ข่าว:

ห้ามโพสโฆษณา สินค้าที่ดูแล้วขัดต่อ ศีลธรรม ประเพณี หรือกฏหมายของไทย เด็ดขาด หากพบจะแบนสมาชิกนั้นออกจากบอร์ดทันที

Main Menu

เรือดำน้ำลำแรกเข้าฐานทัพวันขึ้นปีใหม่เอาฤกษ์งาม เวียดนามเตรียมพิธีต้อนรับ

เริ่มโดย mrtnews, ม.ค 03, 14, 19:52:18 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 2 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - คณะนายทหารระดับสูงของกระทรวงกลาโหม และกองทัพประชาชนเวียดนาม มีกำหนดเดินทางไปยังฐานทัพอ่าวกามแรงในวันศุกร์ 3 ม.ค. 57 นี้เพื่อร่วมพิธีต้อนรับเรือดำน้ำลำแรกของประเทศ ส่วนพิธีนำขึ้นระวางประจำการอาจจะจัดขึ้นอีกครั้งหนึ่งใน 3 เดือนข้างหน้าพร้อมๆ กับเรือดำน้ำลำที่ 2 ไปถึง สื่อของทงการรายงานอ้างการเปิดเผยของแหล่งข่าว ในขณะที่กำหนดการต่างๆ ยังคงเป็นความลับ


เรือโรลด็อกค์ซี (Rolldock Sea) ซึ่งเป็นเรือขนส่งบรรทุกขนาดใหญ่ของบริษัทในประเทศเนเธอร์แลนด์ ได้นำเรือดำนน้ำนครฮานอย (Hanoi City HQ-182) แล่นผ่านช่องแคบสิงคโปร์เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.2556 และเวลาประมาณ 22 น.วันที่ 31 ได้จอดทอดสมอในน่านน้ำสากลใกล้กับเขตน่านน้ำเวียดนาม

ในตอนเช้าวันพุธที่ 1 ม.ค. 57 ยานลำเลียงขนส่งทางทะเลขนาดใหญ่ได้ปรากฏตัวทอดสมออยู่ในบริเวณอ่าวกามแรง (คัมราน) สิ้นสุดการเดินทางไกลเกือบ 30,000 กิโลเมตร จากนครเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์ก รัสเซีย ตลอดเวลา 1 เดือนครึ่งที่ผ่านมา "GDVN ข่าวการศึกษาเวียดนาม" รายงาน

สถานีโทรทัศน์ VTV1 ได้ออกรายงานเรื่องนี้ในข่าวภาคเช้าวันเดียวกัน และภาพแรกของเรือโรลด็อกค์ซี กับเรือดำน้ำลำแรกของประเทศได้ถูกเผยแพร่ออกไปอย่างรวดเร็วผ่านสื่อออนไลน์ต่างๆ ท่ามกลางความยินดีปรีดาของผู้คน

ฐานทัพอ่าวกามแรง จ.แค้งหว่า (Khanh Hoa) ในภาคกลางของประเทศได้ถูกกำหนดให้เป็น "บ้าน" ของเรือนครฮานอย กับเรือครโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh City HQ-183) ส่วนอีก 4 ลำกระจายกันประจำการในจังหวัดภาคเหนือ กับภาคกลางตอนบนของประเทศ

อ่าวกามแรง เป็นฐานทัพเรือใหญ่ที่สุดของเวียดนาม และเป็นท่าน้ำลึกที่ได้ชื่อว่าอยู่ในทำเลเหมาะสมที่สุด บรรดาชาติมหาอำนาจทางเรือต่างต้องการใช้ที่นั่นเป็นที่พักพิงกองเรือ รวมทั้งรัสเซีย เองที่หลายปีมานี้ได้พยายามเจรจากับเวียดนามเพื่อขอกลับคืนไปใช้ฐานทัพที่นั่น

ในยุคสงครามเวียดนาม กามแรง เป็นทั้งฐานทัพเรือ และฐานทัพอากาศใหญ่ของสหรัฐฯ ต่อมาในช่วงหลังที่ฝ่ายคอมมิวนิสต์ยึดอำนาจเบ็ดเสร็จ และรวมเวียดนามเหนือใต้เข้าเป็นหนึ่งเดียวกันอดีตสหภาพโซเวียต ได้ขอเช่าเป็นเวลา 22 ปี

แต่การล่มสลายของอาณาจักรใหญ่โลกคอมมิวนิสต์เมื่อปี 2534 ทำให้รัสเซียในเวลาต่อมาถอนตัวออกจากฐานทัพดังกล่าวก่อนสัญญาเช่าจะสิ้นสุดลงในปี 2545 โดยระบุว่า โลกได้กลับคืนสู่สันติภ่าพ จึงไม่มีความจำเป็นใดๆ ต้องใช้ฐานทัพในดินแดนเวียดนามอีก

นักวิเคราะห์ที่มีชื่อเสียงของรัสเซียกล่าวว่า การถอนฐานทัพออกจากอ่าวกามแรง นับเป็นการตัดสินใจผิดพลาดทางยุทธศาสตร์ครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งตั้งแต่มีสหภาพโซเวียต และรัสเซียเป็นต้นมา

เวียดนามกล่าวว่า รัฐธรรมนูญปัจจุบันไม่อนุญาตให้ต่างชาติใช้ดินแดนเป็นฐานทัพได้อีก แต่ก็ตกลงให้กองเรือรบของรัสเซีย แวะเวียนไปใช้บริการซ่อมบำรุง และใช้บริการด้านต่างๆ เป็นครั้งคราวไปตามความต้องการ ขณะเดียวกัน ก็พร้อมจะพิจารณาให้กองเรือรบของชาติอื่นๆ ได้เข้าไปใช้ที่นั่นเช่นเดียวกัน

ปัจจุบัน รัสเซียกำลังเร่งมือก่อสร้างอู่จอดเรือดำน้ำขึ้นในอ่าวกามแรงเช่นเดียวกันกับศูนย์ฝึกเรือดำน้ำทันสมัยอีก 1 แห่ง ซึ่งรวมอยู่ในสัญญาซื้อขายเรือดำน้ำทั้ง 6 ลำ ในแพกเกจใหญ่มูลค่าราว 2,000 ล้านดอลลาร์

นอกเหนือจากเรือนครฮานอย กับเรือนครโฮจิมินห์ เวียดนามได้ตั้งชื่อเรือดำน้ำอีก 4 ลำ ตามชื่อนครกับจังหวัดใหญ่ที่อยู่ติดฝั่งทะเลซึ่ง รวมทั้งเรือนครหายฝ่อง (Hai Phong City HQ-184) นครด่าหนัง (Danang City HQ-185) แค้งหว่า (Khanh Hoa City HQ-186) กับเรือบ่าเหรียะ-หวุงเต่า (Ba Ria- Vung Tao City HQ-187)


ทั้ง 6 ลำเป็นเรือดำน้ำโจมตีเร็ว (Fast Attack Submarine) ชั้นคิโล 636 ใช้เครื่องยนต์ดีเซลคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า เป็นเรือที่มีชื่อเสียงอีกที่สุดชั้นหนึ่งของโลกทั้งในด้านระบบอาวุธกับความเงียบดำน้ำ

สื่อในรัสเซียรายงานรายละเอียดว่า เรือเวียดนามเป็น "รุ่นปรับปรุง" (Improved Kilo-Class) เป็นเรือ "ยุคที่สาม" ของชั้นนี้มีระวาง 3,100-3,950 ตัน สร้างขึ้นมาพร้อมคุณสมบัติใหม่ๆ จำนวนหนึ่งรวมทั้งเงียบมากขึ้น และรูปร่าง "ล่องหน" มากขึ้น ติดจรวดนำวิถียิงโจมตีเป้าหมายที่อยู่ไกลออกไป 200 กิโลเมตร รวมทั้งยิงโจมตีเป้าหมายภาคพื้นดินได้ ทันสมัยที่สุดนับแต่สร้างเรือชั้นนี้ออกมาลำแรกหลายทศวรรษก่อน

เรือยาว 74 เมตร กว้าง 10 เมตร ความเร็วใต้น้ำ 20 นอต หรือประมาณ 37 กม./ชม. ระดับดำปฏิบัติการปกติ 240 เมตร และลึกสุด 300 เมตร ใช้ลูกเรือประจำ 52 คน ติดจรวดร่อน 3M-54 (Klub) ที่สามารถจมเรือบรรทุกเครื่องบินได้ ติดตั้งท่อยิงตอร์ปิโดขนาด 533 มม.จำนวน 6 ท่อ และเป็นรุ่นที่ติดระบบจรวดต่อสู้อากาศยาน

ในยามสงบสงคราม เรือดำน้ำชั้นคิโลใช้ปฏิบัติการโจมตีทำลายเรือรบกับเรือดำน้ำข้าศึกทั้งในระดับน้ำลึก และน้ำตื้น ในยามสันติ ใช้ปฏิบัติการลาดตระเวนป้องกันน่านน้ำ สนับสนุนปฏิบัติการทางทหารได้ในหลากหลายภารกิจการป้องกันประเทศ

เวียดนาม มีชายฝั่งทะเลยาว 3,000 กิโลเมตร เหนือจดใต้ พล.อ.ฝุ่งกวางแทง (Phung Quang Thanh) รัฐมนตรีกลาโหม ให้สัมภาษณ์หลายครั้งย้ำว่า การจัดซื้อเรือดำน้ำทั้ง 6 ลำ มีไว้เพื่อป้องกันเขตน่านน้ำ กับชายฝั่งอันอุดมสมบูรณ์ของประเทศ มิได้มีจุดประสงค์เพื่อการรุกรานแต่อย่างใด.


ที่มา -



..-