ข่าว:

ห้ามโพส ปั่นลิงก์ SEO ในส่วนของ ลายเซ็นสมาชิกเพื่อจะแสดงที่ด้านล่าง ของแต่ละข้อความที่ตอบกระทู้ เช่น คาสิโน บาคาร่า แทงบอล ฯลฯ เด็ดขาด หากพบจะแบนสมาชิกนั้นออกจากบอร์ดทันที

Main Menu

เยียวยาน้ำมันรั่วอืดเป็นเรือเกลือ สาวต้นตอน้ำมันรั่วส่อลามยาว

เริ่มโดย mrtnews, พ.ย 13, 13, 20:00:03 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

นายบวร วงศ์สินอุดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทพีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือพีทีทีจีซี เปิดเผยถึงกรณีท่อน้ำมันรั่วลงทะเลอ่าวไทย และไหลเข้าอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด จ.ระยอง เมื่อเดือน ก.ค. 56 ที่ผ่านมาว่า พีทีทีจีซีได้ตั้งวงเงินเพื่อเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำมันรั่วรวม 7,000 ราย คิดเป็นมูลค่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มทยอยจ่ายให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบไปแล้ว 400 ล้านบาท  และยังมีผู้ที่ทยอยยื่นเรื่องขอรับการช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสาร


สำหรับการนำท่อส่งน้ำมันที่แตกไปตรวจสอบหาสาเหตุนั้น ที่ผ่านมาได้พยายามนำไปตรวจสอบมาตรฐานยังศูนย์วิจัยที่ประเทศสิงคโปร์ แต่ติดปัญหาด้านการขนส่ง ดังนั้น จึงต้องนำกลับมาตรวจสอบในประเทศไทยโดยต้องคัดเลือกบริษัทที่ได้มาตรฐานสากลเข้ามาตรวจสอบ ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆนี้ ส่วนการที่กระทรวงพลังงานกำหนดให้พีทีทีจีซีและบริษัทต่างๆ ต้องเปลี่ยนมาใช้ท่อน้ำมันแบบ 2 ชั้นเพื่อป้องกันท่อแตกในอนาคตนั้น ทางพีทีทีจีซีอยู่ระหว่างดำเนินการแต่ยังไม่สามารถเปลี่ยนได้ทันที เพราะต้องรอการสั่งซื้อและนำเข้าต่อไป


ด้านความคืบหน้าการลงทุนในต่างประเทศของพีทีทีจีซีนั้น ในส่วนของการร่วมทุนกับบริษัทพีทีเปอร์ตามินา ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันแห่งชาติของอินโดนีเซีย มีการกำหนดลงนามในสัญญาร่วมทุนในวันที่ 10 ธ.ค.นี้ โดยมีสัดส่วนการร่วมทุนฝ่ายละ 50% เพื่อดำเนินโครงการปิโตรเคมีครบวงจร ทั้งต้นน้ำ และปลายน้ำ มูลค่าการลงทุน 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทั้งนี้ ภายหลังการลงนามในสัญญาร่วมทุนแล้วจะมีการเจรจากับพันธมิตรทางธุรกิจรายอื่น เข้ามาร่วมลงทุนเป็นรายที่สาม สำหรับการร่วมทุนกับบริษัทชิโนเคม อินเตอร์เนชั่นแนลของประเทศจีน เพื่อร่วมกันศึกษาโอกาสในการร่วมมือขยายธุรกิจปิโตรเคมีนั้น คาดว่าจะได้ข้อสรุปการร่วมทุนภายในเดือน ธ.ค.นี้เช่นกัน


นายบวรกล่าวว่า สำหรับผลประกอบการของบริษัทใน ปี 2557 เชื่อว่าจะดีกว่าปีนี้อย่างแน่นอน เพราะราคาเม็ดพลาสติกในสายโอเลฟินส์ ซึ่งคิดเป็นส่วนรายได้ 55% ของทั้งกลุ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้น แต่ในส่วนของโรงกลั่นน้ำมันอาจจะแย่ เพราะเป็นไปตามที่กำลังการผลิตใหม่จากโรงกลั่นน้ำมันอื่นๆออกมาเพิ่มขึ้น  และบริษัทยังเชื่อว่ากำไรสุทธิในภาพรวมน่าจะดีขึ้นกว่าปีนี้.

ที่มา -