หุ้นเดินเรือวิ่งลุ้น อุตสาหกรรมเดินเรือฟื้นตัวพ้นจุดต่ำสุดแล้ว

[mrtnews]

ราคาหุ้นกลุ่มเดินเรือขยับบวกรับข่าวคาดการณ์อุตสาหกรรมเดินเรือพ้นจุดต่ำสุดแล้ว และกำลังฟื้นตัว จุฑานาวี หวังปีนี้รายได้โตเกิน 5%

สำรวจราคาหุ้นกลุ่มเดินเรือในตลาดหลักทรัพย์ 5 บริษัท พบว่าราคาซื้อขายหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเดือน ต.ค. 2556 พบว่า ราคาหลักทรัพย์หุ้นในกลุ่มเดินเรือปรับตัวเพิ่มขึ้น และมีมูลค่าการซื้อขายเข้ามาอย่างต่อเนื่อง หุ้นที่ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นมากสุดในช่วงเดือนต.ค. ที่ผ่านมาคือบริษัท จุฑานาวี (JUTHA) ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น 19.89%

นายชเนศร์ เพ็ญชาติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จุฑานาวี เปิดเผยว่า ราคาหุ้นที่ปรับเพิ่มขึ้นน่าจะมาจากกรณีที่บริษัทเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับนักลงทุนเฉพาะเจาะจง จำนวน 22.45 ล้านหุ้น โดยนักลงทุนที่เข้ามาซื้อกลุ่มปานบุญห้อม ซึ่งเป็นผู้บริหาร บริษัท ซีออยล์ หรือ SEAOIL อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีการหารือกันระหว่างผู้ถือหุ้นเดิม คือกลุ่มเพ็ญชาติ และกลุ่มปานบุญห้อม

ภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจงครั้งนี้ กลุ่มเพ็ญชาติ ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ในสัดส่วน 30% ขณะที่กลุ่มปานบุญห้อม เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 2 ถือหุ้นในสัดส่วน 20% ทั้งนี้ ในฐานะผู้ถือหุ้นอันดับ 1 ยืนยันว่ายังไม่มีนโยบายลดสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท

นายชเนศร์ กล่าวว่า แนวโน้มผลประกอบการปีนี้ บริษัทยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะมีกำไรสุทธิหรือไม่ โดยในงวด 6 เดือนแรก มีรายได้รวม 214.55 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.64% จากงวดเดียวกันปีก่อน และขาดทุนสุทธิ 8.18 ล้านบาท จากงวดเดียวกันปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 27.33% อย่างไรก็ตาม ในส่วนของรายได้รวมปีนี้ คาดว่าจะเติบโตกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 5% เนื่องจากเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัว ทำให้ธุรกิจขนส่งทางเรือดีขึ้นเช่นกัน

"เชื่อว่าจุดต่ำสุดของอุตสาหกรรมเดินเรือได้ผ่านไปแล้ว ปีหน้ารายได้รวมจะเติบโตกว่าปีนี้ตามการฟื้นตัวของอุตสาหกรรม สัญญาณด้านซัพพลายพบว่ากองเรือมีลดลง เรือที่ส่งไปสแครบสูงเป็นประวัติการณ์ ปีหน้าก็ขึ้นอยู่กับดีมานด์แล้วว่าจะฟื้นตัวมากน้อยแค่ไหน ส่วนกำไรสุทธิเชื่อว่าในปี 2557 จะมีกำไรได้อย่างแน่นอน" นายชเนศร์กล่าว

นักวิเคราะห์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า มีมุมมองเป็นบวกต่อกลุ่มเรือเทกอง เพราะเห็นสัญญาณของราคาสั่งซื้อต่อเนื่องใหม่ฟื้นตัวต่อเนื่อง เฉลี่ย 6.9% จากจุดต่ำสุด ซึ่งสะท้อนความมั่นใจของผู้ประกอบการที่สูงขึ้นในระยะยาว แม้ขนาดอุปทานเรือเทกองรวมของโลกจะมีขนาดใหญ่กว่าช่วงสูงสุด (peak) ในปี 2551 กว่า 60% ก็ตาม ขณะที่ในระยะสั้น เรือส่วนใหญ่ได้กลับสู่ตลาดเพื่อหารายได้เกือบทั้งหมดแล้ว ทั้งนี้ ได้ปรับสมมติฐานดัชนีค่าระวางเรือ หรือ Baltic Dry Index: BDI เฉลี่ยในปี 2557 ขึ้น 54% เป็น 2,000 จุด ส่งผลให้บริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง (PSL) และโทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ (TTA) จะพลิกกลับมามีกำไรจากการดำเนินงานได้ในปี 2557

นักวิเคราะห์ กล่าวว่า ปัจจุบันขนาดกองเรือเทกองโลกอยู่ที่ราว 708 ล้านเดทเวทตัน ขนาดใหญ่กว่าเมื่อปี 2551 ซึ่ง BDI ทำจุดสูงสุดในประวัติศาสตร์ 11,793 จุด อยู่ราว 61% ซึ่งแม้ว่าเรือเทกองที่สั่งต่อไว้ก่อนหน้า จะยังคงรอเข้าสู่ตลาด 114 ล้านเดทเวทตัน หรือราว 16% ของอุปทานทั้งหมดในช่วง 2 ปีนี้ ทั้งนี้ คิดว่าผู้ประกอบการขนส่งเรือเทกองน่าจะเริ่มมองถึงการตึงตัวในตลาดเรือหลังจากนี้ในอีก 2 ปีข้างหน้า จึงเริ่มมีการสั่งต่อเรือใหม่กันอีกครั้ง ซึ่งก็น่าจะบรรจบกับการสิ้นสุดปัญหาเศรษฐกิจ สหรัฐ ยุโรป ญี่ปุ่น หรือ จีน พอดี

อย่างไรก็ตาม กลุ่มเดินเรือยังมีความเสี่ยง คือค่าระวางล่วงหน้าสะท้อนภาพว่าในไตรมาส 1/2557 ค่าระวางมีแนวโน้มปรับตัวลง ซึ่งเป็นผลของฤดูกาลขนส่งที่ชะลอตัวลงในช่วงตรุษจีนทุกๆ ปี

ที่มา -