ข่าว:

ห้ามโพสโฆษณา สินค้าที่ดูแล้วขัดต่อ ศีลธรรม ประเพณี หรือกฏหมายของไทย เด็ดขาด หากพบจะแบนสมาชิกนั้นออกจากบอร์ดทันที

Main Menu

AOD ล็อคสัญญายาวให้กับเรือขุดเจาะเพิ่มอีกมูลค่าสูงถึง 462 ล้านเหรียญสหรัฐ

เริ่มโดย mrtnews, พ.ค 14, 13, 18:30:35 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

Saudi Aramco เหมาจ้างเรือขุดเจาะทั้งสามลำของ AOD เป็นเวลา 3 ปี รวมมูลค่าสัญญาทั้งหมดสูงเกือบ 700 ล้านเหรียญสหรัฐ


บมจ. โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA ประกาศในวันนี้ว่า บริษัท เอเชีย ออฟชอร์ ดริลลิ่ง หรือ AOD ซึ่งเป็นกิจการร่วมทุนของบริษัท เมอร์เมด มาริไทม์ จำกัด (มหาชน) หรือเมอร์เมด ได้ลงนามในสัญญากับบริษัทน้ำมันแห่งชาติซาอุดิอาระเบีย หรือ Saudi Aramco ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของโลก มูลค่ารวมสูงถึง 462 ล้านเหรียญสหรัฐ

สัญญาดังกล่าว เป็นการว่าจ้างเรือขุดเจาะสามขาของ AOD ลำที่สองและลำที่สาม ให้ไปทำงานขุดเจาะในประเทศซาอุดิอาระเบีย เป็นระยะเวลา 3 ปี ในมูลค่ารวม 394 ล้านเหรียญสหรัฐ และยังมีโอกาสในการขยายสัญญาจ้างงานออกไปอีก 1 ปี โดยสัญญานี้ยังครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมให้กับเรือทั้งสองลำรวม 68 ล้านเหรียญสหรํฐอีกด้วย ทั้งนี้ เรือทั้งสองลำกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างที่อู่ต่อเรือ Keppel FELS ในสิงคโปร์ และมีกำหนดส่งมอบในเดือนเมษายน และกรกฎาคมตามลำดับ

ทั้งนี้ ซาอุดิอรามโค เพิ่งทำสัญญาในลักษณะเดียวกันนี้ ในการว่าจ้างเรือขุดเจาะสามขาลำแรกของ AOD ไปเมื่อเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา ดังนั้น เมื่อรวมมูลค่าของสัญญาทั้งหมด ส่งผลให้ในอีกสามปีข้างหน้านี้ AOD จะรับรู้รายได้ที่เกิดขึ้นรวมกันเกือบ 700 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ เมอร์เมดก่อตั้ง AOD ขึ้นในปี 2553 และปัจจุบัน มีสัดส่วนการถือครองหุ้นใน AODทั้งสิ้น 33.76%

"มูลค่าความสำเร็จของสัญญาฉบับนี้ เป็นสิ่งที่ยืนยันมุมมองของบริษัทฯ ที่มีต่ออนาคตของธุรกิจให้บริการขุดเจาะแก่บริษัทน้ำมันและก๊าซธรรมชาติว่ากำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น" นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ รองประธานกรรมการบริหารของ บมจ. โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ และรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ บมจ. เมอร์เมด มาริไทม์ กล่าว "เราได้ลงทุนสั่งสร้างเรือขุดเจาะแบบสามขาทั้งสามลำของ AOD ในจังหวะที่สินทรัพย์ยังมีราคาต่ำเพราะตลาดยังไม่ฟื้นตัว และในวันนี้เรากำลังได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนดังกล่าว เพราะ เรือขุดเจาะสามขาที่มีคุณสมบัติเฉพาะตัวสูงแบบของ AOD กำลังเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมาก ซึ่งเห็นได้จากเรือประเภทนี้มีอัตราการใช้ประโยชน์สูงมากเต็ม 100%"

"เรายินดีที่เรือขุดเจาะทั้งสามลำสามารถหาสัญญาที่มีอัตราค่าจ้างรายวันที่สูงมากได้ และปลาบปลื้มใจที่ได้เห็นวิสัยทัศน์ของเรากลายเป็นจริงขึ้นมาผ่านความสำเร็จของ AOD ในครั้งนี้ " ม.ล. จันทรจุฑา จันทรทัต กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าว "ซาอุดิ อรามโค ได้กลายมาเป็นหนึ่งในลูกค้ารายสำคัญที่สุดของกลุ่มเราในเวลาเพียงไม่นาน เริ่มตั้งแต่สัญญา 5 ปีสำหรับการว่าจ้างให้เป็นผู้ดำเนินการงานตรวจสอบ ซ่อมแซม และบำรุงรักษาแท่นขุดเจาะน้ำมัน โดยในอนาคต เราคาดว่า ตลาดตะวันออกกลางยังคงเป็นตลาดขนาดใหญ่สำหรับหน่วยธุรกิจต่างๆ ของเรา"

เมื่อเร็วๆ นี้ AOD ได้ออกหุ้นเพิ่มทุนใหม่จำนวน 20 ล้านหุ้นในราคาหุ้นละ 5 เหรียญสหรัฐ เพื่อระดมเงินทุนจำนวน 100 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับเตรียมรับมอบเรือขุดเจาะทั้งสองลำ ซึ่งสองผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน AOD ต่างก็จับจองซื้อหุ้นดังกล่าวทั้งหมด ส่งผลให้สัดส่วนการถือครองหุ้นหลังจากการเพิ่มทุนของเมอร์เมดและซีดริล เพิ่มมาอยู่ที่ระดับ 33.76% และ 66.18% ตามลำดับ ทั้งนี้ ซีดริล ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจของเมอร์เมด คือผู้นำในการให้บริการเรือขุดเจาะในทะเลน้ำลึก และยังรับหน้าที่ในการดูแลด้านการตลาดให้กับ AOD อีกด้วย

เกี่ยวกับ TTA
บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นเพื่อการลงทุนเชิงกลยุทธ์ ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยแผนการลงทุนของบริษัทฯ มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาธุรกิจอย่างสมดุลและหลากหลาย ทั้งในกลุ่มธุรกิจขนส่ง กลุ่มธุรกิจพลังงาน และกลุ่มธุรกิจโครงสร้างขั้นพื้นฐาน ซึ่งจะครอบคลุมทั้งการลงทุนในประเทศไทยและต่างประเทศ TTA ได้เริ่มต้นเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางธุรกิจจากเดิมที่เคยเป็นแต่เพียงผู้ให้บริการเรือบรรทุกสินค้าแห้งเทกองมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2538 ด้วยการขยายการลงทุนไปยังบริษัท เมอร์เมด มาริไทม์ จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจให้บริการวิศวกรรมโยธาใต้น้ำ และนำบริษัท เมอร์เมดเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ หลังจากนั้น บริษัทฯ จึงได้ขยายการลงทุนไปยังธุรกิจโลจิสติกส์และปุ๋ยในเวียดนาม (Baconco) ธุรกิจเหมืองถ่านหินในฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย และธุรกิจโลจิสติกส์ถ่านหิน (บมจ. ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส) ธุรกิจขนส่งน้ำมัน (Petrolift) และธุรกิจท่าเรือในตอนใต้ของประเทศเวียดนาม (Baria)

เกี่ยวกับเมอร์เมด
บริษัท เมอร์เมด มาริไทม์ จำกัด (มหาชน) เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการงานวิศวกรรมใต้ทะเลและงานให้บริการขุดเจาะแก่อุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาตินอกชายฝั่งชั้นนำ ก่อตั้งโดยนักประดาน้ำสัญชาติเดนมาร์ค ในปี 2526 เมอร์เมดมีฐานลูกค้าเป็นบริษัทน้ำมันและก๊าซธรรมชาติชั้นนำระดับโลก และได้รับการยอมรับจากลูกค้าในเรื่องของการให้บริการที่มีประสิทธิภาพ และมีความปลอดภัยสูง โดยในส่วนงานบริการวิศวกรรมใต้ทะเล เมอร์เมดให้บริการผ่านบริษัทในเครือ ซึ่งประกอบด้วย บริษัท เมอร์เมด ออฟชอร์ เซอร์วิสเซส ("MOS") บริษัท ซับเทค และบริษัท ซีสเคป เซอร์เวย์ส ซึ่งทั้งหมดจะทำงานร่วมกัน เพื่อนำเสนองานบริการวิศวกรรมใต้ทะเลครบวงจร ทั้งในเชิงเทคนิค และส่งนักประดาน้ำที่มีความเชี่ยวชาญไปปฏิบัติงานยังฐานการผลิตและสำรวจ ทั้งในประเทศไทย การ์ต้า และอินโดนีเซีย ปัจจุบัน ส่วนงานบริการวิศวกรรมใต้ทะเล เป็นเจ้าของเรือวิศวกรรมใต้ทะเลจำนวน 8 ลำ (โดยมี 3 ลำเป็นเรือสนับสนุนงานขุดเจาะพิเศษ) และยังเป็นเจ้าของอุปกรณ์ระบบดำน้ำลึกจำนวน 4 ตัว และยานพาหนะควบคุมระยะไกลอีก 12 ตัว เพื่อให้บริการลูกค้าทั่วทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินเดีย จีน เมดิเตอร์เรเนียน และตะวันออกกลาง สำหรับส่วนงานบริการขุดเจาะ ดำเนินการโดยบริษัท เมอร์เมด ดริลลิงค์ จำกัด (MDL) ซึ่งเป็นเจ้าของเรือขุดเจาะแบบ Tender rigs จำนวน 2 ลำ เพื่อให้บริการงานขุดเจาะ และให้บริการเรือที่พักอาศัยสำหรับสนับสนุนการขุดเจาะ นอกจากนี้ เมอร์เมดยังได้ก่อตั้ง ในบริษัท เอเชีย ออฟชอร์ ดริลลิ่ง จำกัด (AOD) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างเมอร์เมดกับซีดริล AOD เป็นเจ้าของเรือขุดเจาะแบบ jack-up rigs ที่ทันสมัยและมีคุณสมบัติเฉพาะตัวสูงจำนวน 3 ลำ ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างในสิงคโปร์ และมีกำหนดส่งมอบในปี 2556 ทั้งนี้ เมอร์เมดเป็นบริษัทสัญชาติไทย ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (MMT:SP) และมีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงเทพ ประเทศไทย ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.mermaid-maritime.com

เกี่ยวกับเอเชีย ออฟชอร์ ดริลลิ่ง
เอเชีย ออฟชอร์ ดริลลิ่ง เป็นบริษัทที่เมอร์เมดก่อตั้งขึ้นในปี 2553 เพื่อบริหารกองเรือขุดเจาะแบบสามขา (Jack up Rig) สมรรถนะสูงที่มีเทคโนโลยีทันสมัย ปัจจุบัน บริษัทมีกิจการย่อยอยู่รวมทั้งหมด 3 บริษัท ได้แก่ เอเชีย ออฟชอร์ ริก 1 จำกัด ("AOR1") เอเชีย ออฟชอร์ ริก 2 ("AOR2") และ เอเชีย ออฟชอร์ ริก 3 ("AOR3") ทั้งนี้ AOD จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ออสโล ประเทศนอร์เวย โดยเรือขุดจาะลำที่หนึ่งได้ส่งมอบไปแล้วเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2556 ในขณะที่เรือลำที่สองและลำที่สามมีกำหนดส่งมอบในเดือน เมษายน และ กรกฎาคม 2556 ตามลำดับ ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.aodrilling.com

เกี่ยวกับซาอุดิ อารามโค
ซาอุดิ อารามโค หรือบริษัทน้ำมันแห่งซาอุดิอาระเบีย เป็นผู้ผลิตและจัดเก็บน้ำมันอันดับหนึ่งของโลก ที่อยู่ภายใต้การบริหารงานของราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองดาห์ราน และมีน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติเหลวสำรองอยู่ถึง 259,700 ล้านบาร์เรล ทั้งนี้ ซาอุดิ อารามโค ถือเป็นบริษัทปิโตรเลียมแบบครบวงจรที่มีธุรกิจครอบคลุมทั้งการสำรวจบ่อน้ำมัน การขุดเจาะและกลั่นน้ำมัน ผลิตภัณฑ์ปิโครเคมี และการซื้อขายและจัดส่งน้ำมัน ในปี 2554 ซาอุดิ อารามโคสามารถผลิตน้ำมันดิบได้กว่า 9.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน และยังปฏิบัติงานในพื้นที่ต่างๆ ทั่วทั้งซาอุดิอาระเบีย อ่าวเปอร์เซีย และทะเลแดง คิดเป็นระยะทางรวม 1.5 ล้านกิโลเมตร

ที่มา -




AODได้งานจากบ.น้ำมันแห่งชาติซาอุฯว่าจ้างเรือจุดเจาะ มูลค่า 462 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

บมจ. โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA ประกาศในวันนี้ว่า บริษัท เอเชีย ออฟชอร์ ดริลลิ่ง หรือ AOD


ซึ่งเป็นกิจการร่วมทุนของบริษัท เมอร์เมด มาริไทม์ จำกัด (มหาชน) หรือเมอร์เมด ได้ลงนามในสัญญากับบริษัทน้ำมันแห่งชาติซาอุดิอาระเบีย หรือ Saudi Aramco ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของโลก มูลค่ารวมสูงถึง 462 ล้านเหรียญสหรัฐ

สัญญาดังกล่าว เป็นการว่าจ้างเรือขุดเจาะสามขาของ AOD ลำที่สองและลำที่สาม ให้ไปทำงานขุดเจาะในประเทศซาอุดิอาระเบีย เป็นระยะเวลา 3 ปี ในมูลค่ารวม 394 ล้านเหรียญสหรัฐ และยังมีโอกาสในการขยายสัญญาจ้างงานออกไปอีก 1 ปี โดยสัญญานี้ยังครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมให้กับเรือทั้งสองลำรวม 68 ล้านเหรียญสหรํฐอีกด้วย ทั้งนี้ เรือทั้งสองลำกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างที่อู่ต่อเรือ Keppel FELS ในสิงคโปร์ และมีกำหนดส่งมอบในเดือนเมษายน และกรกฎาคมตามลำดับ
 
ทั้งนี้ ซาอุดิอรามโค เพิ่งทำสัญญาในลักษณะเดียวกันนี้ ในการว่าจ้างเรือขุดเจาะสามขาลำแรกของ AOD ไปเมื่อเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา ดังนั้น เมื่อรวมมูลค่าของสัญญาทั้งหมด ส่งผลให้ในอีกสามปีข้างหน้านี้ AOD จะรับรู้รายได้ที่เกิดขึ้นรวมกันเกือบ 700 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ เมอร์เมดก่อตั้ง AOD ขึ้นในปี 2553 และปัจจุบัน มีสัดส่วนการถือครองหุ้นใน AODทั้งสิ้น 33.76%

"มูลค่าความสำเร็จของสัญญาฉบับนี้ เป็นสิ่งที่ยืนยันมุมมองของบริษัทฯ ที่มีต่ออนาคตของธุรกิจให้บริการขุดเจาะแก่บริษัทน้ำมันและก๊าซธรรมชาติว่ากำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น" นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ รองประธานกรรมการบริหารของ บมจ. โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ และรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ บมจ. เมอร์เมด มาริไทม์ กล่าว "เราได้ลงทุนสั่งสร้างเรือขุดเจาะแบบสามขาทั้งสามลำของ AOD ในจังหวะที่สินทรัพย์ยังมีราคาต่ำเพราะตลาดยังไม่ฟื้นตัว และในวันนี้เรากำลังได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนดังกล่าว เพราะ เรือขุดเจาะสามขาที่มีคุณสมบัติเฉพาะตัวสูงแบบของ AOD กำลังเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมาก ซึ่งเห็นได้จากเรือประเภทนี้มีอัตราการใช้ประโยชน์สูงมากเต็ม 100%"

"เรายินดีที่เรือขุดเจาะทั้งสามลำสามารถหาสัญญาที่มีอัตราค่าจ้างรายวันที่สูงมากได้ และปลาบปลื้มใจที่ได้เห็นวิสัยทัศน์ของเรากลายเป็นจริงขึ้นมาผ่านความสำเร็จของ AOD ในครั้งนี้ " ม.ล. จันทรจุฑา จันทรทัต กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าว "ซาอุดิ อรามโค ได้กลายมาเป็นหนึ่งในลูกค้ารายสำคัญที่สุดของกลุ่มเราในเวลาเพียงไม่นาน เริ่มตั้งแต่สัญญา 5 ปีสำหรับการว่าจ้างให้เป็นผู้ดำเนินการงานตรวจสอบ ซ่อมแซม และบำรุงรักษาแท่นขุดเจาะน้ำมัน โดยในอนาคต เราคาดว่า ตลาดตะวันออกกลางยังคงเป็นตลาดขนาดใหญ่สำหรับหน่วยธุรกิจต่างๆ ของเรา"

เมื่อเร็วๆ นี้ AOD ได้ออกหุ้นเพิ่มทุนใหม่จำนวน 20 ล้านหุ้นในราคาหุ้นละ 5 เหรียญสหรัฐ เพื่อระดมเงินทุนจำนวน 100 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับเตรียมรับมอบเรือขุดเจาะทั้งสองลำ ซึ่งสองผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน AOD ต่างก็จับจองซื้อหุ้นดังกล่าวทั้งหมด ส่งผลให้สัดส่วนการถือครองหุ้นหลังจากการเพิ่มทุนของเมอร์เมดและซีดริล เพิ่มมาอยู่ที่ระดับ 33.76% และ 66.18% ตามลำดับ ทั้งนี้ ซีดริล ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจของเมอร์เมด คือผู้นำในการให้บริการเรือขุดเจาะในทะเลน้ำลึก และยังรับหน้าที่ในการดูแลด้านการตลาดให้กับ AOD อีกด้วย

ที่มา -




TTA เผยเมอร์เมดเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุน AOD มูลค่า 996.54 ลบ.

บมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ (TTA) เปิดเผยว่า บมจ.เมอร์เมด มาริไทม์ ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ TTA ถือหุ้นอยู่ร้อยละ 57.14 ได้เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนของบริษัท เอเชีย ออฟชอร์ ดริลลิ่งค์ จำกัด (AOD) จำนวน  6,756,225 หุ้น จากจำนวนหุ้นที่ออกใหม่ทั้งหมดจำนวน 20,000,000 หุ้น ที่ราคาหุ้นละ 5.00 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 33,781,125 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา คิดเป็นเงินไทยเท่ากับ 996,543,188 บาท

จากการเข้าซื้อหุ้นในครั้งนี้ของเมอร์เมด ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของเมอร์เมดใน AOD เป็นร้อยละ 33.76 จากร้อยละ 33.75 โดย Seadrill และเมอร์เมดมีสัดส่วนการถือหุ้นรวมกันใน AOD ร้อยละ 99.94

เหตุผลที่เมอร์เมดซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ AOD การเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ AOD โดยเมอร์เมดในครั้งนี้แสดงให้ถึงความมั่นใจในความสำเร็จในระยะยาวของ AOD และแนวโน้มในอนาคตของตลาดเรือขุดเจาะสามขาที่มีคุณภาพสูง โดยมี Seadrill เป็นผู้จัดการและผู้ถือหุ้นใหญ่ของ AOD

โดยที่ Seadrill เป็นบริษัทแนวหน้าในบริษัทขุดเจาะนอกชายฝั่งที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก การลงทุนและการบริหารในเชิงกลยุทธ์ของ Seadrill ใน AOD จะสร้างฐานที่แข็งแกร่งในการพัฒนาต่อยอดธุรกิจโดยอาศัยความเป็นผู้นำทางธุรกิจขุดเจาะนอกชายฝั่งของ Seadrill

ที่มา -