'โสมขาว'โชว์ยิง'จรวดร่อน'รุ่นใหม่ คุยแม่นยำถล่มสนง.ผู้นำโสมแดงได้

[mrtnews]

เอเจนซี/เอเอฟพี - เกาหลีใต้และญี่ปุ่นต่างแสดงท่าทีในวันพฤหัสบดี (14ก.พ.)ว่า พร้อมตอบโต้อย่างแข็งกร้าวหากเชื่อว่ากำลังจะถูกศัตรูโจมตีแล้ว โดยที่โสมขาวเปิดตัวจรวดร่อนที่นำเข้าประจำการรุ่นใหม่ และพูดชัดๆ ว่า มีศักยภาพที่จะถล่มใส่ที่ทำการของพวกผู้นำโสมแดงได้อย่างแม่นยำ ส่วนรัฐมนตรีกลาโหม อิสึโนริ โอโนเดระ ของญี่ปุ่น ก็ให้สัมภาษณ์ว่า จากภาวะแวดล้อมที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปนี้ ประเทศของตนย่อมมีสิทธิที่จะพัฒนาสมรรถนะในการเปิดฉากเล่นงานใส่ข้าศึกก่อน ทั้งนี้ปฏิกิริยาจากเพื่อนบ้านเหล่านี้บังเกิดขึ้นในเวลา 2 วันภายหลังเปียงยางทดสอบอาวุธนิวเคลียร์คราวล่าสุด

เกาหลีเหนือนั้นทำการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ครั้งที่ 3 ของตนในวันอังคาร(12)ที่ผ่านมา อย่างชนิดท้าทายมติหลายๆ ฉบับของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และทำให้โสมแดงเดินหน้าต่อไปได้อีกในเส้นทางแห่งการพัฒนาขีปนาวุธนิวเคลียร์พิสัยไกลที่สามารถนำมาใช้งานได้จริงๆ ถึงแม้ต้องแลกมาด้วยเสียงประณามจากทั้งสหรัฐฯ, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ยุโรป, และกระทั่งชาติพันธมิตรสำคัญอีกหนึ่งเดียวที่ยังเหลืออยู่ของเปียงยาง ซึ่งก็คือ จีน

เปียงยางระบุว่าการทดสอบคราวนี้มีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มพูนความสามารถในการป้องกันของตน สืบเนื่องจากท่าทีเป็นศัตรูของสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตาม ในวันพฤหัสบดี กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ได้เผยแพร่ภาพวิดีโอการทดสอบยิงจรวดร่อนรุ่นใหม่ของตนจากเรือพิฆาตและเรือดำน้ำเข้าสู่เป้าหมาย อาวุธเหล่านี้ได้รับการตรวจสอบขั้นต้นในเดือนเมษายนปีที่แล้ว และเวลานี้นำเข้าประจำการเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว โดยที่โซลเตือนว่าจะยิงจรวดร่อนเหล่านี้ถ้าหากตนเองถูกโจมตี และได้มีการแก้ไขระเบียบกฎเกณฑ์จนทำให้หน่วยทหารตามชายแดนสามารถยิงตอบโต้ข้าศึกได้โดยตรง ไม่ต้องขออนุมัติจากพวกผู้บังคับบัญชาเหล่าทัพก่อน

"จรวดร่อนที่ได้รับการเปิดตัวในวันนี้เป็นอาวุธที่มีระบบนำทางสู่เป้าหมายอย่างแม่นยำ ซึ่งสามารถระบุและโจมตีใส่หน้าต่างของสำนักงานของคณะผู้นำเกาหลีเหนือได้" คิม มินซุก โฆษกกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้บอกกับผู้สื่อข่าว

ทางด้านญี่ปุ่นนั้นเวลานี้แทบไม่มีศักยภาพอะไรที่จะโจมตีโสมแดงเลย แม้เมื่อถูกเกาหลีเหนือคุกคามจะเข้าถล่ม สืบเนื่องจากความจำกัดของรัฐธรรมนูญฉบับนิยมสันติในปัจจุบัน แต่รัฐมนตรีกลาโหมโอโนเดระ กล่าวในการให้สัมภาษณ์สำนักข่าวรอยเตอร์ในวันพฤหัสบดีว่า ประเทศของตนย่อมมีสิทธิที่จะพัฒนาสมรรถนะดังกล่าวขึ้นมาเพื่อตอบโต้สถานการณ์ด้านความมั่นคงในภูมิภาคที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป ถึงแม้ยังไม่มีแผนการที่จะทำเช่นนั้นในปัจจุบันก็ตาม

"ถ้ามีหลักฐานชัดเจนว่ามีผู้พยายามโจมตีใส่ญี่ปุ่น ภัยคุกคามดังกล่าวกำลังจะเกิดขึ้นแน่นอนแล้ว และไม่มีทางเลือกอื่นๆ อีกแล้ว ในทางกฎหมายญี่ปุ่นก็จะได้รับอนุญาตให้ดำเนินการโจมตีใส่เป้าหมายต่างๆ ของข้าศึกได้" เขาบอก

"เมื่อพิจารณาจากภาวะแวดล้อมทางการเมืองของญี่ปุ่น และการทูตแบบมุ่งสันติภาพซึ่งญี่ปุ่นยึดมั่นอยู่ นี่ยังไม่ใช่เวลาที่จะเตรียมการ (สำหรับการสร้างสมรรถนะดังกล่าว)" รัฐมนตรีกลาโหมญี่ปุ่นระบุ "แต่เราก็จำเป็นที่จะต้องเฝ้าจับตาอย่างระมัดระวังเกี่ยวกับภาวะแวดล้อมด้านความมั่นคงในภูมิภาคนี้ที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป"

อย่างไรก็ตาม สัญญาณใดๆ ที่แสดงให้เห็นว่าญี่ปุ่นกำลังมุ่งหน้าพัฒนาศักยภาพดังกล่าวย่อมจะสร้างความวิตกกังวลให้แก่พวกเพื่อนบ้านอย่างจีนและเกาหลีใต้ ซึ่งยังคงไม่ลืมการรุกรานทางทหารของแดนอาทิตย์อุทัยในอดีตที่ผ่านมา รวมทั้งสหรัฐฯ ซึ่งแสดงบทบาทเป็นผู้ค้ำประกันด้านความมั่นคงให้แก่โตเกียวและโซล 2 พันธมิตรใกล้ชิดของตน ก็ไม่น่ายินยอมให้ความตึงเครียดกับโสมแดงเกิดบานปลายไปอย่างใหญ่โต

ตัวประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯ ได้สื่อสารพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น ในวันพุธ(13) เกี่ยวกับการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ พร้อมกับย้ำยืนยันอีกครั้งถึงพันธะผูกพันของสหรัฐฯต่อความมั่นคงปลอดภัยของญี่ปุ่น

มีรายงานว่า นอกเหนือจากผลักดันจนชาติสมาชิกทั้ง 15 รายของคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น รวมทั้งจีนด้วย ออกคำแถลงที่ยังไม่มีข้อผูกพันใดๆ ในวันพุธ ประณามการทดลอง "นุก" ของโสมแดงแล้ว สหรัฐฯและชาติพันธมิตรยังกำลังเรียกร้องให้คณะมนตรีออกมติที่มีผลผูกพันฉบับใหม่ๆ เพื่อลงโทษคว่ำบาตรเกาหลีเหนือเพิ่มขึ้นด้วย

อนึ่ง คณะกรรมาะการความปลอดภัยและความมั่นคงทางนิวเคลียร์แห่งเกาหลีใต้ แถลงในวันพฤหัสบดีว่า จากการตรวจสอบตัวอย่างบรรยากาศที่เก็บจากพื้นดิน, ทะเล, และอากาศ รวมทั้งสิ้น 8 จุด โดยที่กองทัพโสมขาวได้ส่งเรือรบและเครื่องบินติดตั้งอุปกรณ์พิเศษไปดำเนินการเรื่องนี้ ปรากฏว่า "ยังไม่พบไอโซโทปของสารกัมมันตรังสี" ทำให้ประสบความลำบากมากขึ้นในการระบุชนิดและคุณสมบัติของระเบิดที่โสมแดงทำการทดลองคราวนี้

ที่มา -