ข่าว:

รับสมัครเฉพาะชาวเรือและผู้ที่สนใจที่เป็นคนไทยเท่านั้น สมัครแล้วรออนุมัติประมาณ 2-3 วัน หากต้องการด่วนโปรดแจ้ง webmaster@marinerthai.net

Main Menu

สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือฯ คาดส่งออกปีนี้โตเพียงร้อยละ 0 - 0.5

เริ่มโดย mrtnews, พ.ย 21, 13, 19:15:56 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ร่วมมือกับสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย จัดสัมมนา "Future Trend and Next Move for Thai Entrepreneur" นายสมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักวิชาการอิสระ กล่าวว่า การเปิดการค้าเสรีจะทำให้การค้าการลงทุนของไทยขยายตัวในอาเซียนมากขึ้น โดยอาจครอบคลุม ด้านการค้าจากประเทศอื่น ๆ นอกเหนือจากอาเซียน เช่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อเมริกา ยุโรป ซึ่งจะทำให้การแข่งขันขยายตัวเพิ่มขึ้น ดังนั้นไทยจะต้องเร่งปรับตัวใน 3 ด้าน คือ 1.สนับสนุนให้ภาคธุรกิจ ย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศอื่น เพื่อลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์และสามารถกระจายสินค้าได้มากขึ้น 2.กำหนดทิศทางอุตสาหกรรมและสินค้าเป้าหมายว่า จะแข่งขันในตลาดใด 3. ปรับปรุงสินค้าระดับกลางด้วยการพัฒนาระบบการศึกษา เพื่อเพิ่มมูลค่าเพิ่ม และปรับปรุงนวัตกรรมการผลิต


ทั้งนี้ ที่ผ่านมาการส่งออกของไทยขยายตัวได้ช้าเมื่อเทียบกับอดีต โดยในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้การส่งออกขยายตัวเพียงร้อยละ 7-8 ขณะที่อดีตขยายตัวร้อยละ 10-20 สะท้อนให้เห็นความสามารถของไทยที่ลดลง เนื่องจากไทยไม่มีการปรับตัวและยังคงส่งออกสินค้าเดิม ๆ ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านมีการปรับปรุงสินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดโลก โดยคาดว่าเศรษฐกิจไทยในปีหน้าจะได้รับประโยชน์จากการรวมตัวด้านเศรษฐกิจน้อย และทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจได้ร้อยละ 4 ส่งออกขยายตัวได้ร้อยละ 5-7

นายสมชาย ระบุว่าเป็นห่วงสถานการณ์การเมืองในปัจจุบันอาจจะมีความร้อนแรง ซึ่งจะมีการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญถอดถอน ส.ว.มองว่าไม่ว่าผลตัดสินจะออกมาเป็นบวกหรือลบก็จะมีความรุนแรงเกิดขึ้น เพราะทั้ง 2 ฝ่ายต่างไม่ยอมกันและไม่รับฟัง รวมถึงไม่เคารพกฎกติกาตามกฎหมาย ส่งผลให้ปัญหาการเมืองไทยจะกลายเป็นปัญาต่อการเติบโตของเศรษฐกิจต่อไปอีกระยะยาว ดังนั้น จึงอยากให้ทุกฝ่ายเคารพกฎกติกาและกฎเกณฑ์บ้านเมือง

ด้านนายนพพร เทพสิทธา ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือฯ กล่าวว่า เป้าหมายเดิมที่สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือฯ ตั้งเป้าไว้จะขยายตัวร้อยละ 0.5 -1 อาจเป็นไปได้ยาก เพราะ 3 เดือนสุดท้ายของปีนี้ต้องส่งออกให้ได้เดือนละ 20,000  ล้านดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้น จึงคาดว่าการส่งออกปีนี้น่าจะขยายตัวได้ที่ร้อยละ 0-0.5 ตามที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) คาดการณ์ ส่วนปีหน้าการส่งออกตั้งเป้าเติบโตไว้ที่ร้อยละ 5-7 โดยมีกลุ่มสินค้าที่ส่งผลต่อตัวเลขการส่งออกให้เติบโตได้ดี คือ ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ อาหาร แต่ก็ยังมีปัจจัยเสี่ยงทั้งปัญหาทางด้านการเงินของโลก จากการลดเพดานหนี้ของสหรัฐที่เหมือนระเบิดเวลา ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก  ปัญหาภัยธรรมชาติ และการปรับตัวของประเทศเพื่อนบ้านที่เริ่มนำหน้าไทยไปมาก ขณะที่ขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยไม่เพิ่มขึ้น โดยรัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญกับการเพิ่มประสิทธิภาพของวัตถุดิบ และการทำวิจัยและพัฒนา


ส่วนปัญหาทางด้านการเมืองของไทยได้ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนโดยในช่วงหลังการสั่งซื้อสินค้าจะลดลง สั่งซื้อล่วงหน้าแค่ 1 เดือน เพื่อรอดูสถานการณ์และหากสถานการณ์การเมืองยืดเยื้อกระทบทั้งการส่งออกและเศรษฐกิจของประเทศ เพราะรัฐบาลจะต้องให้เวลาในการแก้ปัญหาทางการเมืองให้ความสนใจกับเศรษฐกิจน้อยลง ขณะที่ความสามารถในการแข่งขันของไทยจะต้องเข้าไปดูแล ส่วนการย้ายฐานการผลิตของนักลงทุน อาจเตรียมพร้อมไว้แล้ว แต่การเมืองอาจช่วยกระตุ้นให้การย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศอื่นเร็วขึ้น

ที่มา -