คณะกรรมาธิการฯ ลงพื้นที่ดูปัญหาชายฝั่งทะเลเกาะสีชัง

[mrtnews]

ศูนย์ข่าวศรีราชา - คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สภาผู้แทนราษฎร ลงพื้นที่ดูแลปัญหาชายฝั่งทะเลเกาะสีชัง เพื่อนำได้ประกอบการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติฯ

วันนี้ (21 มี.ค.56) นายแพทย์สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยคณะ ลงพื้นเกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี เพื่อดูปัญหาและผลกระทบที่เกิดขึ้นบริเวณรอยต่อระหว่าง เทศบาลเกาะสีชัง กับเทศบาลเมืองศรีราชา

นายแพทย์สุรวิทย์ คนสมบูรณ์เผย หลังจากที่ได้รับฟังบรรยายสรุปพร้อมนั่งเรือลงดูพื้นที่จริง พบว่า พื้นที่ดังกล่าวมีปัญหาหลายประการ ที่จะต้องได้รับการแก้ไข โดยเฉพาะในเรื่องของการจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อมชายฝั่ง เนื่องจากบริเวณดังกล่าว มีเรือบรรทุกสินค้าประเภทมันสำปะหลัง ซึ่งทำให้เกิดฝุ่นฟุ้งกระจายไปทั่ว พร้อมทั้งยังปลิวฟุ้งกระจายขึ้นฝั่งเกาะสีชัง ส่งผลกระทบต่อประชาชน และท้องทะเลไทย ซึ่งหลังจากนี้ คงจะนำปัญหาต่างๆ ไปหารือ พร้อมทั้งจะผลักดัน เพื่อนำไปเป็นส่วนหนึ่งในร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง

นายดำรงค์ เภตรา นายกเทศบาลตำบลเกาะสีชัง เผยว่า การเดินทางมาของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ในครั้งนี้ ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะ จะได้รับทราบถึงปัญหาจริงๆ โดยที่ผ่านมา เกาะสีชัง ประสบปัญหาผลกระทบสิ่งแวดล้อมมานานมากแล้วเรื่องของการขนส่งมันสำปะหลังกลางทะเล ประชาชนในพื้นที่เดือดร้อนอย่างมาก ระบบนิเวศน์ใต้ท้องทะเลในบริเวณดังกล่าวได้รับผลกระทบ

ที่ผ่านมาทางเทศบาลฯ ได้พยายามที่จะแก้ไขปัญหา โดยตั้งเป้า ใครทำให้เกิดปัญหาคนนั้นจะต้องได้รับผิดชอบ โดยที่ผ่านมาได้ทำเรื่องขยายเขตรับผิดชอบชายฝั่ง ออกเทศบัญญัติ เพื่อควบคุมดูแลเรือบรรทุกสินค้าที่ข้ามาจอดลอยลำในพื้นที่รอบเกาะสีชัง และสร้างปัญหา ในเรื่องของสิ่งแวดล้อม ทั้งขยะบนเรือ และน้ำเสียจากเรือ แต่ก็ไม่สามารถครอบคลุมเรือบรรทุกสินค้าประเทศมันสำปะหลังที่จอดขนถ่ายกันกลางทะเลได้ เนื่องจากเรื่องนี้มีหน่วยงานที่รับผิดขอบอยู่แล้วคือ กรมควบคุมผลพิษ สิ่งแวดล้อม และ กรมเจ้าท่า ซึ่งจะต้อง ร่วมกันบูรณาการ จากทุกหน่วยงานทำงานร่วมกัน

อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ มีมานานมาแล้วแต่ ก็ ไม่ได้รับการแก้ไข ทำให้เกิดปัญหาเรื้อรังมาจนถึงทุกวันนี้ นอกจากนี้ปัญหาอีกประการหนึ่ง ที่จะต้องได้รับการดูแลคือ เรื่องของอุบัติภัยทางทะเล เนื่องจากเกาะสีชังเป็นเกาะที่อยู่กลางทะเล และมีเกาะเล็กๆ ล้อมรอบอีกประมาณ 9 เกาะ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขา และมีโขดหินประมาณ 80% พร้อมทั้งมีท่าเทียบเรือขนส่งสินค้าจากต่างประเทศ มีแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์สมัยรัชกาลที่ 5 ที่น่าสนใจหลายแห่ง

พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่สร้างรายได้ให้กับประเทศชาติอย่างมหาศาล แต่หากเกิดอุบัติภัยทางทะเลขึ้นมาเราไม่มีหน่วยงานโดยตรงที่รับผิดชอบในการช่วยเหลือ ซึ่งขณะนี้กำลังผลัดดันของงบประมาณจากรัฐบาลจัดตั้งศูนย์ป้องกันภัยทางทะเล ขึ้นเพื่อคอยช่วยเหลือคุ้มกันนักท่องเที่ยวในขณะที่เดินทางมาเกาะสีชังให้เกิดความอบอุ่นและมั่นคง

พร้อมทั้งช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเลจากเรือสินค้าต่างประเทศและในประเทศ รวมทั้งผู้ประกอบการประมงทั่วอ่าวไทยตอนบนทั้งหมด เพราะในแต่ละปีมีความเสียหายนับพันล้านบบาทจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในทะเล และเพื่อความมั่นใจของนักลงทุนด้านการขนส่งทางทะเลจากต่างประเทศในเรื่องของความปลอดภัยทางทะเลในประเทศไทย

ดังนั้น บนเกาะสีชังจึงควรมีหน่วยกูภัยของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยที่มีศักยภาพในรัศมีปฏิบัติการทั่วบริเวณอ่าวไทยตอนบนทั้งสองฝั่งเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยดังกล่าว ซึ่งสิ่งที่ควรมีคือ เรือตรวจการณ์ความเร็วไม่ต่ำกว่า 35 น็อต เรือดับเพลิงไม่น้อยกว่า 2 ลำ เรือยางกู้ภัยไม่น้อยกว่า 5 ลำ อาคารที่ทำการศูนย์คาดว่าจะใช้งบประมาณ 100 ล้านบาท

ที่มา -