตกในทะเลอาระเบีย เพื่อเตรียมความพร้อมหากได้รับการร้องขอ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความชัดเจนว่า เรือรบสหรัฐจะเข้าสู่ทะเลแดงเมื่อไหร่

ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐ ชะลอการโจมตีด้วยขีปนาวุธร่อนจากเรือพิฆาต 5 ลำ ที่ลอยลำเตรียมพร้อมอยู่นอกชายฝั่งซีเรียในนาทีสุดท้าย และหันไปขอให้รัฐสภาลงมติเห็นชอบ ซึ่งต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 9 วัน

กองทัพเรือสหรัฐเพิ่มเรือรบเข้าประจำการในชายฝั่งด้านตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเป็น 2 เท่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว  โดยขณะนี้ มีเรือพิฆาตประจำการอยู่ 5 ลำ พร้อมขีปนาวุธโทมาฮอว์ก รวมกันประมาณ 200 ลูก ปกติแล้ว

ที่มา -

[youtube=640,390]http://www.youtube.com/watch?v=GuVvb2w2Tsg[/youtube]

[youtube=640,390]http://www.youtube.com/watch?v=3NBTQHR7Cxg[/youtube]