ข่าว:

ห้ามโพสโฆษณา สินค้าที่ดูแล้วขัดต่อ ศีลธรรม ประเพณี หรือกฏหมายของไทย เด็ดขาด หากพบจะแบนสมาชิกนั้นออกจากบอร์ดทันที

Main Menu

ยกระดับเดินเรือขนส่งสินค้าและท่องเที่ยวในลุ่มแม่น้ำโขง

เริ่มโดย mrtnews, เม.ย 03, 14, 22:58:00 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

การเดินเรือขนส่งสินค้าและท่องเที่ยวในแม่น้ำโขงยกระดับครั้งสำคัญอีกรอบ หลังพาณิชยนาวี 4 ชาติลุ่มน้ำโขง ร่วมกันล่องเรือเพื่อจัดวางพิกัด GPS เป็นภาษาจีนและภาษาไทย ตั้งแต่ท่าเรือกวนเหล่ยของจีนล่องมาจนถึงท่าเรือหลวงพระบาง เอกชนเชื่อเดินเรือสะดวกขึ้นและเพิ่มความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว


ผู้สื่อข่าว "ฐานเศรษฐกิจ" ประจำจังหวัดเชียงราย รายงานว่า เมื่อเร็วๆนี้เจ้าหน้าที่เทคนิคของกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี กระทรวงคมนาคม หรือกรมเจ้าท่าเดิม ของ 4 ประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงตอนบน ประกอบด้วย ประเทศไทย สปป.ลาว เมียนมาร์ และสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ร่วมกันล่องเรือจากท่าเรือกวนเหล่ยของจีน ลงมาตามแม่น้ำโขงไปจนถึงท่าเรือหลวงพระบาง เมืองมรดกโลก สปป.ลาว และวิ่งทวนน้ำจากหลวงพระบางมาจนถึงเชียงแสน โดยใช้เรือชื่อ Xi Shuan Ban Na (สิบสองปันนา) มี นายเตา ไห่ ซิง กัปตันเรือจากบริษัท แม่โขง เดลต้า ทราเวล เอเจนซี่ จำกัด ซึ่งภารกิจในการเดินเรือครั้งนี้ เป็นการทำแผนที่ทางน้ำสำหรับการเดินเรือด้วยระบบ GPS. โดยได้ทำทั้งระบบภาษาไทยและภาษาจีน หลังจากก่อนหน้านี้กรมเจ้าท่าของไทยและ สปป.ลาว ได้ร่วมกันจัดทำระหว่างท่าเรือเชียงของไปจนถึงท่าเรือหลวงพระบาง เป็นภาษาไทยและภาษาลาวไปแล้ว

นายทรงกลด ดวงหาคลัง หัวหน้าสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 1 สาขาเชียงราย เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า การดำเนินการจัดทำแผนที่ทางน้ำเพื่อการเดินเรือด้วยระบบ GPS จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่งของการเดินเรือเพื่อการขนส่งทางน้ำหรือพาณิชยนาวี ตลอดจนเรือท่องเที่ยวในแม่น้ำโขงของประเทศกลุ่มอนุภูมิภาคแม่น้ำโขงตอนบน หลังจากก่อนหน้านี้ทางการจีนได้ระเบิดแก่งหินในหลายๆจุด เพื่อให้สามารถเดินเรือขนส่งสินค้าและเรือท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

ครั้งนั้นถือว่าเป็นความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของการเดินเรือในแม่น้ำโขง หลังรัฐบาลจีน สปป.ลาว เมียนมาร์ และไทย ได้เห็นพ้องต้องกันให้มีการพัฒนาการขนส่งทางแม่น้ำโขงเพื่อสนับสนุนการค้าและการท่องเที่ยวระหว่างกัน จึงได้ริเริ่มความร่วมมือในการพัฒนาการเดินเรือในล้านช้าง-แม่น้ำโขงในปี 2535 และจัดให้มีการสำรวจการขนส่งทางแม่น้ำโขงตอนบนร่วมกันในปี 2536 โดยได้ข้อสรุปว่าหากมีการปรับปรุงร่องน้ำ/ทางเดินเรือในแม่น้ำโขงอย่างเป็นขั้นตอน (stage) ก็จะสามารถรองรับการเดินเรือขนาด 300-500 เมตริกตันได้ตลอดปี และรัฐมนตรีคมนาคมของประเทศทั้ง 4 ได้ลงนามในความตกลงว่าด้วยการเดินเรือพาณิชย์ในแม่น้ำล้านช้าง-แม่น้ำโขง (Agreement on the Commercial Navigation on Lancang-Mekong River) ร่วมกันเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2543 ณ ท่าขี้เหล็ก สหภาพพม่า

"ผมมองว่านี่จะเป็นการยกระดับมาตรฐานการเดินเรือขนส่งสินค้า และการเดินเรือท่องเที่ยวในแม่น้ำโขง ซึ่งนับวันจะได้รับความนิยมมากขึ้น โดยในส่วนของการเดินเรือเพื่อการขนส่งสินค้านั้น ต้องยอมรับกันว่าการขนส่งสินค้าทางเรือเป็นการขนส่งสินค้าที่มีต้นทุนต่ำที่สุด ขณะที่การเดินเรือเพื่อการท่องเที่ยวนั้น เมืองริมน้ำชื่อดังระดับโลก ทั้งสิบสองปันนา เชียงแสน และหลวงพระบาง ล้วนแล้วแต่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยว และในอนาคตผมว่าน่าจะเป็นตลาดใหญ่ของการท่องเที่ยวในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงตอนบน" นายทรงกลด กล่าวและว่า

ในส่วนของความพร้อมท่าเรือในประเทศไทยนั้น ท่าเรือเชียงแสนแห่งที่ 1 หลังจากเลิกใช้เป็นท่าเรือพาณิชย์ ก็จะมีการใช้เป็นท่าเรือเพื่อการท่องเที่ยว โดยยกยอดเอากิจกรรมเกี่ยวกับการขนส่งสินค้าทางเรือในแม่น้ำโขงไปที่ท่าเรือเชียงแสนแห่งที่ 2 ทั้งหมด ซึ่งแม้ว่าปัจจุบันอาจจะมีปัญหาในเรื่องของระดับน้ำหน้าท่าอยู่บ้าง แต่กรมเจ้าท่าก็กำลังดำเนินการขุดลอก ซึ่งน่าจะแก้ไขปัญหาได้อย่างยั่งยืน


นายบุญธรรม ทิพย์ประสงค์ ประธานกรรมการหอการค้าจังหวัดเชียงราย กล่าวถึงเรื่องเดียวกันว่า การขนส่งสินค้าทางเรือในแม่น้ำโขง ณ วันนี้ถือว่าได้รับความนิยม ด้วยต้นทุนต่ำที่สุด และยังมีโอกาสพัฒนาเพื่อให้มีระบบการขนส่งด้วยเรือตู้คอนเทนเนอร์ตามมาตรฐานโลกในอนาคตอันใกล้นี้ แต่ว่าในส่วนของการขนส่งอาหารสดที่มีมูลค่าสูงๆนั้น สามารถขนส่งด้วยรถห้องเย็นวิ่งตามถนนสาย R3a เพราะสามารถทำได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ทั้งนี้ตนเชื่อว่า เมื่อระบบการขนส่งได้มาตรฐานแล้ว ปริมาณมูลค่าการค้าระหว่างไทย-จีน รวมไปถึงการค้ากับประเทศเพื่อนบ้านอีก 2 ชาติในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงตอนบน น่าจะสูงมากขึ้นกว่าเดิม

ในส่วนของผู้ประกอบการเดินเรือท่องเที่ยวในแม่น้ำโขงนั้น นางสาวผกายมาศ เวียร์รา ประธานกรรมการ บริษัท แม่โขง เดลต้า ทราเวล เอเจนซี่ จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดการท่องเที่ยวทางเรือในแม่น้ำโขงถือว่ามีการเติบโตในอัตราที่สูงมาก สังเกตง่ายๆได้จากจำนวนผู้ประกอบการนำเที่ยวที่เปิดรูทการท่องเที่ยวทางเรือในแม่น้ำโขงกันมากขึ้น แม้ว่าช่วงที่ผ่านมาจะเกิดวิกฤติความไม่สงบขึ้น แต่ก็ได้รับการแก้ไขแล้วอย่างเบ็ดเสร็จ ทำให้หมดห่วงในประเด็นของความปลอดภัยในการเดินเรือท่องเที่ยวในแม่น้ำโขง การเดินเรือด้วยระบบนำทางด้วย GPS น่าจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะมาช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการนำเที่ยว ซึ่งจะทำให้กลายเป็นปัจจัยบวกให้การท่องเที่ยวในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงตอนบนเติบโตแบบก้าวกระโดดกันอีกครั้งหนึ่ง

ที่มา -