เปิดโลกใต้ทะเล ที่...มารีน ไลฟ์ พาร์ค

[mrtnews]

ทุกวิถีทางในช่วงเวลานี้ ที่ "สิงคโปร์" ประเทศเล็กๆในอาเซียนเร่งหาจุดขายเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างแดนเข้าไปเที่ยวในประเทศ ไม่ใช่แค่เพื่อรายได้ที่เพิ่มขึ้น หากแต่ยังหมายถึงภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของนานาประเทศ ต่อเกาะเล็กๆที่มีพื้นที่รอบเกาะเพียงแค่กว่า 50 กิโลเมตร เท่านั้น

แม้โดยส่วนตัวจะไม่พิสมัยเมืองลอดช่องแห่งนี้เท่าไหร่ แต่ด้วยความมุ่งมั่นที่รัฐบาลสิงคโปร์ พยายามหาของแปลกๆใหม่ๆมานำเสนออยู่ตลอดเวลา ทั้งยังส่งเทียบเชิญสื่อมวลชนจากประเทศต่างๆให้เข้าไปเยือน จนปฏิเสธเสียไม่ได้

ล่าสุด มีโอกาสเดินทางไปเที่ยวชม รีสอร์ต เวิลด์ เซนโตซ่า บนเกาะเซนโตซ่า ที่มีไฮไลต์สำคัญ คือ มารีน ไลฟ์ พาร์ค อควาเรียม พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีสัตว์ทะเลอาศัยอยู่กว่า 100,000 ตัว จากสายพันธุ์หลากหลายกว่า 800 ชนิด ซึ่งอาศัยอยู่ในน้ำที่มากกว่า 60 ล้านลิตร อันประกอบไปด้วย ดาวเด่นอย่างปลากระเบนราหูและฉลามหัวค้อน

Tan Hee Teck ประธานเจ้าหน้าที่บริหารแห่งรีสอร์ต เวิลด์ เซนโตซ่า บอกว่า มุ่งหวังให้ มารีน ไลฟ์ พาร์ค อควาเรียม เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่ตั้งอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ S.E.A. Aquarium

และก็ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่แค่คำคุยจริงๆ เพราะเมื่อเดินเข้าไปใน มารีน ไลฟ์ พาร์ค อควาเรียม คนไทยตัวเล็กๆอย่างเรา ยิ่งตัวเล็กหนักเข้าไปอีก เมื่อได้สัมผัสกับทะเลแบบเปิด (Open Ocean habitat) จากกระจกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยความยาวถึง 36 เมตร และสูงถึง 8.3 เมตร ที่ผู้สร้างบอกว่า ต้องการให้ผู้ชมได้รู้สึกเหมือนกับกำลังท่องไปในโลกแห่งท้องมหาสมุทรแหวกว่ายไปพร้อมกับฝูงปลากระเบนราหู ฉลามม้าลาย รวมทั้งสัตว์น้ำสีสันสดใสอีกมากมาย

ทะเลเปิดที่ มารีน ไลฟ์ อควาเรียม นี้ มีน้ำมากกว่า 45 ล้านลิตร เป็นที่อยู่อาศัยของฝูงปลาและเหล่าสัตว์ทะเลนับพันๆตัว ถ้าใครมีลูกมีหลานไปเที่ยว คงตื่นตะลึงกับความมหัศจรรย์ของโลกใต้ทะเลที่อยู่ข้างหน้า ยิ่งเติมความทันสมัยของอควาเรียมยักษ์ด้วยหน้าจอแสดงรายละเอียดกว่า 20 ตำแหน่ง พร้อมจอระบบสัมผัสอีก 20 จอด้วยแล้ว ยิ่งเหมือนกับเรากำลังดำดิ่งลงสู่ใต้ทะเลลึกด้วยตัวเองเลยจริงๆ

นอกจาก กระเบนราหู และ ฉลามหัวค้อน ที่เป็นเหมือนพระเอก นางเอกของที่นี่แล้ว ยังมี ปลาเก๋า ขนาดมหึมา ปลานกขุนทองนโปเลียน และสัตว์น้ำขนาดยักษ์ชนิดอื่นๆรวมไปถึงนักล่าแห่งมหาสมุทรอย่างฉลามพันธุ์ต่างๆกว่า 200 ตัว

นอกจากความยิ่งใหญ่ที่ต้องการดึงดูดนักท่องเที่ยวแล้ว บิสวาจิต กูฮา ผู้อำนวยการฝ่ายการศึกษาและการอนุรักษ์ มารีน ไลฟ์ พาร์ค บอกว่า นอกจากต้องการให้คนที่เข้ามาเที่ยวชมมารีน ไลฟ์ พาร์ค ได้รับความสนุกสนาน และตื่นตะลึงกับความยิ่งใหญ่ของพิพิธภัณฑ์ สัตว์น้ำแห่งนี้แล้ว มารีน ไลฟ์ พาร์ค ยังให้ความสำคัญกับ 3 เสาหลัก คือ การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การเป็นแหล่งศึกษาหาความรู้ และการศึกษาวิจัยค้นคว้า

กูฮา  บอกว่า ในการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลนั้น จะใช้อควาเรียมแห่งนี้เป็นแหล่งศึกษาการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีในการดำรงชีวิตของสัตว์น้ำ รวมทั้งเป็นแหล่งอนุรักษ์พันธุ์ปลาต่างๆ รวมถึงการทำให้เป็นแหล่งที่ช่วยดูแลสัตว์น้ำซึ่งต้องการการดูแลเป็นพิเศษหรือไม่สบายอีกด้วย

"ผมคิดว่ามารีน ไลฟ์ พาร์ค จะต้องเป็นมหาสมุทรที่มีสุขภาพดี (healthy ocean) เราเน้นปัจจัยหลักในการดำเนินงาน 3 อย่าง คือ เป็นที่แห่งการสร้างแรงบันดาลใจ การสร้างพลังอำนาจ และการสร้างความ เปลี่ยนแปลง" กูฮาบอก พร้อมกับย้ำอีกว่า ทั้งหมดก็เพื่อที่จะปลุกจิตสำนึกในการรักษาและหวงแหนทรัพยากรทางธรรมชาติของโลก ไม่ใช่แค่สิงคโปร์เท่านั้น

นอกจากอควาเรียมแล้ว ภายในรีสอร์ต เวิลด์ เซนโตซ่า แห่งนี้ ยังมีสวนน้ำที่สร้างความสนุกให้แก่ผู้ที่ชื่นชอบความท้าทายทางน้ำ มีเครื่องเล่นที่น่าตื่นเต้นมากมาย

อดไม่ได้เลยได้ลิ้มลองความสนุกกับไรเดอร์สุดหวาดเสียวรูปแบบ hydro-magnetic coaster ที่คนเมืองนี้คุยอีกว่าเป็น hydro-magnetic coaster แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต่อด้วย เรนโบว์ รีฟ  ที่เราสามารถแหวกว่ายไปกับฝูงปลาจำนวนกว่า 25,000 ตัว ได้อย่างเพลิดเพลิน งานนี้ต้องเชื่อเค้าเหมือนกัน ว่ามันยิ่งใหญ่และแปลกใหม่จริงๆ

เดนนิส กิลเบิร์ท รองประธานอาวุโสฝ่ายสถานที่ท่องเที่ยวของรีสอร์ต เวิลด์ เซนโตซ่า บอกว่า "ไม่มีสถานที่ใดในโลกที่ใกล้เคียงกับมารีน ไลฟ์ พาร์ค ทั้งในแง่ของขอบเขตและแนวคิด เราเชื่อว่าที่นี่จะกลายเป็นห้องเรียนทางทะเลที่ใหญ่ที่สุดในโลก และจะเป็นการมอบโอกาสให้ประเทศสิงคโปร์กลายเป็นสถานที่ที่สำคัญในด้านการอนุรักษ์ทางทะเลและโปรแกรมทางการศึกษาต่างๆด้วย

ประทับใจกับบรรยากาศอบอุ่นในงานเฉลิมฉลองเปิดม่าน รีสอร์ต เวิลด์ เซนโตซ่า ด้วยเลค ออฟ ดรีมส์ ระบำน้ำประกอบแสงสีเสียงสุดอลังการ การแสดงโชว์ตระการตา ตามด้วยพลุ 12 นาที และความไพเราะของบทเพลงพลังเสียงโซปราโน่ของซาร่า ไบรท์แมน นักร้องชื่อดังระดับโลก

ทั้งๆที่ไม่เคยมีชื่อสิงคโปร์อยู่ในบัญชีการท่องเที่ยวประจำปี แต่หลังจากกลับมาคราวนี้แล้ว บอกได้คำเดียวว่า โลกกว้างกว่าที่ตาเราเห็นจริงๆ.


ที่มา -

[youtube=640,480]http://www.youtube.com/watch?v=oWr14nh8gfA[/youtube]

[youtube=640,480]http://www.youtube.com/watch?v=v_KtWCz-Ai8[/youtube]

[youtube=640,480]http://www.youtube.com/watch?v=ZtEgHHABnf8[/youtube]