ข่าว:

รับสมัครเฉพาะชาวเรือและผู้ที่สนใจที่เป็นคนไทยเท่านั้น สมัครแล้วรออนุมัติประมาณ 2-3 วัน หากต้องการด่วนโปรดแจ้ง webmaster@marinerthai.net

Main Menu

ขุมทรัพย์หงสาวดี

เริ่มโดย mrtnews, พ.ค 13, 13, 20:05:43 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 2 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

ประธานาธิบดีเต็ง เส่ง ผู้นำพม่า และคณะ กำลังอยู่ในระหว่างการเดินทางเยือน 5 ประเทศในยุโรป เป็นเวลา 10 วัน เริ่มตั้งแต่ 26 ก.พ. 56 โดยมีวาระสำคัญในการเปิดประตูประเทศสู่โลกกว้าง หลังจากรัฐบาลใหม่พม่านำโดยเต็ง เส่ง ได้รับการยอมรับและเชื่อมั่นมากขึ้นเรื่อย ๆ จากนานาชาติ จากการเดินหน้าปฏิรูปอย่างจริงจังและต่อเนื่อง

   
เมื่อการเมืองเอื้ออำนวย ด้านเศรษฐ กิจการค้าการลงทุนก็พลอยได้อานิสงส์ พม่าตอนนี้กลายเป็นประเทศที่นักลงทุนต่างชาติจับตามองมากที่สุดในบรรดา 10 ประเทศอาเซียนก็ว่าได้ จากการที่ทรัพยากรธรรมชาติรอการเก็บเกี่ยวเหลืออยู่อีกมาก โดยเฉพาะทรัพยากรพลังงาน น้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติ     
   
ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน สำนักข่าวเอเอฟพี เขียนบทความเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า การปฏิรูปการเมืองอย่างเป็นรูปธรรมของเต็ง เส่ง ช่วยทำให้ลบภาพลักษณ์พม่า ที่เคยเป็นประเทศผู้ร้ายในสายตาชาวโลก นานาชาติทยอยยกเลิกการคว่ำบาตร บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของโลกต่างหมายปองจะมีส่วนร่วมในการลงทุนกิจการน้ำมันและก๊าซในพม่า
   
ว่องไวกว่าใคร บรรลุข้อตกลงสำรวจกับรัฐบาลพม่าตั้งแต่เดือน มิ.ย. ปีที่แล้ว ประกอบด้วย บริษัทเครือข่าย ปตท. ของไทย ปิโตรนาสของมาเลเซีย อีพีไอ โฮลดิ้งส์ ของฮ่องกง และจีโอปิโตร อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้ง ของสวิตเซอร์แลนด์
   
ต่อมาในเดือน ก.ย. บริษัทโทเทล ยักษ์ใหญ่ของวงการแห่งฝรั่งเศส ซื้อหุ้น 40% ในโครงการสำรวจนอกชายฝั่ง ตามติดด้วย บริษัทพลังงานอันดับ 1 ของออสเตรเลีย วู้ดไซด์ ส่วนกลุ่มบริษัทของอเมริกาและยุโรปเพิ่งจะแห่เข้าไป หลังได้รับไฟเขียวจากรัฐบาล ซึ่งถือว่ายังไม่สาย
   
เพราะรัฐบาลพม่าเพิ่งจะเปิดประมูล การสำรวจแหล่งน้ำมันดิบนอกชายฝั่ง 18 แปลงเมื่อเดือนก่อน ส่วนอีกประมาณ 50 แปลง ยังไม่กำหนดวันเวลาว่าจะเปิดประมูลเมื่อไหร่
   
เดือนนี้ทางการพม่าเตรียมเปิดการประชุมนานาชาติ เกี่ยวกับพลังงานน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเชื่อกันว่าพม่ามีอยู่มาก เพียงแต่ยังไม่รู้แน่ชัดว่ามากแค่ไหน จนกว่าจะมีการตรวจสอบด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่
   
พม่าเป็นเพียงแค่หนึ่งในไม่กี่ประเทศของโลก ที่แหล่งพลังงานน้ำมันและก๊าซ ไม่ได้ถูกสำรวจอย่างเต็มที่ เนื่องจากที่ผ่านมาช่วงคณะทหารปกครองประเทศหลายสิบปี พม่ากลายเป็นประเทศปิด และถูกคว่ำบาตรจากนานาชาติ ข้อมูลด้านนี้มีน้อยมาก ซึ่งนั่นหมายถึงการเปิดกว้างของโอกาสและความคาดหวัง
   
ปัจจุบัน ภาคการพลังงานของพม่าครองส่วนแบ่ง  34 % ของการส่งออกทั้งหมดของประเทศ
   
การประเมินของสำนักงานข่าวกรองกลาง (ซีไอเอ) สหรัฐ ใต้ผืนดินอาณาเขตพม่ามีน้ำมันดิบอยู่ราว 50 ล้านบาร์เรล และก๊าซธรรมชาติประมาณ  283.2 พันล้านคิวบิกเมตร
   
แต่ในเว็บเพจของ เมียนมาร์ ออยล์ แอนด์ ก๊าซ เอนเตอร์ไพรส์ (เอ็มโอจีอี) ของทางการพม่า อ้างการประเมินเมื่อปี 2549 ว่า พม่ามีปริมาณน้ำมันดิบสำรองที่สำรวจพบแน่นอนแล้ว 226 ล้านบาร์เรล และก๊าซธรรมชาติ 457 พันล้านคิวบิกเมตร
   
แต่แหล่งข่าววงในทางการพม่าที่เอเอฟพีสัมภาษณ์ ยอมรับว่า ตัวเลขจากการประเมินดังกล่าว อาจสูงเกินจริง อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายเชื่อตรงกันว่า พม่ามีน้ำมันดิบใต้ทะเลนอกชายฝั่งมากกว่าบนบก และก๊าซธรรมชาติมีมากกว่าน้ำมัน
   
แหล่งข่าวอีกด้านเผยว่า เจ้าหน้าที่ทางการพม่าพยายามปิดบังข้อมูล แหล่งพลังงานที่สำรวจพบแล้ว รวมทั้งแหล่งที่ยังไม่เคยสำรวจแต่มีศักยภาพสูง ทั้งที่ตามจริงควรเปิดเผยเพื่อเป็นการดึงดูดการลงทุน
   
เจ้าหน้าที่ทางการพม่าอีกราย กล่าวว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีเต็ง เส่ง กำลังจัดระเบียบใหม่ เพื่อให้การประมูลทำธุรกิจต่าง ๆ ในพม่าทุกอย่างต้องเป็นไปอย่างโปร่งใส และได้มาตรฐานสากล รวมถึงภาคพลังงานที่มีอนาคตสดใสนี้ด้วย.

เลนซ์ซูม

ที่มา -