ข่าว:

ห้ามโพสโฆษณา สินค้าที่ดูแล้วขัดต่อ ศีลธรรม ประเพณี หรือกฏหมายของไทย เด็ดขาด หากพบจะแบนสมาชิกนั้นออกจากบอร์ดทันที

Main Menu

มะกัน ‘ไม่เชื่อ’ อีกแล้ว - สัญญาณ ‘ปิง’ ที่ตรวจจับได้มาจาก ‘กล่องดำ’ MH370

เริ่มโดย mrtnews, พ.ค 29, 14, 19:46:01 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

ญาติเอ็มเอช 370 ท้อใจอีกรอบ...เจ้าหน้าที่สหรัฐฯสรุปไม่เชื่ออีกแล้ว สัญญาณ "ปิง" ที่เรือออสซี่ตรวจจับได้ 4 ครั้ง มาจาก "กล่องดำ" ของ เอ็มเอช 370 หลังส่ง "บลูฟิน-21" ลงไปค้นหาใต้มหาสมุทรอินเดียไม่พบซากเครื่องบินแม้แต่ชิ้นเดียว..


สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 29 พ.ค. 57 เกี่ยวกับการติดตามค้นหาเที่ยวบินเอ็มเอช 370 ที่หายสาบสูญไปตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค. 57 ว่า ขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่สหรัฐฯไม่เชื่ออีกแล้วว่า สัญญาณ "ปิง" ที่เรือออสเตรเลียตรวจจับได้ และกลายเป็น "ความหวัง" ที่จะพบซากเอ็มเอช 370 นั้น มาจาก "กล่องดำ" ของเที่ยวบิน เอ็มเอช 370 หลังจากการส่ง "บลูฟิน-21" ยานหุ่นยนต์สำรวจใต้น้ำของสหรัฐฯลงไปค้นหาบริเวณที่พบสัญญาณ "ปิง" ถึง 4 ครั้ง ทางตอนใต้ของมหาสมุทรอินเดีย เป็นช่วงเวลาถึง 7 สัปดาห์นั้น ไม่พบซากเครื่องบินแม้แต่ชิ้นเดียว

นายไมเคิล ดีน รองผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมด้านมหาสมุทรของกองทัพเรือสหรัฐฯ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่เกือบทั่วโลกเชื่อตรงกันว่าสัญญาณปิงที่ตรวจจับได้ ไม่ได้มาจากกล่องดำของเครื่องบินมาเลเซีย แอร์ไลน์สที่หายไป แต่มาจากสัญญาณอื่นที่มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้น เพราะถ้าสัญญาณปิงที่เรือออสเตรเลียตรวจจับได้มาจากกล่องดำจริง จะต้องพบซากเครื่องบินในระหว่างที่มีการค้นหา

ทั้งนี้ วันพุธที่ผ่านมา (28 พ.ค. 57) ทีมค้นหาเอ็มเอช 370 ของออสเตรเลียได้ประกาศยุติการค้นหาซากเครื่องบินใต้น้ำตามขั้นตอนแรกแล้ว โดยการส่ง "บลูฟิน-21" ได้เสร็จสิ้นภารกิจสุดท้ายของการค้นหาเครื่องบินมาเลเซีย แอร์ไลน์สในมหาสมุทรอินเดีย และอาจต้องรออีกอย่างน้อย 2 เดือนกว่าการค้นหาใต้ทะเลจะเริ่มขึ้นอีกครั้ง

ที่มา -




โอละพ่อ! จนท.สหรัฐฯ ชี้ "สัญญาณ Ping" ที่พบระหว่างค้นหาโบอิ้งมาเลเซีย "ไม่ได้มาจาก MH370"

เอเอฟพี - สัญญาณ Ping ที่เรือค้นหาของออสเตรเลียตรวจจับได้หลายครั้งในมหาสมุทรอินเดียตอนใต้ ระหว่างปฏิบัติการค้นหาเครื่องบินมาเลเซียแอร์ไลน์สที่สูญหายไป อาจไม่ได้มาจากเที่ยวบิน MH370 เจ้าหน้าที่กองทัพเรือสหรัฐฯแถลง วันนี้ (29 พ.ค. 57)


ไมเคิล ดีน รองผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมมหาสมุทรของกองทัพเรือสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์ต่อสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นว่า ผู้เชี่ยวชาญทุกฝ่ายเห็นพ้องแล้วว่า สัญญาณ Ping ที่พบน่าจะมาจากแหล่งกำเนิดอื่นๆ ที่เป็นฝีมือมนุษย์ และไม่เกี่ยวข้องกับเครื่องบินโบอิ้งที่สูญหายไปพร้อมกับผู้โดยสารและลูกเรือ 239 คน เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 57 ที่ผ่านมา
       
เขาอธิบายว่า หากสัญญาณ Ping ที่พบเมื่อช่วงต้นเดือนเมษายนมาจากกล่องบันทึกข้อมูลการบินหรืออุปกรณ์บันทึกเสียงภายในห้องนักบินจริง ทีมค้นหาก็จะต้องค้นพบมันไปแล้ว
       
"ทฤษฎีที่เป็นไปได้มากที่สุดเวลานี้ก็คือ (สัญญาณเหล่านั้น) น่าจะเป็นแค่เสียงที่เกิดจากเรือ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ภายในเครื่องตรวจจับสัญญาณ Ping (towed pinger locator) เอง" ดีนกล่าว
       
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ผู้นี้ระบุว่า แม้ไม่สามารถฟันธงชัดเจนได้ว่าสัญญาณ Ping เหล่านั้นไม่ได้มาจากกล่องดำอย่างแน่นอน ทว่าก็ไม่มีหลักฐานอื่นใดมายืนยันได้เช่นกันว่ามันมาจากกล่องดำจริงๆ
       
ผู้สื่อข่าวซีเอ็นเอ็นตั้งคำถามว่า ประเทศอื่นๆ ที่เข้าร่วมภารกิจค้นหาภายใต้การนำของออสเตรเลียได้ข้อสรุปเช่นนี้ด้วยหรือไม่ ดีน ยอมรับว่า "ใช่"
       
อุปกรณ์ตรวจจับสัญญาณ Ping ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ซึ่งถูกลากจูงโดยเรือโอเชียนชิลด์ของออสเตรเลีย เป็นเครื่องมือหลักที่ทีมค้นหาใช้ในการตรวจจับสัญญาณใต้น้ำบริเวณมหาสมุทรอินเดียตอนใต้ หลังข้อมูลดาวเทียมบ่งชี้ว่า เที่ยวบิน MH370 น่าจะตกบริเวณดังกล่าว
       
สัญญาณที่ตรวจจับได้อย่างต่อเนื่องในช่วงแรกๆ ทำให้นายกรัฐมนตรี โทนี แอบบ็อตต์ แห่งแดนจิงโจ้ถึงกับออกมาแถลงว่า ตน "มั่นใจอย่างยิ่ง" ว่าเป็นสัญญาณจากกล่องดำของเครื่องบินมาเลเซียแอร์ไลน์สที่สูญหายระหว่างเดินทางจากกัวลาลัมเปอร์ไปปักกิ่ง
       
ออสเตรเลียได้ส่งยานดำน้ำไร้คนขับ บลูฟิน-21 ของสหรัฐฯ ลงไปสำรวจพื้นมหาสมุทรบริเวณจุดที่พบสัญญาณ แต่ความพยายามค้นหาอย่างถี่ถ้วนทั้งทางอากาศ, ผิวน้ำ และใต้น้ำนานเกือบ 3 เดือนก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ
       
ภารกิจของยาน บลูฟิน-21 ถึงกำหนดสิ้นสุดลงไปแล้วเมื่อวานนี้ (28 พ.ค. 57) แต่ทางศูนย์ประสานงานร่วม (JACC) ของออสเตรเลียก็ยังไม่แถลงความคืบหน้า และไม่ให้ความเห็นใดๆ เกี่ยวกับข้อสรุปของ ดีน
       
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ JACC ระบุว่า หากภารกิจของยาน บลูฟิน-21 เสร็จสิ้นลงก็จะเข้าสู่ขั้นตอนถัดไป ซึ่งจะมีการนำเครื่องมืออันซับซ้อนมาสแกนพื้นมหาสมุทรที่ยังไม่ผ่านการสำรวจมาก่อน
       
JACC แถลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการวิเคราะห์และทบทวนข้อมูลทั้งหมดที่ได้รับมาเกี่ยวกับเส้นทางบินของ MH370

ญาติผู้โดยสารซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลเมืองจีนและมาเลเซีย ต่างแสดงความคับแค้นใจที่ผ่านมาเกือบ 3 เดือนก็ยังไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับเที่ยวบินนี้ และพวกเขายังกล่าวหาว่ารัฐบาลกัวลาลัมเปอร์จงใจปกปิดข้อมูลดาวเทียมที่สำคัญ
       
"เวลาผ่านไปนานมากแล้วแต่ก็ยังหาเครื่องบินไม่เจอเสียที พวกเราจึงไม่มั่นใจแล้วว่า การคำนวณจุดตกของเครื่องบินจะถูกต้องจริงหรือเปล่า" สตีฟ หวัง โฆษกกลุ่มสนับสนุนญาติเหยื่อชาวจีน 153 คนบนเที่ยวบิน MH370 แถลง

ที่มา -