เริ่มแล้วฝึกผสมกองทัพเรือ 'ไทย-ออสซี'

[mrtnews]

'AUSTHAI 2013' ออสเตรเลียส่ง 'เรือหลวงพารามัตต้า' ซ้อมร่วม 'เรือหลวงพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก - เรือหลวงรัตนโกสินทร์' ที่ทะเลอ่าวไทย จนถึงวันที่ 25 มี.ค. 56 นี้

19 มี.ค. 56 สถานเอกอัครราชฑูตออสเตรเลีย จัดกิจกรรมพาสื่อมวลชนเยี่ยมชม เรือรบหลวงออสเตรเลีย พารามัตต้า (HMAS Parramatta) และการฝึกผสมกองทัพเรือไทยกับกองทัพเรือออสเตรเลีย (AUSTHAI 2013) ณ กองบัญชาการกองเรือฟริเกตที่ 1 อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

โดยในการเปิดการฝึกผสมกองทัพเรือไทยกับกองทัพเรือออสเตรเลีย (AUSTHAI 2013) ได้มี พล.ร.ต.สมชาย ณ บางช้าง ผู้บัญชาการกองเรือฟริเกต ที่ 1 กองเรือยุทธการ ประเทศไทย พลเรือจัตวา แบรดดอน วีลเลอร์ อธิบดีกรมการปฏิบัติการทางทะเล กองทัพเรือออสเตรเลีย (Commodore Brad Wheeler (CDRE B.J. Wheeler), Director General Maritime Operations (DGMAROPS)) ประเทศออสเตรเลีย เป็นประธานเปิดงาน โดย พล.ร.ต.สมชาย กล่าวว่า การฝึกผสมกองทัพเรือไทยกับกองทัพเรือออสเตรเลีย มีความเป็นมาในการฝึกผสม AUSTHAI ของทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งเคยปฏิบัติมาหลายครั้ง โดยการฝึกครั้งแรกเป็นการฝึกผสม ANZUK ระหว่างกองทัพเรือไทย กับเครือรัฐออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และสหราชอาณาจักร ภายใต้ชื่อรหัส ANZUK ได้ทำการฝึกครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2516 ก่อนจะยุติการฝึกผสมชั่วคราว และต่อมากองทัพเรือออสเตรเลีย ได้ประสานขอทำการฝึกผสมกับราชยาวีไทยอีกครั้งในปี 2520 จนถึงปัจจุบัน

สำหรับในการฝึกปีนี้ พล.ร.ต.สมชาย ได้มอบหมายให้ น.อ.บรรพต เนตรกระจ่าง เสนาธิการกองเรือฟริเกตที่ 1 เป็นผู้ยังคับหมวดเรือฝึกผสมกองทัพเรือไทย ออสเตรเลีย (ผบ.มวฝ.ผส.ทร.อต.) AUSTHAI 2013 มีกำลังพลเข้าร่วมฝึกจำนวน 564 นาย แบ่งเป็นฝ่ายไทย 429 นาย ฝ่ายออสเตรเลีย 135 นาย โดยฝ่ายไทยมีกำลังเข้าร่วมฝึกประกอบด้วย ร.ล.พุทธยอดฟ้าจุฬาโลก และร.ล.รัตนโกสินทร์ และได้รับการสนับสนุนอากาศนาวีจากกองการบินทหารเรือ จำนวน 2 เครื่อง คือ บ.ลว. (DO - 228) และ ฮ.ปด.1 (S - 70 B) ขณะที่ฝั่งออสเตรเลีย ประกอบด้วย HMAS PARRAMATTA (FFH) และเครื่องบินลาดตระเวนตรวจการณ์ปราบเรือดำน้ำ แบบ P-3 ORION 1 เครื่อง อย่างไรก็ตามในการฝึก AUSTHAI 2013 จะดำเนินไปจนถึงวันที่ 25 มี.ค.56 โดยใช้พื้นที่ในการฝึกบริเวณอ่าวไทย

พล.ร.ต.สมชาย กล่าวอีกว่า ขั้นตอนการฝึกแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอน 1.ขั้นเตรียมการและการฝึกในท่า 2.ขั้นการฝึกในทะเล 3.ขั้นการวิจารณ์การฝึกและสรุปผลการฝึก โดยจุดมุ่งหมายในการฝึกครั้งนี้เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ และประสบการณ์ให้ก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ในการฝึกครั้งนี้ยังเป็นการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ต่างๆ อาทิ อุทกภัย หรือสงคราม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เรือรบหลวงออสเตรเลีย พารามัตต้า มีความยาว 118 เมตร ส่วนกว้างสุด(คานเรือ) 14.8 เมตร ส่วนที่ลึกลงไปในน้ำ 4.35 เมตร โดยอาวุธยุทโธปกรณ์หลักของเรือลำนี้ประกอบด้วย ปืน 5 นิ้ว (127 มม.) เครื่องยิงตอร์ปิโดจากเรือ และระบบปล่อยอาวุธทางดิ่งสำหรับขีปนาวุธชนิดอีโวล์ฟซีสแปโรว์ ซึ่งระบบขับเคลื่อนผสมดีเซลและแก๊สทำให้เรือสามารถรักษาความเร็วได้สูงสุดในระยะสั้น 27 น็อต และมีพิสัยทำการเกิน 6,000 ไมล์ทะเล ที่ 18 น็อต อย่างไรก็ตามในการเดินเยี่ยมชมเรือพารามัตต้า ที่มีเจ้าหน้าที่ของเรือเป็นผู้นำทาง โดยได้พาไปดูห้องประกอบอาหารและห้องต่างๆของเรือ ซึ่งภายในเรือลำนี้ยังได้มีห้องออกกำลังกาย ทั้งยังมีรถจักรยานด้วย โดยเจ้าหน้าที่ยังได้พาไปเดินเยี่ยมชมอยู่ที่บริเวณหัวเรืออีกด้วย แต่ไม่ได้มีการพาเยี่ยมชมห้องควบคุม หรือห้องที่เป็นความลับทางการทหาร ทั้งนี้กองทัพเรือไทย และกองทัพเรือออสเตรเลีย ยังได้สาธิตการเข้าตรวจค้นเรือต้องสงสัยทางทะเลให้ดูอีกด้วย โดยในการปฏิบัติการนี้ ใช้เรือยาง 2 ลำ ส่งเรือลำแรกเข้าประชิดเรือต้องสงสัยก่อน หลังจากนั้นก็เข้าไปบนเรือ ซึ่งจะให้ลูกเรือทั้งหมดไปนั่งรวมอยู่ที่หัวเรือ และนำลูกเรือไปตรวจทีละคน หากไม่พบสิ่งผิดปกติ ก็จะถอนชุดปฏิบัติการทันที แต่หากพบสิ่งผิดปกติก็จะดำเนินการจับกุมต่อไป

ที่มา -